แฉเป็นระลอก จ่าคลั่ง กราดยิงโคราช ทวงเงิน 4 แสนแต่โดนขู่สั่งขัง ต้นเหตุโศกนาฏกรรม

 
          เผยปมจ่าคลั่ง กราดยิงโคราช เงินส่วนต่างซื้อบ้านหาย 4 แสน ไม่ใช่ 5 หมื่นบาท รู้ความจริงจากเพื่อนซื้อบ้านโครงการเดียวกัน ไปทวงเงินที่ นางอนงค์ แต่โดนขู่สั่งขัง ก่อนนัดเจรจา นายหน้าเสนอคืนให้ 5 หมื่น แต่ขอกู้นางอนงค์ สุดท้ายเคลียร์ไม่ลงตัว ที่มาก่อเหตุสลด
         จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญกราดยิงโคราชที่มีคนร้ายเป็นทหารสังกัดค่ายสุธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ก่อเหตุยิง พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ อายุ 48 ปี สังกัดกรมสรรพาวุธกระสุนที่ 22 บชร.2 และนางอนงค์ มิตรจันทร์ อายุ 65 ปี ผู้เสียชีวิต ก่อนไปกราดยิงผู้บริสุทธิ์ในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยภรรยาของนายทหาร เผยว่า ผู้ก่อเหตุซื้อบ้านในโครงการสวัสดิการทหาร 1,500,000 บาท และได้ให้นางอนงค์ เป็นคนเดินเรื่องเอกสารและตกแต่งภายใน ซึ่งมีเงินเหลือ 50,000 บาท และได้เอาเงินส่วนนี้ไปให้นายหน้า แต่นายหน้าไม่เอาไปคืนผู้ก่อเหตุ แถมมีคำพูดของ พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ ที่อาจไปสะกิดใจผู้ก่อเหตุจนเกิดคลั่งขึ้นมานั้น

          อ่านข่าว : เปิดคำพูดสะกิดใจ ที่ทำให้จ่าเกิดคลั่ง กราดยิงโคราช ชนวนเงิน 50,000 แค่เสี้ยวเดียว

          ล่าสุด (10 กุมภาพันธ์ 2563) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า พ.อ. นฤพล มิตรจันทร์ สามีของนางอนงค์ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พร้อมระบุว่า ตอนนี้ไม่ได้โกรธแค้น จ.ส.อ. จักรพันธ์ พร้อมอโหสิกรรมให้แล้ว และฝากไปถึงภรรยาและลูกเขยว่าขอให้ไปสบาย


          ด้านนางลิ้นจี่ (นามสมมติ) ชาวบ้านในชุมชน ซึ่งรู้จัก จ.ส.อ. จักรพันธ์ ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุเซ็นสัญญาซื้อบ้าน 1.5 ล้านบาท แต่ราคาบ้าน 1 ล้านกว่าบาท ทำให้จะต้องได้เงินคืน 4-5 แสนบาท ไม่ใช่ได้เพียง 50,000 บาท ตามที่มีคนกล่าวอ้าง

          โดย 1 เดือนก่อนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุเคยเล่าให้เพื่อนในค่ายทหารฟังว่า ยังไม่ได้เงินส่วนเกิน คืนจากนางอนงค์ ที่จัดการเรื่องเอกสารซื้อบ้านให้ โดยมีนายพิทยาเป็นนายหน้า แต่นางอนงค์ อ้างว่าให้ผ่านนายหน้า ขณะที่เพื่อนทหารที่ซื้อโครงการเดียวกัน ได้เงินคืนแล้ว 400,000 บาท ขณะเดียวกัน นายพิทยา นายหน้า ก็พาผู้ก่อเหตุไปเที่ยวสถานบันเทิง โดยใช้จ่ายด้วยเงินส่วนแบ่ง ทำให้เงินหมดไปเรื่อย ๆ

          จากนั้น พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ ผู้ตาย เป็นตัวกลางการเจรจาให้ มีการนัดนางอนงค์มาชี้แจงข้อเท็จจริง โดยมีผู้ก่อเหตุร่วมพูดคุยด้วย นายหน้าเสนอจ่ายเงินคืนให้ 50,000 บาท แต่ไม่มีเงิน จึงขอกู้ยืมเงินจากนางอนงค์ แต่อาจมีการเคลียร์จำนวนเงินไม่ลงตัวหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ ผู้ก่อเหตุเข้าใจว่าตัวเองต้องได้เงินคืน 400,000 บาท จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว นอกจากนี้ จากที่ตนรู้จักกับ จ.ส.อ. จักรพันธ์ เป็นคนที่อัธยาศัยดี ยกมือไหว้เสมอ และไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เป็นคนเงียบขรึม


          ขณะที่ นางส้ม (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน จ.ส.อ. จักรพันธ์ เปิดเผยว่า 1 สัปดาห์ก่อนวันเกิดเหตุ ตนสังเกตเห็นว่า จ.ส.อ. จักรพันธ์ มีอาการเครียดทุกวัน ตนเดินผ่านหน้าบ้านเขา ตอนดึกเห็นเขาโวยวายเสียงดังอยู่ในบ้าน มีเสียงทุบข้าวของและบางครั้งก็ขับรถเสียงดัง

          ทั้งนี้ ตนไม่เชื่อว่าเขาจะได้เงินส่วนเกินคืนแค่ 50,000 บาท เพราะเงินโครงการของทหาร ถ้าซื้อ 1.5 ล้านบาท จะได้เงินส่วนเกินคืนประมาณเกือบ 500,000 บาท อีกทั้งทราบมาว่า ผู้ก่อเหตุได้ไปทวงถามเงินดังกล่าวจากนางอนงค์ บ่อยครั้งเข้า นางอนงค์ก็ขู่ว่าจะสั่งขังอีกด้วย ทำให้ผู้ก่อเหตุยิ่งมีอาการเครียด

          สำหรับ จ.ส.อ. จักรพันธ์ ปกติเป็นคนเงียบ ๆ แต่เมื่อเขาโมโหขึ้นมา ก็น่ากลัวอยู่ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผิดก็ว่าไปตามผิด ถ้าเขาก่อเหตุกับแค่คนที่เขาแค้นพอเข้าใจได้ ชาวบ้านอาจเห็นใจ แต่เขาไปทำร้ายคนที่ไม่รู้จักไปทั่วเมือง จึงเป็นสิ่งที่สังคมรับไม่ได้



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แฉเป็นระลอก จ่าคลั่ง กราดยิงโคราช ทวงเงิน 4 แสนแต่โดนขู่สั่งขัง ต้นเหตุโศกนาฏกรรม อัปเดตล่าสุด 23 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 16:25:27 157,691 อ่าน
TOP
x close