ภาพขนลุก ผัวเมียถ่ายรูปแฮปปี้ ก่อนภูเขาไฟปะทุ เถ้าถ่านร้อน-แก๊สพิษ ฝังกลบทั้งเป็น

 
              ภาพชวนขนลุก ผัวเมียไปเที่ยวเกาะภูเขาไฟ ถ่ายรูปแฮปปี้ ก่อนภูเขาไฟปะทุ ถูกฝังใต้เถ้าถ่านภูเขาไฟร้อน ๆ และแก๊สพิษ แต่รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์

             เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2563 เว็บไซต์เดอะซัน รายงานว่า ริค รี้ด กับ ไอวี่ คอห์น รี้ด คู่สามีภรรยาชาวอเมริกัน ถ่ายรูปคู่กันอย่างร่าเริงและยิ้มอย่างมีความสุขที่ฐานภูเขาไฟ ซึ่งมันเกือบจะกลายเป็นภาพสุดท้ายในชีวิตของพวกเขา เพราะไม่กี่นาทีหลังจากกดชัตเตอร์ ภูเขาไฟก็ปะทุ และพวกเขาก็ถูกฝังกลบด้วยเถ้าถ่านภูเขาไฟ

            ริคกับไอวี่ เดินทางไปท่องเที่ยวกันที่เกาะไวท์ หรือเกาะวาคารี ทางตอนเหนือของนิวซีแลนด์ ห่างจากชายฝั่งเกาะเหนือประมาณ 48 กิโลเมตร เกาะดังกล่าวเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังแห่งหนึ่งของนิวซีแลนด์ และมีคนไปเยี่ยมเยือนทุกปี

           ในวันที่ 9 ธันวาคม 2562 นักท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมทั้งริคและไอวี่ ขึ้นไปชมความสวยงามทางธรรมชาติของภูเขาไฟ ทั้งสองคนได้ถ่ายรูปคู่กัน ซึ่งจากในภาพจะเห็นได้ว่ามีไอพวยพุ่งขึ้นมาจากรอยแยกด้านหลัง ทว่าพวกเขาไม่รู้เลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น

           ประมาณ 15 นาทีต่อมา ภูเขาไฟเกาะไวท์ก็ปะทุ พ่นเถ้าถ่านและแก๊สภูเขาไฟออกมาเป็นจำนวนมาก และกลบฝังนักท่องเที่ยวเกือบ 50 คน โดยรายงานระบุว่า เหตุการณ์สยองดังกล่าวคร่าชีวิตนักท่องเที่ยวไป 26 คน และอีก 21 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ริคกับไอวี่รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บรุนแรงมาก

           ทั้งสองคนต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาปลูกถ่ายผิวหนังที่ไหม้เกรียม ริคมีแผลไหม้ 30 เปอร์เซ็นต์ทั่วร่างกาย และต้องเข้ารับการผ่าตัดถึง 3 ครั้ง ส่วนไอวี่มีแผลไหม้ 20 เปอร์เซ็นต์ ที่บริเวณมือ ขา และใบหน้า โดยพวกเขาทั้งคู่ต้องรักษาตัวในห้องไอซียู ที่โรงพยาบาลในนิวซีแลนด์ เป็นเวลานานร่วม 8 สัปดาห์ 


           "ภาพนั้นคือภาพสุดท้าย ก่อนที่ชีวิตของพวกเราจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล เพราะแค่ประมาณ 15 นาที หลังจากนั้น พวกเราก็พบว่าภูเขาไฟปะทุ และเราก็ถูกฝังอยู่ใต้เถ้าภูเขาไฟร้อน ๆ กับแก๊สพิษ ทริปในฝันของฉันและสามีกลายเป็นฝันร้าย และมันยังคงหลอกหลอนเราอยู่" ไอวี่ กล่าวหลังจากรอดชีวิตมาได้จากเหตุการณ์สุดสะพรึง

           ตอนนี้เพื่อน ๆ และครอบครัวของริคกับไอวี่ ได้เปิดระดมทุนบนเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อหาเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลให้กับพวกเขาทั้งคู่ โดยตั้งเป้ายอดบริจาคไว้ที่ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.55 ล้านบาท ขณะนี้มีผู้ร่วมบริจาคแล้ว 39,277 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.22 ล้านบาท