ความสำเร็จในการฟอร์มรัฐบาล 315 เสียงของพรรคพลังประชาชน (พปช.) รวมถึงการจัดโผ ครม. "สมัคร 1" เป็นเพียงการบรรลุผลในก้าวแรกเท่านั้น เพราะถ้ารู้จักคนอย่าง พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็จะรู้ว่าเขาเป็นคน "คิดใหญ่" และ "คิดไกล"
แม้หลายเสียงจะวิจารณ์โฉมหน้าของ ครม.ชุดที่ 57 ว่าเป็น ครม. ต่างตอบแทน หลัง "เหยี่ยวข้างกาย" ที่ร่วมเป็น-ร่วมตายกับ "นายใหญ่" ได้รับการปูนบำเหน็จเป็นเก้าอี้เสนาบดีหลายตัว อาทิ "นพดล ปัทมะ" ที่ปรึกษากฎหมายครอบครัวชินวัตร ได้เป็น รมว.ต่างประเทศ
"จักรภพ เพ็ญแข" อดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ได้เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี "ทรงศักดิ์ ทองศรี" และ "ธีระชัย แสนแก้ว" 2 ส.ส.อีสานที่มีลูกพี่ชื่อ "เนวิน ชิดชอบ" ได้เป็น รมช.คมนาคม และ รมช. เกษตรและสหกรณ์ ตามลำดับ แต่สำหรับ "ทักษิณ" เขาได้ลูกน้องที่ยิ่งกว่าจงรักภักดีเพิ่มอีกหลายคน
นอกจากนี้ "คนรักครอบครัว" อย่าง "ทักษิณ" ยังไม่ลืมเปิดโควต้า "ครม.ครอบครัวกตัญญู" ให้แก่ผู้มีอุปการคุณของ พปช. โดยยกเก้าอี้ รมช.สาธารณสุขให้ "ชวรัตน์ ชาญวีรกูล" บิดาของ ลูกกตัญญู ที่ชื่อ อนุทิน ชาญวีรกูล
ขณะที่โควต้าของ "พรรคพันธมิตร" เน้นหนักไปในทาง สามียอดกตัญญู ซึ่งทั้งเข็น-ดันศรีภริยาขึ้นแท่นเสนาบดีแทนตน อาทิ พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ เป็น รมว.พลังงาน อุไรวรรณ เทียนทอง เป็น รมว.แรงงาน อนงค์วรรณ เทพสุทิน เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ร.ต.(หญิง) ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี เป็น รมช.คลัง ตรงนี้ถือเป็นการแก้ไขปัญหาการเมือง-การมุ้งด้วยวิถีการเมือง
อย่างไรก็ตาม ในตำแหน่งที่มีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ "ทักษิณ" กลับไม่ปล่อยให้ "การเมือง" เป็นผู้กำหนดเกม แต่เขาเลือกบงการเกมนี้ด้วยตัวเอง ดังนั้น อย่าได้แปลกใจ หาก "ทักษิณ" จะจับ "หมอ" แต่งหล่อเป็นรองนายกฯ ควบ รมว.คลัง เพราะ "นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี" ไม่ใช่หมอธรรมดา แต่เป็นหมอที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดจากทั้ง "นายใหญ่-นายหญิง" เช่นเดียวกับการปลุกปั้น "มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ" เป็นรองนายกฯ ควบ รมว.พาณิชย์ เพื่อแสดงให้สังคมเห็นว่าคนไทยใครก็เป็น "ซาร์สเศรษฐกิจ" ได้ ถ้าหน่วยก้านดี และมีทักษิณเป็นแบ๊ค
รวมถึงการส่ง "พลเรือนคนที่ 3" นาม "สมัคร สุนทรเวช" ไปรั้งเก้าอี้ รมว.กลาโหม เพื่อยุติการแบ่งฝักฝ่ายภายในกองทัพ เพราะถ้าเอานายพลข้างซ้ายขึ้นเป็น กห.1 ย่อมทำให้นายพลข้างขวา กลายเป็นศัตรูของรัฐบาล พปช.ไปโดยปริยาย ทางออกที่ดีที่สุดจึงน่าจะอยู่ที่การให้ "นายกฯ คนที่ 25" ควบ รมว.กลาโหม ซึ่งถือเป็นการให้เกียรติกองทัพด้วย
เมื่อ "เบื้องหลัง" ในการจัดโผ ครม. เป็นเช่นนี้ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าโฉมหน้า ครม."สมัคร 1" ย่อมต้องต่ำกว่าความคาดหวังของสังคม แต่ถ้า "คิดอย่างทักษิณ" เขารู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะถูกด่าว่า "ขี้เหร่" แต่จงใจปล่อยให้กระบวนการต่างๆ ดำเนินไปตามจังหวะ ก่อนนำ "ตัวเจ๋ง" เข้ามาเสียบในการปรับ ครม. "สมัคร 2, 3, 4
