วิกฤตลอตเตอรี่ ! แม่ค้าบ่นระนาว หวยเหลือเต็มแผง งวด 16 ธ.ค. 63 ยอดขายตกไปเกือบครึ่ง หลังไม่มีหวยรวมชุด ชี้ คนอยากรวยรับเงินก้อนใหญ่ หาซื้อยาก
วันที่ 16 ธันวาคม 2563 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า หลังจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ปรับสูตรการพิมพ์และจำหน่ายสลากฯ ให้กับตัวแทนและผู้ค้ารายย่อยใหม่ ทำให้การรวมชุดสลากฯ ทำยากขึ้น หวังแก้ปัญหาสลากฯ รวมชุด ซึ่งเป็นสาเหตุลอตเตอรี่ราคาแพง โดยเริ่มตั้งแต่งวดวันที่ 16 ธันวาคม นี้นั้น
จากการสำรวจพบว่า บรรยากาศการซื้อ-ขายสลากฯ ค่อนข้างเงียบเหงา ไม่คึกคักเหมือนปกติ และแม่ค้าสลากฯ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ยอดขายลดลงกว่าปกติ ประมาณ 40-50% และยังมีสลากฯ เหลือเต็มแผง ยอมรับว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการปรับสูตรของกองสลาก ที่ทำให้การรวมชุดสลากฯ ทำยากขึ้น สลากฯ ที่วางขายส่วนใหญ่จึงเป็นใบเดี่ยว ที่ไม่จูงใจผู้ซื้อ
เนื่องจากผู้ซื้อส่วนใหญ่ต้องการสลากฯ รวมชุด เพื่อหวังเงินรางวัลก้อนใหญ่ สำหรับสลากฯ ที่รวมชุด 10-15 ใบ ไม่มีวางขายแล้ว เหลือเพียงชุด 4-5 ใบ ในราคาชุดละ 600-700 บาท ขึ้นอยู่กับเลขดัง เพราะหากจะจัดชุดขายแม่ค้าจำเป็นต้องไปหาซื้อจากยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ในราคาแพง ส่งผลให้ราคาขายแพงตามขึ้นไปด้วย
ขณะเดียวกันพบว่า กองสลากได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอบถามความเห็นและเก็บข้อมูลจากแผงค้าสลากฯ ยอมรับว่าได้รับเสียงสะท้อนจากผู้ค้าส่วนใหญ่ที่ระบุว่า ยอดขายตก เพราะไม่มีสลากฯ รวมชุด และสลากฯ ใบเดี่ยวขายยาก เหมือนกันแทบทุกราย ซึ่งข้อมูลนี้จะรวบรวมเสนอต่อส่วนงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากฯ เผยว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงเวลาประเมินมาตรการ เบื้องต้นพบว่า สลากฯ รวมชุด 20-30 ใบไม่มีเหลือแล้ว ชุด 10 ใบถือเป็นสินค้าหายาก ส่วน 5 ใบ ยังมีอยู่แต่ไม่มากและมีราคาแพงขึ้นตามความยากของการรวมเลขชุด ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาด แต่ที่เห็นได้ชัดและเป็นประโยชน์กับผู้ซื้อสลาก คือ การที่มีสลากฯ ใบเดี่ยวกระจายให้ประชาชนเข้าถึงในราคา 80 บาทได้มากขึ้น ถือเป็นการกระจายความรวย ยอมรับมาตรการนี้ ช่วงแรกอาจส่งผลกระทบต่อผู้ค้าบ้าง แต่เชื่อว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ต้องปรับตัวทั้งผู้ค้าปลีกและค้าส่ง
อย่างไรก็ตาม ทางกองสลาก ขอเวลา 2-3 เดือน เพื่อประเมินผลกระทบของผู้ซื้อและผู้ขาย ระหว่างความต้องการสลากฯ ชุดเพื่อได้รางวัลใหญ่ กับการซื้อสลากฯ 80 บาทได้ง่ายขึ้น หากผลกระทบรุนแรง ก็พร้อมจะปรับ
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
