จับสาวแบงก์แสบ แอบโอนเงินลูกค้าเอาไปใช้ส่วนตัว รวมมูลค่าความเสียหายนับ 10 ล้านบาท รู้ตัวจะโดนจับ ขับรถหนีชนต้นไม้ ไม่รอดโดนรวบ
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
จากกรณีผู้เสียหายหลายรายใน จ.ชัยภูมิ ถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลส่วนตัวจากการเป็นลูกค้าของธนาคาร ไปผูกเข้ากับบัตรเครดิต-บัตรเดบิต แล้วแอบโอนถอนเงินในบัญชีผ่านโทรศัพท์มือถือไปยังอีกธนาคาร ก่อนนำเงินไปลงทุนต่าง ๆ รวมเป็นมูลค่าความเสียหายนับ 10 ล้านบาทนั้น
อ่านข่าว : ทรุดเลย ! คนแก่-เมียฝรั่งในชัยภูมิ โดนดูดเงินในบัญชีเกลี้ยง 1.8 ล้าน เชื่อเจ้าหน้าที่แบงก์มีเอี่ยว
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
ล่าสุด (25 ตุลาคม 2564) สำนักข่าวไทย รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า นางกำไล อายุ 58 ปี และนางนรินทร์ อายุ 36 ปี 2 ยาย-หลานได้เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ ระบุว่า เงินในบัญชีของน้องสาวที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งโอนมาเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายจำนวนกว่า 1.8 ล้านบาท ได้หายไปจากบัญชี เหลือเงินติดบัญชีเพียง 3,700 บาท โดยสงสัยว่าถูกแอปพลิเคชันดูดเงินที่กำลังอาละวาดในขณะนี้โจรกรรมเงินไป
จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ พนักงานสาวของธนาคารแห่งหนึ่งที่ลอบโอนเงินลูกค้าจากบัญชี ตำรวจจึงขออนุมัติศาลจังหวัดชัยภูมิ เลขที่ 152/2564 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2564 กล่าวหา นางสาวปัทมา บุตรศรี อายุ 28 ปี ลูกจ้างธนาคารซึ่งกระทำความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง และนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ พร้อมส่งหมายให้ตำรวจออกติดตามตัว
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
ต่อมาตำรวจตามจับตัวนางสาวปัทมาเอาไว้ได้ หลังขับรถหลบหนีไปประสบอุบัติเหตุชนต้นไม้ข้างทาง บริเวณโค้งภูซาดบนถนนสายชัยภูมิ-แก้งคร้อ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลชัยภูมิ-ราม และควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองชัยภูมิ
เบื้องต้น นางสาวปัทมา ให้การรับสารภาพว่ากระทำเพียงคนเดียว จึงส่งตัวไปฝากขังยังศาลจังหวัดชัยภูมิ และต่อมานางสาวปัทมาได้ยื่นหลักทรัพย์มูลค่า 4 ล้านบาท เพื่อขอประกันตัวในชั้นศาลออกไป
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
จากกรณีผู้เสียหายหลายรายใน จ.ชัยภูมิ ถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลส่วนตัวจากการเป็นลูกค้าของธนาคาร ไปผูกเข้ากับบัตรเครดิต-บัตรเดบิต แล้วแอบโอนถอนเงินในบัญชีผ่านโทรศัพท์มือถือไปยังอีกธนาคาร ก่อนนำเงินไปลงทุนต่าง ๆ รวมเป็นมูลค่าความเสียหายนับ 10 ล้านบาทนั้น
อ่านข่าว : ทรุดเลย ! คนแก่-เมียฝรั่งในชัยภูมิ โดนดูดเงินในบัญชีเกลี้ยง 1.8 ล้าน เชื่อเจ้าหน้าที่แบงก์มีเอี่ยว
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
ล่าสุด (25 ตุลาคม 2564) สำนักข่าวไทย รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า นางกำไล อายุ 58 ปี และนางนรินทร์ อายุ 36 ปี 2 ยาย-หลานได้เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ ระบุว่า เงินในบัญชีของน้องสาวที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งโอนมาเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายจำนวนกว่า 1.8 ล้านบาท ได้หายไปจากบัญชี เหลือเงินติดบัญชีเพียง 3,700 บาท โดยสงสัยว่าถูกแอปพลิเคชันดูดเงินที่กำลังอาละวาดในขณะนี้โจรกรรมเงินไป
จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ พนักงานสาวของธนาคารแห่งหนึ่งที่ลอบโอนเงินลูกค้าจากบัญชี ตำรวจจึงขออนุมัติศาลจังหวัดชัยภูมิ เลขที่ 152/2564 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2564 กล่าวหา นางสาวปัทมา บุตรศรี อายุ 28 ปี ลูกจ้างธนาคารซึ่งกระทำความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง และนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ พร้อมส่งหมายให้ตำรวจออกติดตามตัว
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
ต่อมาตำรวจตามจับตัวนางสาวปัทมาเอาไว้ได้ หลังขับรถหลบหนีไปประสบอุบัติเหตุชนต้นไม้ข้างทาง บริเวณโค้งภูซาดบนถนนสายชัยภูมิ-แก้งคร้อ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลชัยภูมิ-ราม และควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองชัยภูมิ
เบื้องต้น นางสาวปัทมา ให้การรับสารภาพว่ากระทำเพียงคนเดียว จึงส่งตัวไปฝากขังยังศาลจังหวัดชัยภูมิ และต่อมานางสาวปัทมาได้ยื่นหลักทรัพย์มูลค่า 4 ล้านบาท เพื่อขอประกันตัวในชั้นศาลออกไป
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย