สรุปดราม่า ดองเหล้าบ๊วยในร้านก็ผิด ตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นเรื่องจังหวะนรกแท้ ๆ ที่เจ้าหน้าที่มาตรวจพอดีโดยไม่ทันระวัง ทำให้ถูกปรับ 2 กระทง รวม 1 หมื่นบาท
วันที่ 10 เมษายน 2565 กำลังมีไวรัลดังที่คนกำลังสนใจและแชร์เป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับการทำเหล้าบ๊วย โดยไวรัลดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้.. เฟซบุ๊ก Surathai มีการโพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า "ฤดูดองเหล้าบ๊วย ในประเทศแห่งเสรีภาพ ก็ระวังกันด้วยครับ เคสนี้ 10 ลิตร หมื่นบาท สด ๆ ร้อน ๆ" พร้อมกับลงภาพเหล้าบ๊วยที่ถูกตำรวจยึดขึ้นรถไป
ส่วนสาเหตุที่เป็นไวรัลดัง น่าจะเป็นเพราะคนต่างสงสัยกันว่า แค่ดองเหล้าบ๊วยเอง กินเอง ทำแบบนี้ผิดกฎหมายด้วยเหรอ เคสดังกล่าวก็โดนกันหลักหมื่น ทั้งที่ความจริง มีสิ่งที่อันตรายกว่าเหล้าบ๊วยตั้งเยอะ ทำไมไม่ไปจัดการบ้าง
เล่าละเอียดยิบ ดองเหล้าบ๊วยผิดสถานที่ บวกเจอจังหวะนรกพอดี
เจ้าของเหล้าบ๊วยคนดังกล่าวเป็นคนที่สนใจด้านสุรา จนสามารถเปิดร้านจำหน่ายสุราได้ เน้นสุราจากญี่ปุ่น เช่น อูเมซุ สาเก โชจู รวมถึงสุราชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์ เรียกว่า เน้นขายของด้วยใจรัก ไม่ได้ขายของที่ซื้อง่ายขายคล่อง
ส่วนวันเกิดเหตุ มีการนำบ๊วยมาดองเหล้าเพื่อทดลองสูตรต่าง ๆ ที่เขาทดลองทุกปีในฤดูบ๊วย ใช้เหล้าแปลก ๆ แพง ๆ มาดอง แต่ว่าวันนั้นประมาทเกินไปที่มาดองอยู่ในร้าน และเป็นจังหวะที่เจ้าหน้าที่ปราบปรามของสรรพสามิต เข้ามาขอตรวจใบอนุญาตจำหน่ายสุราพอดี ทำให้เจ้าหน้าที่เห็นว่ากำลังทำอะไร ดังนั้นจึงตั้งข้อหาเปลี่ยนแปลงน้ำสุราเพื่อการค้า และอื่น ๆ เพราะว่าทำขณะที่อยู่ในร้านขายสุรา ไม่ว่าจะขายหรือไม่ก็ตีเจตนาทำเพื่อขายไว้ก่อน
สรุปความผิดสามารถตีได้ 2 กระทงดังนี้
- มาตรา 158 ข้อหาเปลี่ยนแปลงน้ำสุราเพื่อการค้า มีโทษปรับตามมาตรา 196 ไม่เกิน 5,000 บาท เท่ากับว่าปรับเต็มอัตรา
- มาตรา 157 เปลี่ยนแปลงภาชนะบรรจุสุราเพื่อการค้า มีโทษปรับตามมาตรา 196 ไม่เกิน 5,000 บาท เท่ากับว่า 2 ข้อหา เจอโทษปรับ 10,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ใครที่ทำเหล้าบ๊วยที่บ้าน จะไม่ถูกตั้งข้อหา 2 ข้อนี้ แต่ก็ไม่รับประกันว่า จะไม่โดนข้อหาอื่น นั่นก็คือ "มีไว้ในครอบครองซึ่งสุราที่ผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาต" ที่มีค่าปรับสูงสุด 10,000 บาท
วันที่ 10 เมษายน 2565 กำลังมีไวรัลดังที่คนกำลังสนใจและแชร์เป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับการทำเหล้าบ๊วย โดยไวรัลดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้.. เฟซบุ๊ก Surathai มีการโพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า "ฤดูดองเหล้าบ๊วย ในประเทศแห่งเสรีภาพ ก็ระวังกันด้วยครับ เคสนี้ 10 ลิตร หมื่นบาท สด ๆ ร้อน ๆ" พร้อมกับลงภาพเหล้าบ๊วยที่ถูกตำรวจยึดขึ้นรถไป
ส่วนสาเหตุที่เป็นไวรัลดัง น่าจะเป็นเพราะคนต่างสงสัยกันว่า แค่ดองเหล้าบ๊วยเอง กินเอง ทำแบบนี้ผิดกฎหมายด้วยเหรอ เคสดังกล่าวก็โดนกันหลักหมื่น ทั้งที่ความจริง มีสิ่งที่อันตรายกว่าเหล้าบ๊วยตั้งเยอะ ทำไมไม่ไปจัดการบ้าง
เล่าละเอียดยิบ ดองเหล้าบ๊วยผิดสถานที่ บวกเจอจังหวะนรกพอดี
เจ้าของเหล้าบ๊วยคนดังกล่าวเป็นคนที่สนใจด้านสุรา จนสามารถเปิดร้านจำหน่ายสุราได้ เน้นสุราจากญี่ปุ่น เช่น อูเมซุ สาเก โชจู รวมถึงสุราชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์ เรียกว่า เน้นขายของด้วยใจรัก ไม่ได้ขายของที่ซื้อง่ายขายคล่อง
ส่วนวันเกิดเหตุ มีการนำบ๊วยมาดองเหล้าเพื่อทดลองสูตรต่าง ๆ ที่เขาทดลองทุกปีในฤดูบ๊วย ใช้เหล้าแปลก ๆ แพง ๆ มาดอง แต่ว่าวันนั้นประมาทเกินไปที่มาดองอยู่ในร้าน และเป็นจังหวะที่เจ้าหน้าที่ปราบปรามของสรรพสามิต เข้ามาขอตรวจใบอนุญาตจำหน่ายสุราพอดี ทำให้เจ้าหน้าที่เห็นว่ากำลังทำอะไร ดังนั้นจึงตั้งข้อหาเปลี่ยนแปลงน้ำสุราเพื่อการค้า และอื่น ๆ เพราะว่าทำขณะที่อยู่ในร้านขายสุรา ไม่ว่าจะขายหรือไม่ก็ตีเจตนาทำเพื่อขายไว้ก่อน
สรุปความผิดสามารถตีได้ 2 กระทงดังนี้
- มาตรา 158 ข้อหาเปลี่ยนแปลงน้ำสุราเพื่อการค้า มีโทษปรับตามมาตรา 196 ไม่เกิน 5,000 บาท เท่ากับว่าปรับเต็มอัตรา
- มาตรา 157 เปลี่ยนแปลงภาชนะบรรจุสุราเพื่อการค้า มีโทษปรับตามมาตรา 196 ไม่เกิน 5,000 บาท เท่ากับว่า 2 ข้อหา เจอโทษปรับ 10,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ใครที่ทำเหล้าบ๊วยที่บ้าน จะไม่ถูกตั้งข้อหา 2 ข้อนี้ แต่ก็ไม่รับประกันว่า จะไม่โดนข้อหาอื่น นั่นก็คือ "มีไว้ในครอบครองซึ่งสุราที่ผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาต" ที่มีค่าปรับสูงสุด 10,000 บาท













