ดราม่า ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นั่งยองไหว้พระ คนติงไม่เหมาะสม เพจดังไขข้อข้องใจ ท่านั่งแบบนี้คนโบราณทำมาเป็น 100 ปี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
กลายเป็นอีกหนึ่งมีมสุดแกร่งของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. คนที่ 17 หลังปรากฏภาพขณะกำลังใส่บาตรและนั่งไหว้พระรับศีลรับพรทำบุญในวันเกิด แต่มิวายมีดราม่าเกิดขึ้นจนได้ เมื่อชาวเน็ตบางกลุ่มติงว่าไม่เหมาะสมบ้าง ไม่สมควรบ้าง
ล่าสุด (24 พฤษภาคม 2565) แฟนเพจเฟซบุ๊ก โบราณนานมา ได้มาไขข้อข้องใจของใครหลายคนเกี่ยวกับท่านั่งดังกล่าวว่า ท่านั่งแบบนี้เรียกว่า "นั่งกระโหย่ง" เป็นการนั่งไหว้พระแบบสมัยโบราณตั้งแต่สมัยพุทธกาลที่ค่อย ๆ เลือนหายไปจากสังคมไทย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โบราณนานมา
"ท่าเทพบุตร" และ "ท่าเทพธิดา" เข้ามาแทนที่ กลายเป็นการนั่งกระโหย่งดูไม่สุภาพ
ในประเทศไทยสมัยก่อนใช้ท่านั่งกระโหย่งมานานแล้ว เป็นเรื่องปกติและสุภาพ แต่เพิ่งมาเปลี่ยนเป็น "ท่าเทพบุตร" และ "ท่าเทพธิดา" ในสมัยรัชกาลที่ 4 ถึง 5 นี้เอง ในสังคมไทยบัญญัติรู้กันว่าท่าเทพบุตรและท่าเทพธิดานั้นสุภาพเรียบร้อย พอเห็นพระหรือใครที่นั่งในท่ากระโหย่งพนมมือ ก็มักจะติเตียน แทนที่จะสอบถามและหาความรู้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โบราณนานมา
พระภิกษุสงฆ์ก็มีการนั่งกระโหย่ง
ท่านั่งสำหรับทำวินัยกรรมของพระภิกษุสงฆ์ในกรณีที่ใช้กราบเรียนและแสดงความเคารพอย่างสูง เรียกขานในภาษาบาลีว่า "อุกฺกุฏิก" (ukkuṭika) และนิยมแปลไทยว่า "นั่งกระโหย่ง" เป็นรูปแบบมาตรฐานในการขอพระอุปัชฌาย์ การขอบรรพชา อุปสมบท และปลงอาบัติ ปรากฏสำนวนในพระวินัยปิฎกหลายแห่งว่า "ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา ..." = กราบแทบเท้าแล้วนั่งกระโหย่งประคองอัญชลี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โบราณนานมา
แถบประเทศเพื่อนบ้านก็ปรากฏท่านั่งยองไหว้พระเช่นกัน
ทางเมียนมาและกัมพูชา ก็มีการนั่งยอง (squatting) โดยฝ่าเท้าราบเต็มบนพื้น ส้นเท้าชิดก้น เข่าค้ำหน้าอก หลังโก่งงอ แต่ในประเทศไทยปัจจุบันไม่นิยมใช้ท่านี้ แต่ใช้เป็นท่านั่งคุกเข่าทับสนเท้า หลักฐานชั้นเก่าแก่ในประเทศไทย เช่น ภาพจิตรกรรมและประติมากรรมอายุหลายศตวรรษก่อน ปรากฏว่าท่านั่งยองในวินัยกรรม และบางพื้นที่ก็ยังมีการใช้ท่านี้อยู่ เรียกได้ว่าเป็นท่าที่ใช้แพร่หลายในประเทศพุทธศาสนาสายเถรวาทแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบัน
การนั่งแบบพับเพียบ, ขัดสมาธิ, เทพบุตร หรือเทพธิดา ก็เรียบร้อยดี ไม่มีการปรับอาบัติในท่านั่งเหล่านี้ แต่ถ้าได้รู้ธรรมเนียมการนั่งกระโหย่งตามพระบาลีแสดงไว้เพื่อสืบทอดต่อไปให้ชนรุ่นหลังได้รู้ได้เห็นไว้ก็คงไม่เสียหาย เพราะคำว่า "อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา" ในพระไตรปิฎกมีเยอะมาก และคนไทยส่วนมากยังไม่รู้ว่านั่งอย่างไร แต่เมียนมาหรือศรีลังกามีให้เห็นโดยทั่วไป ไม่ใช่เรื่องแปลก
การนั่งยอง เป็นท่านั่งที่อยู่คู่มนุษยชาติมาอย่างยาวนาน ต่อมาโลกตะวันตกได้เปลี่ยนจากนั่งยองเป็นนั่งราบ จนไม่สามารถนั่งยองเต็มเท้าได้อีก ส่วนโลกตะวันออกยังคงมีการนั่งยองกันอยู่เป็นปกติ เมืองไทยแต่ก่อนก็นั่งยองไหว้พระ มาเปลี่ยนเป็นคุกเข่าเทพบุตร-เทพธิดาในช่วงรัชกาลที่ 4-5 นี้เอง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โบราณนานมา
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก โบราณนานมา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
กลายเป็นอีกหนึ่งมีมสุดแกร่งของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. คนที่ 17 หลังปรากฏภาพขณะกำลังใส่บาตรและนั่งไหว้พระรับศีลรับพรทำบุญในวันเกิด แต่มิวายมีดราม่าเกิดขึ้นจนได้ เมื่อชาวเน็ตบางกลุ่มติงว่าไม่เหมาะสมบ้าง ไม่สมควรบ้าง
ล่าสุด (24 พฤษภาคม 2565) แฟนเพจเฟซบุ๊ก โบราณนานมา ได้มาไขข้อข้องใจของใครหลายคนเกี่ยวกับท่านั่งดังกล่าวว่า ท่านั่งแบบนี้เรียกว่า "นั่งกระโหย่ง" เป็นการนั่งไหว้พระแบบสมัยโบราณตั้งแต่สมัยพุทธกาลที่ค่อย ๆ เลือนหายไปจากสังคมไทย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โบราณนานมา
"ท่าเทพบุตร" และ "ท่าเทพธิดา" เข้ามาแทนที่ กลายเป็นการนั่งกระโหย่งดูไม่สุภาพ
ในประเทศไทยสมัยก่อนใช้ท่านั่งกระโหย่งมานานแล้ว เป็นเรื่องปกติและสุภาพ แต่เพิ่งมาเปลี่ยนเป็น "ท่าเทพบุตร" และ "ท่าเทพธิดา" ในสมัยรัชกาลที่ 4 ถึง 5 นี้เอง ในสังคมไทยบัญญัติรู้กันว่าท่าเทพบุตรและท่าเทพธิดานั้นสุภาพเรียบร้อย พอเห็นพระหรือใครที่นั่งในท่ากระโหย่งพนมมือ ก็มักจะติเตียน แทนที่จะสอบถามและหาความรู้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โบราณนานมา
พระภิกษุสงฆ์ก็มีการนั่งกระโหย่ง
ท่านั่งสำหรับทำวินัยกรรมของพระภิกษุสงฆ์ในกรณีที่ใช้กราบเรียนและแสดงความเคารพอย่างสูง เรียกขานในภาษาบาลีว่า "อุกฺกุฏิก" (ukkuṭika) และนิยมแปลไทยว่า "นั่งกระโหย่ง" เป็นรูปแบบมาตรฐานในการขอพระอุปัชฌาย์ การขอบรรพชา อุปสมบท และปลงอาบัติ ปรากฏสำนวนในพระวินัยปิฎกหลายแห่งว่า "ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา ..." = กราบแทบเท้าแล้วนั่งกระโหย่งประคองอัญชลี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โบราณนานมา
แถบประเทศเพื่อนบ้านก็ปรากฏท่านั่งยองไหว้พระเช่นกัน
ทางเมียนมาและกัมพูชา ก็มีการนั่งยอง (squatting) โดยฝ่าเท้าราบเต็มบนพื้น ส้นเท้าชิดก้น เข่าค้ำหน้าอก หลังโก่งงอ แต่ในประเทศไทยปัจจุบันไม่นิยมใช้ท่านี้ แต่ใช้เป็นท่านั่งคุกเข่าทับสนเท้า หลักฐานชั้นเก่าแก่ในประเทศไทย เช่น ภาพจิตรกรรมและประติมากรรมอายุหลายศตวรรษก่อน ปรากฏว่าท่านั่งยองในวินัยกรรม และบางพื้นที่ก็ยังมีการใช้ท่านี้อยู่ เรียกได้ว่าเป็นท่าที่ใช้แพร่หลายในประเทศพุทธศาสนาสายเถรวาทแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบัน
การนั่งแบบพับเพียบ, ขัดสมาธิ, เทพบุตร หรือเทพธิดา ก็เรียบร้อยดี ไม่มีการปรับอาบัติในท่านั่งเหล่านี้ แต่ถ้าได้รู้ธรรมเนียมการนั่งกระโหย่งตามพระบาลีแสดงไว้เพื่อสืบทอดต่อไปให้ชนรุ่นหลังได้รู้ได้เห็นไว้ก็คงไม่เสียหาย เพราะคำว่า "อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา" ในพระไตรปิฎกมีเยอะมาก และคนไทยส่วนมากยังไม่รู้ว่านั่งอย่างไร แต่เมียนมาหรือศรีลังกามีให้เห็นโดยทั่วไป ไม่ใช่เรื่องแปลก
การนั่งยอง เป็นท่านั่งที่อยู่คู่มนุษยชาติมาอย่างยาวนาน ต่อมาโลกตะวันตกได้เปลี่ยนจากนั่งยองเป็นนั่งราบ จนไม่สามารถนั่งยองเต็มเท้าได้อีก ส่วนโลกตะวันออกยังคงมีการนั่งยองกันอยู่เป็นปกติ เมืองไทยแต่ก่อนก็นั่งยองไหว้พระ มาเปลี่ยนเป็นคุกเข่าเทพบุตร-เทพธิดาในช่วงรัชกาลที่ 4-5 นี้เอง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โบราณนานมา
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก โบราณนานมา