เจ้าของร้านเครียด ! พนักงานเรียกลูกค้าประจำว่า หนู ทำปรี๊ดแตก จะไม่กลับมาเหยียบร้าน

           เจ้าของร้านเครียด พนักงานเรียกลูกค้าประจำว่าหนู ทั้งที่อายุเกือบจะ 40 ปี ทำลูกค้าปรี๊ดแตก ลั่นกลางร้านว่าจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก



         โดยเจ้าของเรื่องเล่าว่าที่ร้านของตนมีลูกค้าผู้ชายคนหนึ่ง เป็นลูกค้าประจำแวะเวียนมาอุดหนุนเรื่อย ๆ ซึ่งคนที่อยู่มาก่อนทราบดีว่าลูกค้าคนนี้น่ารัก เอ็นดูพนักงาน ให้ทิปอยู่สม่ำเสมอ ส่วนตนก็อบรมพนักงานตลอดเรื่องการดูแลเอาใจใส่และการพูดจาให้เกียรติแขกเสมอ

         จนกระทั่งมีพนักงานลาออกไป เจ้าของเรื่องก็ได้จ้างพนักงานใหม่มา เป็นผู้หญิงอายุประมาณ 28-29 ปี ซึ่งทำงานดีแต่มักจะชอบเผลอไปเรียกลูกค้าแบบตีสนิท ส่วนมากจะเรียกว่า พี่ น้อง ป้า ลุง และเรียกนักเรียนนักศึกษาว่าหนู บางทีก็ใช้น้ำเสียงห้วน

         อยู่มาวันหนึ่ง พนักงานคนนี้ก็ได้เจอกับลูกค้าประจำและดันพลั้งปากไปเรียกเขาว่า "หนู" เช่น หนู ๆ มาตรงนี้เลย ฯลฯ ซึ่งความจริงแล้วลูกค้าคนนี้อายุเกือบจะ 40 ปี แต่พนักงานน่าจะดูไม่ออกเพราะเขาหน้าเด็ก แต่เห็นได้ชัดว่าลูกค้าไม่พอใจ และพูดว่าไม่โอเคที่ถูกเรียกแบบนี้ แล้วพูดกับพนักงานคนอื่นอีกว่า ถ้ามาคราวหน้าแล้วไม่แสดงความรับผิดชอบเรื่องนี้จะไม่กลับมาอีก

         ทั้งนี้ เจ้าของโพสต์ได้สอบถามว่าพนักงานของตนผิดไหมที่เรียกลูกค้าแบบนั้น ตนควรตักเตือนอย่างไรเพราะอึดอัดใจพอสมควร ตนเข้าใจทั้งสองฝ่าย ตนควรจะรับผิดชอบยังไง

แนะต้องอบรมพนักงานใหม่ ใช้คำกลาง ๆ ตีสนิทเกินไป ใช่ว่าลูกค้าจะชอบ

         ขณะที่ความคิดเห็นอื่น ๆ ต่างมองว่าการพูดคุยกับลูกค้าควรใช้คำกลาง ๆ เพื่อหลักเลี่ยงปัญหาลักษณะนี้ เช่นบางร้านก็จะเรียกว่า "ลูกค้า" หรือ "คุณลูกค้า" ไปเลย แน่นอนว่าบางคนก็ไม่สะดวกใจที่จะถูกเรียกว่าหนูแม้ว่าจะหน้าเด็ก เพราะรู้สึกว่าไม่ได้สนิทสนมกันขนาดนั้น รวมถึงเรื่องของกาลเทศะที่งานบริการควรจะใช้คำพูดที่ให้เกียรติลูกค้ามากกว่า แนะนำว่าควรอบรมพนักงานเรื่องการใช้คำพูด การกระทำและการปฏิบัติใหม่

         ส่วนการรับผิดชอบลูกค้านั้น เมื่อครั้งหน้าเขากลับมาอีกก็แนะนำให้ขอโทษกับการกระทำที่ไม่สมควร เชื่อว่าลูกค้ามีวัยวุฒิและวุฒิภาวะมากพอที่จะให้อภัย เมื่อพิจารณาจากที่เจ้าของเรื่องเล่าว่าเขาเป็นคนน่ารัก เชื่อว่าการขอโทษอย่างจริงใจจะช่วยประสานรอยร้าวได้