ภายหลังนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 71/2551 ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ตั้งข้อกล่าวหาวินัยร้ายแรง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เพิ่มอีก 4 ประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทุจริตงบสืบสวนคดี รับซื้อลำไย ทุจริตซื้อรถ จยย.สายตรวจเกือบ 2 หมื่นคัน ปลูกรีสอร์ตรุกแม่น้ำแควน้อยใน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี รวมทั้งนำเฮลิคอปเตอร์ไปใช้ส่วนตัว ต่อมามีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 73/2551 ให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะ ผบ.ตร.ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเก็บตัวเงียบ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานเมื่อวันที่ 10 เม.ย. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดแถลงเป็นครั้งแรก หลังมีคำสั่งปลดออกจากราชการ ที่ห้องผู้สื่อข่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาพยายามเงียบมาโดยตลอด ปล่อยให้กระบวน การสอบสวนที่นายกรัฐมนตรี ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย แต่ว่ามีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตนยังไม่เห็นคำสั่ง เห็นแต่ในโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ ตอนนี้ยังเป็น ผบ.ตร.อยู่ จะพ้นจากตำแหน่งต่อเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เพราะฉะนั้น วันนี้อย่าเข้าใจผิดว่าถูกออกจากราชการแล้ว ถึงแม้มีคำสั่งให้ออกจากราชการจริง แต่จะมีผลเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ออก ขอให้เข้าใจว่า วันนี้ตนยังเป็น ผบ.ตร.อยู่
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวต่อว่า ผู้สื่อข่าวต้องทบทวนเอง นายกฯยังไม่ทำงานเลย เข้ามาถึงก็เปลี่ยนข้าราชการ โดยเฉพาะตน มีคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง 3 เรื่อง เพราะฉะนั้นต้องมีผู้ร้องมา ปรากฏว่าผู้ร้องทั้ง 3 เรื่อง เป็นคนคนเดียวกัน เป็นอดีตข้าราชการตำรวจ ที่ถูกตนปลดออกจากราชการไปเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2551 ถือว่าเป็นปรปักษ์ต่อกันมาก่อน ทำหนังสือ 3 เรื่องร้องเรียน คือ เรื่องเช่ารถ การตำหนิลูกน้องว่าควายหรือเปล่า และเรื่องการแต่งตั้งโดยผิดกฎหมาย ทั้ง 3 เรื่อง มีการลงรับที่สำนักนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 28 ก.พ. พอวันที่ 29 ก.พ. มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยผมร้ายแรง และให้ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกฯ ตรงนี้ถ้าไม่เป็นข้าราชการไม่รู้หรอกว่ามันผิดกฎหมาย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ตามขั้นตอนของกฎหมาย และ พ.ร.บ.ตำรวจ เมื่อมีการร้องทุกข์กล่าวโทษว่าข้าราชการตำรวจกระทำผิดวินัย ให้สืบสวนข้อเท็จจริงก่อน หรือพิจารณาเบื้องต้นว่ามีมูลการกระทำผิดวินัย ต้องสืบสวนข้อเท็จจริง ถ้าไม่สืบสวนข้อเท็จจริงต้องพิจารณาในเบื้องต้นแล้วว่า มีพยานหลักฐานเห็นว่ามีการกระทำผิดวินัย แต่นายกรัฐมนตรีเลือกใช้วิธีที่ 2 คือพิจารณาเบื้องต้นโดยไม่ สืบสวนข้อเท็จจริง ถ้าสืบสวนข้อเท็จจริงก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหารายละเอียดให้ผู้ถูกร้องได้ทราบ และมีโอกาสชี้แจง ถ้าชี้แจงข้อเท็จจริงได้ มีพยานหลักฐานไม่เป็นมูลความผิด ผู้สั่งแต่งตั้งกรรมการสั่งยุติเรื่องได้
แต่ถ้ามีมูลความผิด ถ้าร้ายแรงจะตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ถ้านายกรัฐมนตรีใช้วิธีการตามกฎหมายคือสอบสวนข้อเท็จจริง ก็ยังไม่สามารถย้ายตนได้ในวันที่ 29 ก.พ. และยังไม่สามารถออกคำสั่งให้ตนออกจากราชการไว้ก่อนได้ แต่เพราะมีเจตนากลั่นแกล้ง มีเจตนาให้พ้นจากตำแหน่ง เพราะมีขบวนการอยากได้ตำแหน่งนี้มาก จะได้แต่งตั้งคนอื่นมาแทนได้ จึงตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง โดยไม่สืบสวนข้อเท็จจริง เมื่อมีคนร้องเข้ามาถ้าไม่สืบสวนข้อเท็จจริง จะรู้ได้ไงว่า ผู้ร้องเป็นปรปักษ์มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน เป็นข้อผิดพลาดของนายกรัฐมนตรีที่ไม่สืบสวนข้อเท็จจริง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังกล่าวถึงเรื่องที่ดินที่ อ.ทอง-ผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ปัจจุบันมีโฉนดที่ดินถูกต้อง การร้องเรียนไม่ใช่ร้องเรียนเฉพาะครั้งนี้ ร้องเรียนมาร้อยครั้ง ตรวจกันร้อยครั้งไม่จบสิ้น อยากตรวจสอบตรวจได้ไม่มีปัญหา และเรื่องการใช้เฮลิคอปเตอร์ มุมมองมันต่างกัน ตนเป็นหัวหน่วยงาน ไปดูระเบียบการใช้เฮลิคอปเตอร์ อำนาจการใช้เป็นอำนาจของ ผบ.ตร. ความเร่งด่วนในภารกิจของพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชวงศ์เป็นอันดับแรก นายกฯ รองนายกฯ องคมนตรี ผบ.ตร. เป็นอันดับที่สอง การอนุมัติให้ใครขึ้นไปได้เป็นอำนาจของ ผบ. เขาเขียนไว้ชัดแจ้ง ตนยอมรับใช้บินไป อ.ทองผาภูมิจริง จะกี่ครั้งแล้วแต่ คำว่าเห็นสมควรมันอยู่ตรงไหน ตนต้องนั่งทำงานที่นี่อย่างเดียวเท่านั้นหรือ ตนจะเอางานไปทำนอกสำนักงานมันผิดไหม
ก่อนหน้านี้ นายศักดาพินิจ ณรงค์ชาติโสภณ ที่ปรึกษา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้เตรียมข้อกฎหมาย และรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อยื่นอุทธรณ์ ก.ตร. ภายใน 30 วัน กรณีนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ออกจากราชการไว้ก่อน หาก ก.ตร.เห็นด้วยกับความเห็นนายกรัฐมนตรี แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังสามารถยื่นฟ้องต่อศาลปกครองได้ภายใน 30 วัน หาก ก.ตร.ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนายกรัฐมนตรี จะถือว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งโมฆะ ส่วนการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ขณะนี้ยังแต่งตั้งไม่ได้ เพราะยังไม่มีการเสนอโปรดเกล้าฯ ให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ทราบว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตรียมฟ้องนายกรัฐมนตรี ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีมีคำสั่งให้ออกจากราชการ และมีคำสั่งให้สอบสวนทางวินัยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้ผ่านขั้นตอนตามประมวลกฎหมาย มาตรา 84 ของ พ.ร.บ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง
สายวันเดียวกัน นายเลิศพรชัย ชัยฤทธิ์ นายอำเภอทองผาภูมิ พร้อมคณะ เดินทางไปที่
