อัยการสูงสุดแถลง เตรียมแจ้งข้อหาฟอกเงิน ตู้ห่าว เพิ่มเติม เผยจ่อขอหมายจับผู้ต้องหาอีก 1 ชุดก่อนสิ้นปี ชูวิทย์จี้นายกฯ สนใจคดีนี้อย่ามัวแต่หาเสียง ด้าน ตร. คุมเข้มส่งเมียตู้ห่าวฝากขังศาล
จากคดีของ ตู้ห่าว นายทุนจีนสีเทา ซึ่งต่อมาตำรวจได้จับกุม พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ ภรรยาของตู้ห่าว ก่อนจะส่งตัวให้อัยการสอบสวนว่าเป็นการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรหรือไม่ โดยเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ตำรวจได้จับกุม นายชุติพนธ์ อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาในคดีจีนเทาเพิ่มอีก 1 คน รวมแล้วสามารถจับผู้ต้องหาคดีจีนเทาได้เป็นคนที่ 10
วันที่ 26 ธันวาคม 2565 เดลินิวส์ รายงานว่า ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน พร้อมด้วย นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดี นายตู้ห่าว กับพวก หลังมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการสอบสวนปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันระหว่างตำรวจและอัยการ โดยผู้ต้องหาชุด 15 คนที่ขอศาลออกหมายจับล่าสุด แต่ละคนความผิดจะแตกต่างออกไป แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มฟอกเงินอย่างเดียว 2. กลุ่มสมคบกันฟอกเงิน สมคบกันทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และองค์กรความผิดข้ามชาติ ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาอย่างน้อยอีก 1 ชุด คาดว่าจะขอศาลออกหมายจับได้อีกก่อนสิ้นปีนี้
กรณี นายตู้ห่าว มีพยานหลักฐานชัดเจนแล้วว่าเข้าข่ายกระทำผิดฐานฟอกเงิน เตรียมแจ้งข้อหาภายใน 1-2 วันนี้ ขณะที่การยึดทรัพย์สินเป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดซึ่งเป็นมูลฐานในข้อหาฟอกเงิน ได้แจ้งไปยังคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์ของ ป.ป.ส. จะแยกส่วนต่างหากจากคดีอาญา ตอนนี้สถานะคดีถือว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักรแล้ว หลังมีหลักฐานว่าคดีนี้มีการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ
ส่วนการจับกุม พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ ภรรยานายตู้ห่าว ขณะนี้ตั้งข้อหาเฉพาะเรื่องฟอกเงิน แต่ถ้าพบว่ามีส่วนร่วมกับยาเสพติด หรือองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ขณะที่กรณีการจับกุมผู้ต้องหาหลายคนไม่พร้อมกัน ระยะเวลาการฝากขังจะครบกำหนดไม่เท่ากัน เบื้องต้นวางกรอบเวลาสรุปสำนวนส่งอัยการสูงสุดก่อนครบฝากขังครั้งที่ 6 ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดจะครบกำหนดในวันที่ 8 มกราคม 2566 ตอนนี้รวบรวมพยานได้นับ 100 ปากแล้ว ส่วนจะขึ้นสู่ศาลเมื่อไร ต้องพิจารณาอีกครั้งคำให้การมายื่นในภายหลังซึ่งผู้ต้องหาทุกคนมีทนายมาร่วมฟัง
อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าววันนี้ กำหนดการเดิม พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะมาร่วมแถลงข่าวกับอัยการด้วยนั้น แต่เมื่อมาถึงกลับถอนตัวกะทันหัน ก่อนที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จะเข้าร่วมสังเกตการณ์การแถลงข่าวในครั้งนี้ คาดว่าเพื่อลดการเผชิญหน้า เนื่องจากกำลังตกเป็นประเด็นที่ถูกนายชูวิทย์กล่าวหา
ด้าน นายชูวิทย์ เปิดเผยหลังการแถลงข่าวว่า ยังแสดงความกังวลถึงเรื่องคดีนี้ แม้อัยการจะมีความสามารถ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา และอำนาจ ก็อาจทำให้แก้ปัญหาสำนวนคดีนี้ไม่ได้ พร้อมชี้ว่า หน่วยงานของรัฐที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ก็คือ หน่วยงานของตำรวจ จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออกมาเคลื่อนไหว จะดำรงตำแหน่งต่อไปทำไม หากไม่ทำประโยชน์ เมื่อคดีนี้เป็นคดีใหญ่ระดับประเทศ เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ก็ควรจะออกมาพูดบ้าง อย่ามัวแต่หาเสียง ซึ่งตนเองมองว่าผู้บัญชาการตำรวจนครบาลไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า ตำรวจ สน.ยานนาวา ควบคุมตัว พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ ภรรยานายตู้ห่าว เพื่อนำตัวฝากขังยังศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหาฟอกเงิน โดยมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลในการดูแลความปลอดภัยและป้องกันการหลบหนี ระหว่างนำตัวขึ้นรถ ภรรยาตู้ห่าวไม่ได้พูดอะไรกับสื่อมวลชน และใช้เสื้อคลุมใบหน้าของตนเองจนไม่สามารถสังเกตสีหน้าท่าทางได้
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์, เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
จากคดีของ ตู้ห่าว นายทุนจีนสีเทา ซึ่งต่อมาตำรวจได้จับกุม พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ ภรรยาของตู้ห่าว ก่อนจะส่งตัวให้อัยการสอบสวนว่าเป็นการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรหรือไม่ โดยเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ตำรวจได้จับกุม นายชุติพนธ์ อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาในคดีจีนเทาเพิ่มอีก 1 คน รวมแล้วสามารถจับผู้ต้องหาคดีจีนเทาได้เป็นคนที่ 10
วันที่ 26 ธันวาคม 2565 เดลินิวส์ รายงานว่า ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน พร้อมด้วย นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดี นายตู้ห่าว กับพวก หลังมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการสอบสวนปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันระหว่างตำรวจและอัยการ โดยผู้ต้องหาชุด 15 คนที่ขอศาลออกหมายจับล่าสุด แต่ละคนความผิดจะแตกต่างออกไป แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มฟอกเงินอย่างเดียว 2. กลุ่มสมคบกันฟอกเงิน สมคบกันทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และองค์กรความผิดข้ามชาติ ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาอย่างน้อยอีก 1 ชุด คาดว่าจะขอศาลออกหมายจับได้อีกก่อนสิ้นปีนี้
กรณี นายตู้ห่าว มีพยานหลักฐานชัดเจนแล้วว่าเข้าข่ายกระทำผิดฐานฟอกเงิน เตรียมแจ้งข้อหาภายใน 1-2 วันนี้ ขณะที่การยึดทรัพย์สินเป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดซึ่งเป็นมูลฐานในข้อหาฟอกเงิน ได้แจ้งไปยังคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์ของ ป.ป.ส. จะแยกส่วนต่างหากจากคดีอาญา ตอนนี้สถานะคดีถือว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักรแล้ว หลังมีหลักฐานว่าคดีนี้มีการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ
ส่วนการจับกุม พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ ภรรยานายตู้ห่าว ขณะนี้ตั้งข้อหาเฉพาะเรื่องฟอกเงิน แต่ถ้าพบว่ามีส่วนร่วมกับยาเสพติด หรือองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ขณะที่กรณีการจับกุมผู้ต้องหาหลายคนไม่พร้อมกัน ระยะเวลาการฝากขังจะครบกำหนดไม่เท่ากัน เบื้องต้นวางกรอบเวลาสรุปสำนวนส่งอัยการสูงสุดก่อนครบฝากขังครั้งที่ 6 ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดจะครบกำหนดในวันที่ 8 มกราคม 2566 ตอนนี้รวบรวมพยานได้นับ 100 ปากแล้ว ส่วนจะขึ้นสู่ศาลเมื่อไร ต้องพิจารณาอีกครั้งคำให้การมายื่นในภายหลังซึ่งผู้ต้องหาทุกคนมีทนายมาร่วมฟัง
อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าววันนี้ กำหนดการเดิม พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะมาร่วมแถลงข่าวกับอัยการด้วยนั้น แต่เมื่อมาถึงกลับถอนตัวกะทันหัน ก่อนที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จะเข้าร่วมสังเกตการณ์การแถลงข่าวในครั้งนี้ คาดว่าเพื่อลดการเผชิญหน้า เนื่องจากกำลังตกเป็นประเด็นที่ถูกนายชูวิทย์กล่าวหา
ด้าน นายชูวิทย์ เปิดเผยหลังการแถลงข่าวว่า ยังแสดงความกังวลถึงเรื่องคดีนี้ แม้อัยการจะมีความสามารถ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา และอำนาจ ก็อาจทำให้แก้ปัญหาสำนวนคดีนี้ไม่ได้ พร้อมชี้ว่า หน่วยงานของรัฐที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ก็คือ หน่วยงานของตำรวจ จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออกมาเคลื่อนไหว จะดำรงตำแหน่งต่อไปทำไม หากไม่ทำประโยชน์ เมื่อคดีนี้เป็นคดีใหญ่ระดับประเทศ เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ก็ควรจะออกมาพูดบ้าง อย่ามัวแต่หาเสียง ซึ่งตนเองมองว่าผู้บัญชาการตำรวจนครบาลไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า ตำรวจ สน.ยานนาวา ควบคุมตัว พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ ภรรยานายตู้ห่าว เพื่อนำตัวฝากขังยังศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหาฟอกเงิน โดยมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลในการดูแลความปลอดภัยและป้องกันการหลบหนี ระหว่างนำตัวขึ้นรถ ภรรยาตู้ห่าวไม่ได้พูดอะไรกับสื่อมวลชน และใช้เสื้อคลุมใบหน้าของตนเองจนไม่สามารถสังเกตสีหน้าท่าทางได้
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์, เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
