ชาวญี่ปุ่นฝากเงินธนาคารดังในเมืองไทย 262,000 บาท แต่พอดูสมุดบัญชีขาดไป 2,000 บาท งานนี้ข้อผิดพลาดอยู่ตรงไหน ล่าสุดธนาคารเข้ามาตอบโดยตรง ขออภัยในความผิดพลาด
![คนญี่ปุ่น เอาเงินไปฝากธนาคารในไทย จับสังเกตเงินหายไป 2,000 ล่าสุด ธ. ตอบเอง !]( "คนญี่ปุ่น เอาเงินไปฝากธนาคารในไทย จับสังเกตเงินหายไป 2,000 ล่าสุด ธ. ตอบเอง !")
![คนญี่ปุ่น เอาเงินไปฝากธนาคารในไทย จับสังเกตเงินหายไป 2,000 ล่าสุด ธ. ตอบเอง !]( "คนญี่ปุ่น เอาเงินไปฝากธนาคารในไทย จับสังเกตเงินหายไป 2,000 ล่าสุด ธ. ตอบเอง !")
![คนญี่ปุ่น เอาเงินไปฝากธนาคารในไทย จับสังเกตเงินหายไป 2,000 ล่าสุด ธ. ตอบเอง !]( "คนญี่ปุ่น เอาเงินไปฝากธนาคารในไทย จับสังเกตเงินหายไป 2,000 ล่าสุด ธ. ตอบเอง !")
![คนญี่ปุ่น เอาเงินไปฝากธนาคารในไทย จับสังเกตเงินหายไป 2,000 ล่าสุด ธ. ตอบเอง !]( "คนญี่ปุ่น เอาเงินไปฝากธนาคารในไทย จับสังเกตเงินหายไป 2,000 ล่าสุด ธ. ตอบเอง !")
ภาพประกอบข่าวไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 29 ธันวาคม 2565 ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ซึ่งระบุประวัติว่า เป็นชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในประเทศไทยและออสเตรเลียมานานกว่า 12 ปี ก่อนที่จะเกษียณอายุจากการทำงานเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา แล้วใช้ชีวิตที่ประเทศไทยกับภรรยาชาวไทยในปัจจุบัน ได้บอกเล่าประสบการณ์การใช้บริการธนาคารแห่งหนึ่ง แต่พนักงานเอาเงินเข้าไม่ครบจนกลายเป็นดราม่า ดังนี้
ชายคนดังกล่าว เล่าว่า ตนได้นำเงินจำนวน 262,000 บาท ไปฝากที่ธนาคารแห่งหนึ่งในประเทศไทย เมื่อฝากเงินเสร็จก็ออกมา พร้อมกับเช็กสมุดบัญชีถึงเงินฝากล่าสุด พบว่า มีการนำเงินเข้า 260,000 บาท ขาดไป 2,000 บาท ดังนั้นจึงย้อนกลับไปที่ธนาคารอีกครั้ง เพื่อให้พนักงานตรวจสอบ
ด้านพนักงานพอตรวจสอบก็พบว่า เงินฝากไม่ครบ 2,000 บาทจริง พร้อมกับกล่าวขอโทษ ที่โพสต์ถึงเรื่องนี้ เพราะต้องการให้เป็นอุทาหรณ์ของคนใช้ธนาคาร เวลาฝากเงินควรเช็กสมุดบัญชีดี ๆ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด
ขณะเดียวกัน ธนาคารดังกล่าว ทวีตตอบชายคนนี้เป็นภาษาญี่ปุ่น ว่า ขอบคุณที่ใช้บริการธนาคารของเรา และขออภัยในความไม่สะดวก เพื่อการพัฒนาการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น กรุณาบอกสาขาที่เกิดเหตุกับข้อมูลส่วนตัวผ่านทาง DM ซึ่งชายคนดังกล่าวก็ส่งข้อมูลไปให้เรียบร้อย และขอให้ทางธนาคารแจ้งเรื่องผลการตรวจสอบด้วย
ทั้งนี้ หลายคนมองว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่ความตั้งใจของธนาคาร และเป็นความประมาทของพนักงาน ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ชายญี่ปุ่นคนนี้ตรวจสอบเงินในบัญชีก่อนที่จะเดินไปไกล และสุดท้ายแล้ว ถือเป็นความรับผิดชอบอย่างสูงที่ธนาคารได้ติดต่อเพื่อที่จะพยายามแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความผิดซ้ำสอง
