ผลตรวจวัดแอลกอฮอล์เสี่ยเบนท์ลีย์ออกมาแล้ว พบไม่เกิน 20
มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ไม่ถือว่าเมาแล้วขับ ส่งผลตรวจให้ตำรวจเข้าสำนวนต่อไป
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณีอุบัติเหตุรถหรูยี่ห้อเบนท์ลีย์
ซิ่งแซงซ้ายชนท้ายรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำ ป้ายแดง พังยับ 3 คัน
โดยคนขับเบนท์ลีย์ พบว่าเป็นนักธุรกิจชื่อดังและเป็นนายทุนพรรคการเมือง
มีชื่อเป็นกรรมการ 7 บริษัท
และทางตำรวจไม่ยอมเป่าวัดแอลกอฮอล์ในช่วงเกิดเหตุ ให้เหตุผลว่า
เจ้าตัวบาดเจ็บหน้าอกกระแทกรถ ไม่สามารถเป่าลมได้เต็มแรง
จึงใช้วิธีการตรวจเลือดแทน ท่ามกลางข้อสงสัยว่าตรวจเลือดตอนตี 5
วันเกิดเหตุ
อ่านข่าว : เปิดเหตุเสี่ยเบนท์ลีย์ไม่เป่าวัดแอลกอฮอล์ ชี้เจ็บอก เป่าได้ไม่เต็มแรง - ยอมให้ตรวจเลือด
อ่านข่าว : เปิดเหตุเสี่ยเบนท์ลีย์ไม่เป่าวัดแอลกอฮอล์ ชี้เจ็บอก เป่าได้ไม่เต็มแรง - ยอมให้ตรวจเลือด
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ล่าสุด วันที่ 11 มกราคม 2566 เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า ผลการตรวจเลือดคนขับเบนท์ลีย์ มีรายงานออกมาว่า ไม่เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ระดับ 10 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ดังนั้นกฎหมายจึงถือว่าไม่เข้าข่ายเมาแล้วขับ และโรงพยาบาลตำรวจส่งผลตรวจให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีนำไปประกอบสำนวนแล้ว
ส่วนข้อหาอื่น ๆ ในเบื้องต้น มีการตั้งข้อหาขับรถเฉี่ยวชนผู้อื่นเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายและได้รับบาดเจ็บเอาไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนข้อหาอื่น ๆ ต้องรอผลการตรวจวัดแอลกอฮอล์ และกระบวนการหลังจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องชี้แจงรายละเอียดในคดีต่อไป
ทั้งนี้ ตามกฎหมายระบุว่า หากผลตรวจวัดแอลกอฮอล์จากลมหายใจมีค่ามากกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือในเลือดของผู้ขับขี่ มีค่าเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้ถือว่าเมาสุรา
คิดทฤษฎีคุณย้อนกลับ เมาหรือไม่เมา
เวลา 12.00 น. ในวันเดียวกัน มีรายงานเพิ่มเติมว่า ผลการตรวจแอลกอฮอล์ผ่านเลือดคนขับเบนท์ลีย์อยู่ที่ 10.73 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถ้าหากใช้ทฤษฎีคูณย้อนกลับไปช่วงเวลาเกิดเหตุ ก็ยังคำนวณได้ว่า อยู่ที่ไม่เกิน 45 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และไม่เกินกฎหมายที่กำหนด
เรื่องความเร็วรถ ขณะนี้สำนังกานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กำลังตรวจสอบ คาดว่าจะทราบผลเร็ว ๆ นี้ ส่วนเรื่องการตรวจสอบสารเสพติด พบว่า ผลการตรวจยังไม่เสร็จ เพราะตำรวจได้เร่งการตรวจสอบเรื่องปริมาณแอลกอฮอล์ออกมาก่อน ทำให้งานส่วนนี้จะประกาศผลตามมาทีหลัง
ส่วนประเด็นที่ว่า กลางดึกคืนที่ผ่านมา (10 มกราคม) พนักงานสอบสวนเรียกตัวคนขับรถและผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติม แต่ยังไม่ทราบว่าเพิ่มเติมในประเด็นใด องรอความชัดเจนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลอีกครั้ง คาดว่าจะมีการแถลงรายละเอียดในวันนี้
เวลา 12.00 น. ในวันเดียวกัน มีรายงานเพิ่มเติมว่า ผลการตรวจแอลกอฮอล์ผ่านเลือดคนขับเบนท์ลีย์อยู่ที่ 10.73 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถ้าหากใช้ทฤษฎีคูณย้อนกลับไปช่วงเวลาเกิดเหตุ ก็ยังคำนวณได้ว่า อยู่ที่ไม่เกิน 45 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และไม่เกินกฎหมายที่กำหนด
เรื่องความเร็วรถ ขณะนี้สำนังกานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กำลังตรวจสอบ คาดว่าจะทราบผลเร็ว ๆ นี้ ส่วนเรื่องการตรวจสอบสารเสพติด พบว่า ผลการตรวจยังไม่เสร็จ เพราะตำรวจได้เร่งการตรวจสอบเรื่องปริมาณแอลกอฮอล์ออกมาก่อน ทำให้งานส่วนนี้จะประกาศผลตามมาทีหลัง
ส่วนประเด็นที่ว่า กลางดึกคืนที่ผ่านมา (10 มกราคม) พนักงานสอบสวนเรียกตัวคนขับรถและผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติม แต่ยังไม่ทราบว่าเพิ่มเติมในประเด็นใด องรอความชัดเจนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลอีกครั้ง คาดว่าจะมีการแถลงรายละเอียดในวันนี้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
