ไล่เรียงไทม์ไลน์ ต้นจนจบ ทอย ศิริชัย ฆ่าน้องนุ่น ชลลดา จากโกหกอ้างว่าเมียหาย นำไปสู่การค้นหา ก่อนพบว่าน้องนุ่นโดนฆ่าแล้วเผาที่สวนยางพารา แย่ยิ่งกว่า ภาพวงจรปิดนาทีตบตีทำร้าย ไม่ได้สติยังตามไปทำร้ายต่อ ต่อหน้าลูก
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 จากกรณีสะเทือนขวัญระดับประเทศกับการจับกุมนาย ทอย ศิริชัย นักธุรกิจซื้อ-ขายรถมือสอง สามีของ น้องนุ่น ชลลดา มุธุรงศ์ หลังจากที่มีการตามหาตัวเนื่องจากน้องนุ่นหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา ก่อนที่จะทราบว่า คนลงมือฆ่าคือทอย ศิริชัย สามีที่เคยโกหกต่อหน้าสื่อว่า ไม่ได้เป็นคนทำ
เพื่อนประกาศตามหานุ่น กินข้าวเสร็จแยกย้าย แต่กลายเป็นอยู่ดี ๆ หายตัวปริศนา กว่าจะแจ้งความคือเลยไปนาน
ทั้งนี้ เรื่องราวเริ่มจากการที่มีเพื่อนของน้องนุ่น ได้ออกมาโพสต์ตามหาน้องนุ่น ชลลดา มุธุรงศ์ อายุ 27 ปี อันเนื่องมาจากน้องนุ่น หายตัวไปอย่างผิดปกติตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ โดยที่ก่อนเกิดเหตุ ได้มีการนัดเลี้ยงวันเกิดของ ทอย ศิริชัย สามีของนุ่น ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านเลียบด่วนรามอินทรา หลังจากที่ร้านปิดเวลาเที่ยงคืน ต่างคนต่างก็แยกย้ายกลับบ้าน และน้องนุ่นจะต้องกลับบ้านกับศิริชัยที่นนทบุรี แต่ระหว่างทางน้องนุ่นและศิริชัยทะเลาะกัน จนหวั่นว่าจะเกิดอันตราย เพราะปกตินุ่นจะออนไลน์ในโซเชียลตลอด และเวลาที่นุ่นทะเลาะกับศิริชัย นุ่นก็จะพาลูกมาอยู่ที่บ้านเพื่อน ๆ แต่ครั้งนี้นุ่นกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Athiporn Insook
หลังจากที่นุ่นหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา และคนสุดท้ายที่อยู่กับนุ่นคือ ศิริชัย (สามี) ทุกคนจึงพุ่งเป้าไปถามที่ศิริชัย และศิริชัยก็ร้องไห้และบอกว่า ศิริชัยและนุ่นทะเลาะกันตอนประมาณตี 3 นุ่นลงจากรถและหายไปเลย
เมื่อถามว่าทำไมตอน 03.00 น. ยังไม่กลับบ้านอีก ศิริชัยก็บอกว่า นุ่นและศิริชัยไปหาอะไรกินกันแถว ถ.แจ้งวัฒนะ แต่เพื่อนก็รู้สึกว่ามีข้อพิรุธอย่างมาก เมียหายไปทั้งคน แต่ตอนเช้าไม่ตามหา เพราะกว่าที่ศิริชัยจะพูดเรื่องนี้คือตอน 18.00 น. ทั้งที่เวลาคนหาย ถ้ารู้ตัวศิริชัยน่าจะสอบถามจากเพื่อนของนุ่นทันที เฟิร์นพยายามบอกให้ศิริชัยไปแจ้งความ ไม่ต้องรอ 24 ชม. แต่ศิริชัยก็ไม่แจ้งความ และบอกว่าโลเคชั่นสุดท้ายที่พบนุ่นคือที่สระแก้ว สนใจจะไปหาด้วยกันไหม เฟิร์นทราบดังนั้นก็ไม่กล้าไปด้วย แต่พยายามคะยั้นคะยอให้ศิริชัยไปแจ้งความดีกว่า ศิริชัยก็บอกว่ารอตี 3 ค่อยไปแจ้งความ แต่สุดท้ายแล้ว กว่าที่จะไปแจ้งความคือ 09.00 น. ของวันถัดไป
โพสต์ดังกล่าวกลายเป็นโพสต์ดัง และทางเพื่อนได้ออกมายืนยันว่า น้องนุ่นไม่ได้เมา และจากการเช็กกับทางตำรวจ น้องนุ่นไม่ได้ออกนอกประเทศไปแล้วแต่อย่างใด
ศิริชัย โกหกหน้าตาย ไม่ได้ฆ่านุ่น ขอร้องให้นุ่นกลับมา เชื่อมั่นว่านุ่นยังมีชีวิตอยู่
เมื่อข่าวดังขึ้น ศิริชัยก็ออกมาให้ข่าวถึงการหายตัวไปของนุ่นว่า ศิริชัย นุ่น และลูกวัย 1 ขวบ 2 เดือน ได้ไปกินข้าวในย่านเลียบด่วนรามอินทรา หลังจากที่ร้านปิด ศิริชัยและนุ่นก็กลับบ้าน แต่ระหว่างทางช่วงประมาณตี 1 เกิดมีปากเสียงกันเรื่องแฟนเก่าของศิริชัย เรื่องเงินทองในครอบครัว นุ่นพยายามเปิดประตูเพื่อลงจากรถ แต่ศิริชัยตามกลับมาได้ จากนั้น นุ่นพยายามจะลงจากรถอีกหลายครั้ง แต่มาหนีสำเร็จตอนอยู่แถวเมืองทองธานี ตอนที่ศิริชัยกำลังเลี้ยวเข้าหมู่บ้าน ช่วงเวลาประมาณตี 3 เมื่อนุ่นลงจากรถแล้ว นุ่นก็วิ่งหายตัวไปในมุมมืดเพื่อไปขึ้นแท็กซี่ แต่ศิริชัยตามไปไม่ได้เพราะลูกอยู่ในรถ จนต่อมาศิริชัยก็ได้พยายามติดต่อกับเพื่อนของนุ่นว่านุ่นอยู่ด้วยกันไหม แต่ไม่มีใครพบ จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่ทราบ
ศิริชัยยอมรับว่า ที่ผ่านมา นุ่นเคยพยายามหนีไปหลายครั้ง และทุกครั้งนุ่นไม่เคยแจ้งว่าหนีไปไหน ศิริชัยยอมรับว่ามีการใช้ความรุนแรงกับนุ่น ใช้เท้าเหยียบหน้านุ่น แต่จะเป็นฝ่ายศิริชัยที่ง้อให้นุ่นกลับมา ศิริชัยอ้างว่าตนไม่ได้ฆ่านุ่นตามข่าว และเชื่อว่านุ่นยังมีชีวิตอยู่
ภาพจาก X @MorningNewsTV3
คุณบิว พยานปากสำคัญ เห็นเหตุการณ์เลยจับโป๊ะ ศิริชัย โกหกตั้งแต่เรื่องเวลา - สถานที่ซ้อมนุ่น
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้มาถึงจุดพลิกผัน เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ คุณบิว ซึ่งทำงานรับขับรถแทนคนที่ดื่มเหล้า ผ่านไปเห็นเหตุการณ์ก่อนที่นุ่นจะเสียชีวิต คุณบิวบอกว่า ศิริชัยโกหกทั้งเรื่องสถานที่ เวลา ที่บอกว่านุ่นหายไปตอนประมาณตี 3 แถวเมืองทองธานี เพราะคุณบิวเห็นศิริชัยทำร้ายร่างกายนุ่น จนนุ่นนอนไม่ได้สติ แถวแจ้งวัฒนะ ในช่วงเวลาประมาณตี 1 และด้วยสภาพของคุณนุ่นตอนนั้น คงไม่สามารถลากร่างตัวเองไปขึ้นแท็กซี่ได้แน่นอน
และเนื่องจากคุณบิว ทำงานขับรถให้ลูกค้า จึงเป็นคนช่างสังเกต คุณบิวจำรถ BMW สีขาวของศิริชัยได้ และติดต่อแม่คุณนุ่นทันที และอีกวันเมื่อขับรถไปทำงาน คุณบิวก็ถ่ายรูปตรงจุดที่พบศิริชัยและนุ่นเอาไว้ คุณบิวยืนยันว่าตนไม่ได้รู้จักศิริชัยและนุ่นเป็นการส่วนตัว ตอนที่เกิดขึ้นไม่รู้ว่าเกิดอะไร แต่แค่อยากจะช่วย ไม่อยากรู้สึกติดค้าง และคำพูดของศิริชัยนั้น เป็นเรื่องโกหกทั้งหมด
ภาพจาก X @3Plusnews
ขุดจนพบ กระดูกของนุ่นที่ปราจีนบุรี ศิริชัยรับสารภาพ ซ้อมนุ่นริมถนนเสร็จ มาซ้อมต่อที่บ้านจนตาย จุดไฟเผาอำพรางศพ
อย่างไรก็ตาม ทางนักข่าวของอมรินทร์ทีวี ได้พยายามขุดคุ้ยเรื่องนี้ จนนำไปสู่การค้นพบโครงกระดูกที่ สวนยางพาราแห่งหนึ่ง ใน ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี และบริเวณใกล้กันนั้นยังพบสร้อยทองคำที่น้องนุ่นใส่ พบกะโหลกของมนุษย์ โครงเหล็กที่คล้ายกับกระเป๋าเดินทาง และตำรวจได้มาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ อันเป็นเหตุให้ตำรวจได้เข้าจับกุมตัวศิริชัยที่บ้านพัก
ด้านตำรวจได้ไปไล่กล้องวงจรปิด และเห็นภาพการกระทำอันโหดร้ายของศิริชัยที่ปฏิบัติต่อนุ่น โดยที่ศิริชัยและนุ่นได้มีปากเสียงกัน ศิริชัยกระชากหัว เตะไปที่ใบหน้า จนนุ่นลงไปนอนกองกับพื้น จากนั้นก็มีการจิกหัวนุ่นขึ้นมานั่ง ศิริชัยทุบและกระทืบหัวนุ่น จนนุ่นแน่นิ่งไป กินเวลากว่า 5 นาที จากนั้นศิริชัยก็ไปหลบมุม ก่อนที่จะนำก้อนอิฐทุบหัวนุ่น จนนุ่นมีสภาพไม่ได้สติ โดยที่เขาก็ยังอุ้มลูกไว้ที่แขนอีกข้าง
แม้นุ่นจะพยายามลุกหนี แต่ศิริชัยก็ยังเข้ามาเตะเข้าที่ใบหน้าของนุ่นนานกว่า 10 นาที และศิริชัยก็เอานุ่นขึ้นรถและขับกลับบ้าน และมีการทำร้ายร่างกายนุ่นต่อบนรถ จนเมื่อถึงบ้าน ซึ่งตอนนั้นนุ่นยังมีชีวิตอยู่ ศิริชัยก็ลากนุ่นเข้าบ้านและไปทำร้ายร่างกายนุ่นต่อในบ้าน โดยการเอาอิฐบล็อกทุบนุ่น และในบ้านก็มีคราบเลือดของนุ่นติดเปื้อนทั้งบนผ้าปูที่นอน และบนกำแพงอีกด้วย
เมื่อมาถึงตอนเช้าเวลา 09.00 น. ศิริชัยมาทราบว่านุุ่นเสียชีวิตแล้วและต้องการอำพรางศพ จึงเอาร่างของนุ่นใส่กระเป๋าเดินทาง ขับรถออกจากบ้านพร้อมลูกน้อย ไปซื้อน้ำมัน 2 แกลลอน และเอาศพของนุ่นไปเผาที่ปราจีนบุรี ศิริชัยขับรถกลับมาถึงบ้านช่วงประมาณ 17.00 น. แล้วค่อยพาลูกไปแจ้งความเรื่องที่นุ่นหายตัวไป
ศิริชัยอ้างว่า สาเหตุที่ทำร้ายร่างกาย และฆ่าน้องนุ่นนั้น อันเนื่องมาจากความเมาและการหึงหวง และนุ่นไม่เคยให้อภัยศิริชัย พูดอะไรก็ผิดไปหมด ต่อให้ศิริชัยออกมาจากคุก ก็ไม่กล้าสู้หน้าครอบครัวของนุ่นหรือครอบครัวตัวเอง ตนไม่มีหน้าไปเจอหน้าลูก ศิริชัยไม่ต้องการให้ลูกจำได้ ให้บอกว่าพ่อตายไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากความแค้นหลายอย่าง เวลาคุยกันจะเป็นศิริชัยที่เป็นฝ่ายง้อ และไม่ว่าจะทำดีแค่ไหนก็ไม่เคยดี นุ่นจะเอาเรื่องที่เคลียร์ไปแล้วมาทะเลาะกันซ้ำ ๆ