คนหายเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ หรือสงสัยว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับเราอาจหายตัวไป โดยไม่รู้ สาเหตุ เหตุการณ์เหล่านี้ ไม่มีการบอกกล่าว ไม่มีการเตรียมตัวกันล่วงหน้า หลายคนไม่รู้จะรับมือ กับเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่รู้ว่าควรทำอะไรก่อน หลัง
หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเรา หรือ บุคคลใกล้ตัว สิ่งสำคัญที่สุดที่ควรจะทำก่อนเป็นอันดับแรกคือ การตั้งสติ ตั้งสมาธิเพื่อลำดับ และ วิเคราะห์เหตุการณ์, ระยะเวลา และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับผู้หายตัวไป ซึ่ง จะเป็นข้อมูลให้กับองค์กร หรือหน่วยงานที่จะมาช่วยเราสืบค้น หรือนำพาผู้สูญหายกลับมาได้อย่าง รวดเร็วที่สุด หลังจากนั้น สิ่งที่เราควรปฏิบัติต่อไป ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการไปแจ้งความคนหาย ที่สถานีตำรวจ มีขั้นตอน หรือต้องเตรียมตัวอย่างไรกันบ้าง มาดูกันค่ะ
การแจ้งความคนหายที่สถานีตำรวจ
การแจ้งความคนหาย หมายถึง การแจ้งความกรณีคนหายกับพนักงานสอบสวน ที่สถานี ตำรวจเพื่อลงรายงานบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนในการสืบค้น ของระเบียบการตำรวจเกี่ยวกับคดีเรื่องคนหายพลัดหลงต่อไป
๐ ข้อแนะนำก่อนการไปแจ้งความคนหายที่สถานีตำรวจ
1. ครอบครัวคนหายต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อเป็นการยืนยันได้อย่างชัดเจน ว่าคน หายได้หายออกจากบ้านไปจริง โดยไม่มีกรณีสงสัยว่าติดธุระหรือไปที่อื่น ซึ่งเป็นเหตุ ให้ต้องกลับ บ้านผิดเวลา โดยข้อมูลดังกล่าวควรตรวจสอบจากเพื่อนสนิท หรือคนที่คิดว่าจะ ทราบความเคลื่อน ไหวของผู้หายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะขาดการติดต่อไป
2. ควรตรวจสอบทรัพย์สินหรือสิ่งของสำคัญของผู้หาย ว่ามีการนำติดตัวไปด้วยหรือไม่ ตรวจสอบ ว่ามีการเก็บเสื้อผ้าหรือทิ้งหลักฐานอื่น ๆ เช่น จดหมายสั่งลาไว้ด้วยหรือไม่ เพื่อเป็นข้อมูลและพยาน หลักฐานในการยืนยันว่าผู้หายได้หายออกจากบ้านไปจริง ๆ
3. ควรตั้งสติ และลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนการหายไป และเหตุการณ์ที่ อาจมีส่วน เกี่ยวข้องกับการหายไป โดยครอบครัวอาจจะเขียนลำดับเหตุการณ์ลงในกระดาษ เพื่อง่ายต่อการ เรียงลำดับเหตุการณ์อย่างเป็นขั้นตอนและชัดเจน อีกทั้งเมื่อเวลาไปแจ้งความ ที่สถานีตำรวจยัง สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอ่านได้ทันที เพื่อป้องกันการให้ข้อมูลที่สับสน และ อาจจะตกหล่นไปในประเด็นที่มีความสำคัญ
๐ เอกสารที่ต้องเตรียมไปแจ้งความคนหายที่สถานีตำรวจ
เอกสารของผู้แจ้งความ
1. บัตรประจำตัวประชาชน (หรือ) บัตรประจำตัวข้าราชการ (หรือ) หนังสือเดินทาง กรณีเป็น คนต่างชาติ
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
เอกสารเกี่ยวกับคนหาย
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
3. ภาพถ่ายคนหาย (ควรเป็นภาพที่ถ่ายไว้ล่าสุด, มองเห็นลักษณะรูปร่างหน้าตาได้ชัดเจนที่สุด)
4. ใบสำคัญทางราชการอื่น ๆ (ถ้ามี)
๐ ขั้นตอนของการแจ้งความคนหายที่สถานีตำรวจ
เมื่อเตรียมหลักฐาน เอกสารต่าง ๆ รวมทั้งพร้อมแล้ว ก็ดำเนินการแจ้งความตามขั้นตอน ดังนี้
1. พบพนักงานสอบสวนเพื่อให้สอบถามรายละเอียดและสอบปากคำผู้แจ้งเกี่ยวกับข้อมูลของ คนหาย
2. เสมียนประจำวันคดีทำการลงบันทึกประจำวัน
3. พนักงานสอบสวนมอบสำเนาบันทึกประจำวันให้แก่ผู้แจ้ง (ในกรณีที่พนักงานสอบสวนไม่มอบ สำเนาบัตรบันทึกประจำวันดังกล่าวให้ผู้แจ้งความต้องร้องขอ)
4. ให้ผู้แจ้งขอชื่อและหมายเลขโทรศัพท์มือถือของหนักงานสอบสวนที่รับแจ้งความไว้ด้วย สำหรับการประสานงานเพื่อสอบถามความคืบหน้า
๐ อื่น ๆ ที่ควรรู้ ในการแจ้งความคนหาย
# เราสามารถแจ้งความคนหายได้แม้จะยังไม่ถึง 24 ชั่วโมง
ส่วนใหญ่เรามักจะได้ยินว่า ถ้าคนหายไปยังไม่ถึง 24 ชั่วโมงตำรวจจะไม่รับแจ้งความ ซึ่งใน ความเป็นจริงแล้ว ความคิดนี้เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากตามข้อกฎหมายในระเบียบการ ตำรวจเกี่ยวกับคดีเรื่องคนหายพลัดหลง ไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ว่าต้องหายไปเกินกว่า 24 ชั่วโมง จึงจะสามารถแจ้งความได้
แต่ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจใช้ดุลพินิจในการไม่รับแจ้งความได้ ใน กรณีที่ไม่สมควรแก่เหตุ เช่น การกลับบ้านคลาดเคลื่อนจากเวลาปกติที่เคยกลับเพียง 2-3 ชั่วโมง ยัง ไม่มีเหตุผลเพียงพอ เนื่องจากผู้หาย อาจจะติดธุระหรือมีเหตุจำเป็นเรื่องอื่นจึงทำให้กลับบ้านช้ากว่า ปกติ เป็นต้น
ดังนั้น การแจ้งความคนหาย จึงสามารถแจ้งได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องหายไปครบ 24 ชั่วโมง แต่อย่างใด อีกทั้งถ้าเป็นกรณีเร่งด่วน เช่น เด็ก คนชรา หรือผู้ป่วยที่มีอาการทางสมอง หายออกไปจากบ้าน สามารถแจ้งความเพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที
# สถานีตำรวจที่สามารถแจ้งความคนหายได้
+ กรณีที่เกี่ยวข้องด้วยความผิดทางอาญา +
1. สถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุ หรือท้องที่ที่พบผู้หายครั้งสุดท้าย
2. สถานีตำรวจท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของผู้หาย
+ กรณีที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน +
1. สถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุ หรือท้องที่ที่พบผู้หายครั้งสุดท้าย
2. สถานีตำรวจทุกแห่งที่คาดว่าผู้หายจะอยู่ในท้องที่ดังกล่าว
+ กรณีคนหายทั่วไปแจ้งความไว้เพื่อเป็นหลักฐาน +
1. สถานีตำรวจท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของผู้หาย
2. สถานีตำรวจท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของครอบครัวผู้หาย
ขอบคุณข้อมูลจาก
ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์