เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 16 พ.ค. พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบก.ภ.จว.อ่างทอง พ.ต.อ.รวีโรจน์ กองกันภัย ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง แถลงข่าวการจับกุมนายสถิตย์ มิตรมาศย์ อายุ 46 ปี และ น.ส.ไพรวัลย์ ชัยชนะ อายุ 33 ปี ภรรยา ผู้ต้องหาคดีบังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ชี้นำให้เด็กเป็นขอทาน หรือกระทำการอื่นใดเป็นการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก
โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อกวนอูอ่างทอง ถนนสายอ่างทอง-สิงห์บุรี ต.ตลาดหลวง อ.เมืองอ่างทอง พร้อมเหรียญสตางค์ชนิดต่างๆ จำนวน 15,436 บาท รถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ หมายเลขทะเบียน ลฐ 9220 กรุงเทพมหานคร
พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบด.ญ.สายฝน เข็มมี หรือ น้องฝน อายุ 15 ปี และ ด.ญ.ละอองดาว เข็มมี หรือ น้องดาว อายุ 5 ขวบ ซึ่งเป็นน้องสาว เดินตระเวนขอเศษเงินจากประชาชนในตลาดสดเทศบาลเมืองอ่างทองอย่างน่าสงสาร จึงแจ้งตำรวจให้ดำเนินการตรวจสอบและหาทางช่วยเหลือ
จากการสอบสวนเบื้องต้น ด.ญ.ทั้งสองให้การกับตำรวจว่า ถูกนายสถิตย์ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง และ น.ส.ไพรวัลย์ ซึ่งเป็นแม่แท้ๆ ขับรถพาตระเวนไปขอทานตามสถานที่ต่างๆ หากมืดค่ำที่ไหนจะปักหลักนอนค้างคืนบริเวณนั้น ในแต่ละวันจะมีผู้ใจบุญให้ทานประมาณ 800-1,000 บาทเศษ โดยวันนี้พ่อเลี้ยงได้ขับรถจากจ.ชัยภูมิ มายังจ.อ่างทอง โดยให้ 2 พี่น้องขอทานตามปกติ ตลอดช่วงเช้าได้เงินมา 436 บาท ส่วนพ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆ จอดรถรออยู่ที่บริเวณศาลเจ้าพ่อกวนอู จึงเชิญตัวไปสอบปากคำ พร้อมตรวจค้นรถพบเหรียญสตางค์จำนวนมากซุกซ่อนในถุงปุ๋ย
นายสถิตย์ให้การรับสารภาพว่า เพิ่งมาอยู่กินกับน.ส.ไพรวัลย์ได้ไม่นาน โดยมีอาชีพขายลูกโป่งตามสถานที่ทั่วไป แต่มีรายได้ไม่เพียงพอ จึงออกอุบายให้ลูกเลี้ยงไปขอทานและพบว่ามีรายได้ดี จึงให้ออกจากโรงเรียนและออกตระเวนขอทานไปตามจังหวัดต่างๆ สถานที่ใดมีคนให้ทานมากก็จะปักหลักอยู่นานหลายวัน จากนั้นจะเดินทางกลับบ้านจ.ชัยภูมิ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ทำร้ายเด็กแต่อย่างใด
ด.ญ.สายฝน หรือ น้องฝน กล่าวว่า พ่อเลี้ยงและแม่ได้พูดจาชักจูงให้ขอทานตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เนื่องจากลูกโป่งขายไม่ดี จึงตระเวนขอทานเรื่อยมาเป็นเวลากว่า 7 ปี โดยแม่นำเงินที่ได้ไปซื้อรถกระบะและรถจักรยานยนต์ ในแต่ละเดือนจึงมีภาระในการผ่อนส่งงวดรถ ตนกับน้องจึงต้องหาเงินให้แม่
"หนูไม่อยากขอทาน อยากเรียนหนังสือเหมือนคนอื่น แต่คงเปลี่ยนพฤติกรรมได้ลำบาก" น้องฝนกล่าว
พ.ต.อ.รวีโรจน์ กองกันภัย ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง กล่าวว่า ได้สอบปากคำผู้ต้องหาซึ่งเป็นแม่และพ่อเลี้ยง ทั้งสองคนให้ความร่วมมือด้วยดีเป็นประโยชน์ต่อคดี แต่ข้อมูลบางอย่างยังไม่กระจ่างชัด ให้การอึกอักคล้ายปกปิดข้อมูลบางอย่าง จึงต้องตรวจสอบข้อมูลเบื้องลึกอีกต่อไปว่า นอกเหนือจากให้ลูกขอทานแล้ว ก่อนหน้านี้เคยชักจูงผู้อื่นอีกหรือไม่ หรือมีกระบวนการมีเครือข่ายแอบแฝง ขณะนี้พยายามโทรศัพท์สอบถามญาติผู้ต้องหาเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริง แต่หลายคนยังบ่ายเบี่ยงที่จะให้การ จึงยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัด เพราะสภาพแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน
"ได้แจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีพ่อเลี้ยงและแม่ของเด็กหญิงทั้งสองเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง และไม่อนุญาตให้ประกันตัว ส่วนเด็กทั้ง 2 คน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้รับตัวไปดูแลเพื่อฟื้นฟูทักษะด้านต่างๆ โดยเด็กยินยอมและดีใจ วิ่งเล่นอย่างอารมณ์ดีจนเจ้าหน้าที่ห้ามปรามไม่ไหว" ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง กล่าว
ด้านน.ส.ไพรวัลย์ แม่ของเด็กหญิง กล่าวว่า ไม่ได้บังคับขู่เข็ญลูกแต่อย่างใด เพียงแต่บอกกับลูกว่าไปขอทานเขา ต้องพูดกับเขาดีๆ เพื่อเขาจะได้ให้สตางค์มาก จะได้นำเงินไปผ่อนรถ ซื้ออุปกรณ์สร้างบ้านใหม่ที่ดีขึ้น ซึ่งลูกก็ทำตาม และยอมรับว่ามีรายได้จากตรงนี้ โดยตนไม่รู้ว่ามีความผิดเพราะไม่ได้บังคับตบตีลูก เราดำเนินชีวิตของเราเช่นนี้มานาน เพื่อนบ้านก็มี การถูกจับครั้งนี้ไม่บอกให้ญาติพี่น้องทราบ แต่หากมีข่าวออกไปคงทราบ
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
