ดราม่างานบอล ทำไมไม่แบกเสลี่ยง คนในจุฬาฯ ตอบเอง - ไขปริศนา งานบอลประเพณีไปไหน

          ไขปริศนา ดราม่างานบอล ทำไมไม่แบกเสลี่ยง คนในจุฬาฯ มาตอบเอง และเพิ่งรู้กันว่า มันไม่ใช่ฟุตบอลประเพณี แต่เป็นฟุตบอลสานสัมพันธ์ ครั้งที่ 1 แล้วงานบอลประเพณี หายไปไหน ?

ดราม่างานบอล ทำไมไม่แบกเสลี่ยง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Chula BAKA

          กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาสำหรับการอัญเชิญพระเกี้ยวของนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่วางไว้บนหลังคารถกอล์ฟ ในงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ประเด็นอื่น ๆ ที่หลายคนรู้สึกสนใจมากกว่าการอัญเชิญพระเกี้ยว คือ รูปแบบการจัดงานที่ดูไม่จัดเต็มเท่าครั้งก่อน เช่น การแปรอักษรใช้จอ LED ขบวนพาเหรดก็เล็ก การประชาสัมพันธ์งานไม่ดี ถ้าหากไม่มีข่าวเรื่องการอัญเชิญพระเกี้ยว ก็ไม่รู้ว่ามีงาน


อ่านข่าว : ม.จ.จุลเจิม โพสต์สวดนิสิตจุฬาฯ เอาพระเกี้ยววางบนหลังคารถกอล์ฟ รับตรง ๆ เ-อก


ดราม่างานบอล ทำไมไม่แบกเสลี่ยง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Chula BAKA

          ล่าสุด วันที่ 3 เมษายน 2567 เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ของนายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการโพสต์ถึงเรื่องงานบอลว่า งานบอลที่เพิ่งจัดไป ไม่ใช่งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ - ธรรมศาสตร์ แต่เป็นงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 1 ซึ่งมีหลายคนเข้าใจผิดเยอะ และไม่รู้ว่าการชี้แจงครั้งนี้จะช่วยลดดราม่าให้น้อยลงได้หรือเปล่า

          ปกตินั้น งานฟุตบอลประเพณีที่ผ่านมา จะจัดโดยสมาคมศิษย์เก่าของทั้ง 2 สถาบัน ผลัดกันเป็นเจ้าภาพมาโดยตลอด แต่พอเกิดการระบาดของโควิด 19 ทำให้สมาคมศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ที่เป็นเจ้าภาพฟุตบอลประเพณีครั้งที่ 75 ขอเลื่อนจัดมาหลายครั้ง นับตั้งแต่ปี 2564 และในตอนนี้ก็ยังหาวันที่เหมาะสมไม่ได้ ต้องเลื่อนอีก 1 ปี

          เหตุนี้เอง ทางองค์การบริหารสโมสรของทั้ง 2 สถาบัน จึงได้ขอจัดงานฟุตบอลสานสัมพันธ์ ครั้งที่ 1 ขึ้นเอง โดยมีระยะเวลาที่กระชั้นชิดและงบประมาณน้อยมาก เน้นจัดแบบเรียบง่าย กระชับ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อยากจะจัดในแนวทางตัวเองที่ไม่อยู่ในกรอบของสมาคมศิษย์เก่าของทั้งสองสถาบันเคยวางแนวไว้

          ดังนั้น เราจึงเห็นการแปรอักษรด้วยป้าย LED แก้ปัญหาการระดมคนขึ้นสแตนด์ หรือแม้พิธีอัญเชิญธรรมจักรและพระเกี้ยวก็เรียบง่ายขึ้น ใช้กำลังคนน้อยลง ซึ่งถ้ามองตามผลลัพธ์ที่ออกมา ก็ถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งเอาไว้ แม้ไม่อลังการเท่าเดิม

          อย่างไรก็ตาม การจัดงานบอลครั้งนี้ ไม่ได้มีแค่นิสิตนักศึกษาเท่านั้นที่จัด แต่ผู้บริหารของ 2 มหาวิทยาลัยก็มาช่วยสนับสนุน สรุปคือ รูปแบบวิธีการที่เปลี่ยนไป ก็ถือว่าผ่านความเห็นชอบของผู้ใหญ่ทั้ง 2 มหาวิทยาลัยแล้ว

          ส่วนใครที่กังวลว่า งานฟุตบอลประเพณีจะดูด้อยลง ก็ต้องดูในปีหน้าว่า งานจะถูกจัดออกมาแบบไหน สวยงามยิ่งใหญ่เท่าปี 2563 ที่เป็นการจัดครั้งสุดท้ายหรือเปล่า หรือจะปรับเปลี่ยนใหม่ไปตามสมัยนิยม เน้นคุณค่าตัวงาน ลดพิธีรีตรอง ต้องรอฟังสมาคมศิษย์เก่าของ 2 สถาบันนำเสนอต่อไป

          จากดราม่าที่เกิดขึ้น ควรมองว่าเป็นคนละงาน ส่วนใครที่อยากจะมาช่วยยกเสลี่ยงอัญเชิญพระเกี้ยวให้ ในปีหน้า ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี รีบมาสมัครล่วงหน้าเลย

ดราม่างานบอล ทำไมไม่แบกเสลี่ยง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Chula BAKA

คนจัดแจงธีมชัดเจน สิ่งต่าง ๆ ที่ล้อมพระเกี้ยว หมายถึงอะไร


          ขณะที่ เฟซบุ๊ก Chula BAKA มีการโพสต์ถึงเรื่องพระเกี้ยวว่า ในขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวงานฟุตบอลสานสัมพันธ์ เหล่านิสิตตั้งใจในการคัดสรรสัญลักษณ์ตัวแทนแห่งองค์ความรู้ของศาสตร์แขนงต่าง ๆ   มารายล้อมในขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว ประกอบไปด้วย

          - เข็มฉีดยาและขวดชมพู่ ตัวแทนของ วิทยาศาสตร์สุขภาพและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี

          - หนังสือเล่มหนา ตัวแทนของ สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์

          - ไม้ฉากเรขาคณิต ตัวแทนของ คณิตศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์

          - เกียร์ ตัวแทนของ วิศวกรรมศาสตร์

          - สเลตฟิล์ม ตัวแทนของ นิเทศศาสตร์

          - ดัมเบล ตัวแทนของ วิทยาศาสตร์การกีฬา

          - จานสี ตัวแทนแห่งศาสตร์ศิลปะ

          สัญลักษณ์เหล่านี้จะอยู่รายล้อมพระเกี้ยวที่กำลังถูกขับเคลื่อนด้วยรถไฟฟ้า เปรียบเสมือนองค์ความรู้ที่อยู่คู่จุฬาฯ พัฒนาวงการต่าง ๆ ในประเทศไทยและระดับโลกในทุกยุคสมัย และกลับมาโอบอุ้มมหาวิทยาลัยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง แข็งแรง

          อีกสิ่งหนึ่งที่ประดับตกแต่งขบวนที่ทุกคนเห็นคือ อะตอม ซึ่งสื่อถึงส่วนประกอบเล็ก ๆ ที่เมื่อรวมกันจะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เปรียบเสมือนความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของนิสิต บัณฑิต และบุคลากรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ร่วมแรงร่วมใจไปสู่การเป็นสถาบันเสาหลักที่ยั่งยืนของประเทศ

          ดอกไม้ที่ใช้ ก็เป็นดอกไม้จากพลาสติกที่ใช้แล้ว นำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามแนวคิดของงานคือ Unity to Sustainability และร้อยเรียงเป็น พวงดอกกล้วยไม้ที่ผลิบาน ดั่งโบราณว่า กล้วยไม้มีดอกช้า ฉันใด การศึกษาเป็นไป เช่นนั้น แต่ดอกออกคราวไร งามเด่น การศึกษาปลูกปั้น เสร็จแล้วแสนงาม


ดราม่างานบอล ทำไมไม่แบกเสลี่ยง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Chula BAKA

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดราม่างานบอล ทำไมไม่แบกเสลี่ยง คนในจุฬาฯ ตอบเอง - ไขปริศนา งานบอลประเพณีไปไหน อัปเดตล่าสุด 3 เมษายน 2567 เวลา 16:34:53 11,494 อ่าน
TOP
x close