สาววัย 29 ปี อยากลดน้ำหนัก เลยหักดิบด้วยการต้มผักกินทุกมื้อ ครึ่งปีลดได้ 5 กิโลกรัม แต่พอไปตรวจกลับพบว่าเป็นไขมันพอกตับ อาการหนักยิ่งกว่าเดิม หมออธิบาย มันเป็นไปได้ยังไง
![กินผักลดน้ำหนัก]( "กินผักลดน้ำหนัก")
ทราบกันดีว่าผักมีสารอาหารที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย หลายคนจึงนิยมกินผักเพื่อสุขภาพ หรือเพื่อควบคุมน้ำหนัก แต่หากรับประทานอย่างไม่เหมาะสมอาจเจอกับผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามอย่างคาดไม่ถึง
วันที่ 22 สิงหาคม 2567 เว็บไซต์ Sinchew เผยเรื่องราวของหญิงชาวจีนรายหนึ่ง ชื่อสกุลหลิว วัย 29 ปี จากเมืองหนิงโป ในมณฑลเจ้อเจียง เธอสูง 160 เซนติเมตร และหนัก 58 กิโลกรัม เธอมีรูปร่างปกติแต่มีพุงห่วงยาง เมื่อประมาณครึ่งปีก่อนเธอได้ไปตรวจสุขภาพประจำปีแล้วพบว่า เธอมีภาวะไขมันพอกตับในระดับเล็กน้อย เธอจึงหันมาใส่ใจกับเรื่องสุขภาพ โดยตั้งใจจะลดน้ำหนักอย่างจริงจัง
หลิวเชื่อว่าที่ผ่านมาเธอบริโภคอาหารประเภทเนื้อสัตว์มากเกินไป เธอจึงเปลี่ยนมากินผักต้มแทน พร้อมกับอาหารมื้อหลักเพียงเล็กน้อย โดยที่ไม่กินเนื้อสัตว์และคาร์โบไฮเดรตขัดสี หรืออาหารประเภทแป้งที่ผ่านการแปรรูป หมายความว่าในทุก ๆ มื้อ อาหารหลัก ๆ ที่เธอกินก็คือผักต้มและธัญพืชนึ่ง โดยทำเช่นนี้เป็นประจำทุกวัน
หลังจากผ่านไป 6 เดือน หลิวได้เดินทางไปติดตามผลและตรวจสุขภาพร่างกายอีกครั้งที่โรงพยาบาล ซึ่งครั้งนี้เธอมีความมั่นใจว่าปัญหาสุขภาพของเธอจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากเธอสามารถลดน้ำหนักไปได้ 5 กิโลกรัม หน้าท้องของเธอก็ดูยุบลงและเอวเล็กลงอย่างสังเกตได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากการตรวจอัลตราซาวด์ ผลปรากฏว่า ภาวะไขมันพอกตับของหลิวแย่ลงกว่าเดิม จากระดับเล็กน้อยกลายเป็นระดับปานกลางถึงรุนแรง ซึ่งทำให้เธอประหลาดใจและสงสัยเป็นอย่างยิ่ง
"ฉันกินมังสวิรัติมา 6 เดือนแล้ว โดยพื้นฐานแล้วกินแต่ผักต้ม แต่ผลการวินิจฉัยกลับออกมาว่ามีไขมันพอกตับระดับปานกลางถึงรุนแรง มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร ?" หลิว กล่าว
เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ดร.หยาง ไน่ปิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยหนิงโป เผยว่า คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าไขมันพอกตับจะเกิดกับผู้ที่มีโรคอ้วนเท่านั้น แต่ความจริงไม่ใช่ ผู้ที่ลดน้ำหนักอย่างผิดวิธี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอดอาหารมากเกินไป และการขาดโปรตีนอย่างรุนแรง สามารถส่งผลให้เกิดไขมันสะสมในตับรุนแรงขึ้น
สำหรับคนไข้หลิว การลดน้ำหนักแบบหักดิบของเธอทำให้ร่างกายแทบจะไม่ได้รับโปรตีนเลยตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ตับต้องการโปรตีนเพื่อสลายและเผาผลาญไขมัน เมื่อไม่มีโปรตีน ไขมันก็จะสะสมอยู่ในตับ นอกจากนี้การที่เธอกินผักต้มต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้ร่างกายมีพลังงานไม่เพียงพอต่อความต้องการ เมื่อไขมันในร่างกายสลายตัวอย่างรวดเร็วจึงเกิดเป็นกรดไขมันจำนวนมากเข้าสู่ตับ และทำให้เกิดไขมันสะสมในตับได้ง่ายยิ่งขึ้น
ดร.หยาง เน้นย้ำว่า โปรตีนสำคัญต่อร่างกายมาก การบริโภคโปรตีนอย่างเพียงพอมีความสำคัญมากกว่าการลดการบริโภคแป้ง ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนักคือ การควบคุมอาหารอย่างสมดุลในรูปแบบที่ดีต่อสุขภาพ และเป็นไปตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ตามความเชื่อ พร้อมทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ทราบกันดีว่าผักมีสารอาหารที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย หลายคนจึงนิยมกินผักเพื่อสุขภาพ หรือเพื่อควบคุมน้ำหนัก แต่หากรับประทานอย่างไม่เหมาะสมอาจเจอกับผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามอย่างคาดไม่ถึง
วันที่ 22 สิงหาคม 2567 เว็บไซต์ Sinchew เผยเรื่องราวของหญิงชาวจีนรายหนึ่ง ชื่อสกุลหลิว วัย 29 ปี จากเมืองหนิงโป ในมณฑลเจ้อเจียง เธอสูง 160 เซนติเมตร และหนัก 58 กิโลกรัม เธอมีรูปร่างปกติแต่มีพุงห่วงยาง เมื่อประมาณครึ่งปีก่อนเธอได้ไปตรวจสุขภาพประจำปีแล้วพบว่า เธอมีภาวะไขมันพอกตับในระดับเล็กน้อย เธอจึงหันมาใส่ใจกับเรื่องสุขภาพ โดยตั้งใจจะลดน้ำหนักอย่างจริงจัง
หลิวเชื่อว่าที่ผ่านมาเธอบริโภคอาหารประเภทเนื้อสัตว์มากเกินไป เธอจึงเปลี่ยนมากินผักต้มแทน พร้อมกับอาหารมื้อหลักเพียงเล็กน้อย โดยที่ไม่กินเนื้อสัตว์และคาร์โบไฮเดรตขัดสี หรืออาหารประเภทแป้งที่ผ่านการแปรรูป หมายความว่าในทุก ๆ มื้อ อาหารหลัก ๆ ที่เธอกินก็คือผักต้มและธัญพืชนึ่ง โดยทำเช่นนี้เป็นประจำทุกวัน
หลังจากผ่านไป 6 เดือน หลิวได้เดินทางไปติดตามผลและตรวจสุขภาพร่างกายอีกครั้งที่โรงพยาบาล ซึ่งครั้งนี้เธอมีความมั่นใจว่าปัญหาสุขภาพของเธอจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากเธอสามารถลดน้ำหนักไปได้ 5 กิโลกรัม หน้าท้องของเธอก็ดูยุบลงและเอวเล็กลงอย่างสังเกตได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากการตรวจอัลตราซาวด์ ผลปรากฏว่า ภาวะไขมันพอกตับของหลิวแย่ลงกว่าเดิม จากระดับเล็กน้อยกลายเป็นระดับปานกลางถึงรุนแรง ซึ่งทำให้เธอประหลาดใจและสงสัยเป็นอย่างยิ่ง
"ฉันกินมังสวิรัติมา 6 เดือนแล้ว โดยพื้นฐานแล้วกินแต่ผักต้ม แต่ผลการวินิจฉัยกลับออกมาว่ามีไขมันพอกตับระดับปานกลางถึงรุนแรง มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร ?" หลิว กล่าว
เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ดร.หยาง ไน่ปิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยหนิงโป เผยว่า คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าไขมันพอกตับจะเกิดกับผู้ที่มีโรคอ้วนเท่านั้น แต่ความจริงไม่ใช่ ผู้ที่ลดน้ำหนักอย่างผิดวิธี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอดอาหารมากเกินไป และการขาดโปรตีนอย่างรุนแรง สามารถส่งผลให้เกิดไขมันสะสมในตับรุนแรงขึ้น
สำหรับคนไข้หลิว การลดน้ำหนักแบบหักดิบของเธอทำให้ร่างกายแทบจะไม่ได้รับโปรตีนเลยตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ตับต้องการโปรตีนเพื่อสลายและเผาผลาญไขมัน เมื่อไม่มีโปรตีน ไขมันก็จะสะสมอยู่ในตับ นอกจากนี้การที่เธอกินผักต้มต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้ร่างกายมีพลังงานไม่เพียงพอต่อความต้องการ เมื่อไขมันในร่างกายสลายตัวอย่างรวดเร็วจึงเกิดเป็นกรดไขมันจำนวนมากเข้าสู่ตับ และทำให้เกิดไขมันสะสมในตับได้ง่ายยิ่งขึ้น
ดร.หยาง เน้นย้ำว่า โปรตีนสำคัญต่อร่างกายมาก การบริโภคโปรตีนอย่างเพียงพอมีความสำคัญมากกว่าการลดการบริโภคแป้ง ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนักคือ การควบคุมอาหารอย่างสมดุลในรูปแบบที่ดีต่อสุขภาพ และเป็นไปตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ตามความเชื่อ พร้อมทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
