ตะลุยเวียงจันทน์ ตามรอย...สะบายดี หลวงพะบาง

ข้อมูลและภาพประกอบโดยกระปุกดอทคอม

เธอทักว่า "สะบายดี" (สวัสดี)
ผมตอบว่า "สบายดี" (สบายดี)
แต่เราก็รู้สึกแบบเดียวกัน…

          นั่นแน่! แอบงงล่ะสิว่าทำไมต้อง "สะบายดี" พอดีภาพยนตร์เรื่อง "สะบายดี หลวงพะบาง" หรือ Good Morning Luang Prabang แสดงนำโดย "อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม" และ "คำลี่ พิลาวง" ซึ่งเป็นโคโปรดักชั่นระหว่างบริษัทสปาต้าร์ครีเอทีฟ (ประเทศไทย) กับ ลาวอาร์ตมีเดีย (ประเทศลาว) และถือว่าเป็นความภาพยนตร์เรื่องแรกในรอบ 35 ปีที่ไทยลงทุนร่วมกับลาว... ชักชวนให้ไปตามรอยภาพยนตร์นี้ไกลถึง นครเวียงจันทน์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) งานนี้ทีมงานกระปุกไม่รอช้ารีบแพ็คกระเป๋ามุ่งหน้าไปนครเวียงจันทน์ทันที และก็คิดว่าเวลา 3 วัน 2 คืนคงทำให้เรารู้จักประเทศลาวและภาพยนตร์เรื่องนี้มากขึ้น 

          เวลาตี 5 ตรงฟ้ายังไม่สว่างเป็นเวลานัดหมายที่ทางทีมงานกำหนดมา แต่กว่าจะได้เคลื่อนกองทัพก็เกือบๆ 6 โมงเช้า ก็แหม...สื่อมวลชนและทีมงาน รวมๆ กันก็ร้อยกว่าชีวิต งานนี้เราเดินทางด้วยรถบัส 3 คันมุ่งหน้าไปจังหวัดหนองคาย เพื่อยื่นเอกสารผ่านแดนข้ามไปยังประเทศลาว ซึ่งเราใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 9 ชั่วโมงกว่าจะถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นเราก็นั่งรถขึ้นสะพานมิตรภาพไทย-ลาวข้ามผ่านแม่น้ำโขงที่กันระหว่างสองประเทศไว้ แต่เราต้องใช้เวลาค่อนข้างนานในการทำเรื่องเข้าประเทศลาว เพราะทางประเทศลาวค่อนข้างซีเรียสที่กับการที่สื่อมวลชนจำนวนมากเข้าประเทศ

          เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเราก็มุ่งตรงไปที่โรงแรมในนครเวียงจันทน์เพื่อเก็บกระเป๋า และไปงานเลี้ยงต้อนรับจากทางลาวอาร์ตมีเดียและสปาต้าร์ครีเอทีฟต่อทันที ซึ่งงานนี้ "อนันดา" และ "คำลี่ พิลาวง" พระเอกนางเอกของเรื่องก็มาร่วมงานเลี้ยงพร้อมพูดคุยถ่ายภาพอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง 

          เช้าวันที่สองวันนี้เราได้ไกด์กิตติมศักดิ์เพราะ "อนันดา" และ "คำลี่" พระเอกนางเอกของเรื่องพาพวกเราตามรอยภาพยนตร์เองเลย โดยสถานที่แรกที่เราได้เดินทางไปเที่ยวชมคือ "วัดศรีษะเกษ" สร้างขึ้นใน ค.ศ.1818 ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และเป็นวัดเดียวในลาวที่ไม่ถูกสยามหรือประเทศไทยเผา ตรงกลางของวัดศรีษะเกษเป็นโบสถ์ล้อมรอบด้วยระเบียงคต สร้างแบบศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้นหรือแบบล้านช้าง มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ 6840 องค์

 

 

 

 

          ซึ่ง "คำลี่" ได้กล่าวถึงวัดศรีษะเกษในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า ฉากนี้จะเป็นฉากที่นางเอก (คำลี่) อยากพาพระเอก (อนันดา) ที่เป็นคนเมืองเข้าวัดทำบุญ จึงพามาไหว้พระที่วัดศรีษะเกษ ซึ่งเป็นที่วัดนี้ชาวบ้านนิยมนำจีวรมาห่มให้พระพุทธรูปที่ตั้งเรียงรายอยู่รอบๆ โบสถ์

          สถานที่ต่อมาที่ "อนันดา" และ "คำลี่" พาไปเยี่ยมชมคือ "ประตูชัย" ซึ่งคำลี่เปิดเผยว่า ประตูชัยใช้เป็นฉากที่นางเอกรู้สึกเศร้าและเสียใจที่พระเอกมีแฟนแล้ว จึงมานั่งคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ระหว่างพระเอกกับตัวเอง สำหรับ "ประตูชัย" เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิต ในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ สร้างเสร็จในปี พ.ศ.2512 ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เจ้าอาณานิคมในสมัยนั้น สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ของนครเวียงจันทน์ บนยอดของประตูชัยได้อีกด้วย 

          ชะแว่บๆ ด้วยเวลาที่ล่วงเลยถึง 12.00 น. ซึ่งสถานที่ต่อไปที่ไกด์ทั้งสองจะพาเราไปตามรอยคือ "วัดพระธาตุหลวง" แต่เนื่องจากเวลา 12.00 – 13.00 น. เป็นเวลาปิดทำการชั่วคราว ทางทีมงานจึงพาคณะสื่อมวลชนไปชิมอาหารแบบคนลาวแท้คือ "ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว" เป็นอาหารพื้นเมืองของคนหลวงพะบาง มีลักษณะเป็นเส้นขนมจีน แต่ใส่เครื่องในหมูและปรุงคล้ายๆ กับก๋วยเตี๋ยว

          อืม...ท้องอิ่มก็ได้เวลาไปเที่ยวแล้ว แต่ก่อนจะไปเที่ยวทางทีมงานได้พาเราไปสถานเอกอัครราชฑูตไทย ประจำนครเวียงจันทน์ เพื่อไปสวัสดีท่านเอกอัครราชทูตที่เปิดบ้านให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

          และสถานที่สุดท้ายที่ "อนันดา" และ "คำลี่" พาไปเที่ยวคือ "วัดพระธาตุหลวง" ซึ่งถือเป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติและยังแทนความเป็นเอกราชและอำนาจอธิปไตยของประเทศลาวอีกด้วย พระธาตุนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 และถัดจากประตูทางเข้าใหญ่ประมาณ 100 เมตรจะเห็นพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พระหัตถ์ทรงถือพระแสงดาบวางพาดไว้บนพระเพลา

          เล่ากันว่าพระแสงดาบเล่มนี้ทำหน้าที่ปกป้องพระธาตุหลวงไว้ โดย "วัดพระธาตุหลวง" ในหนังเรื่องสะบายดี หลวงพะบาง ได้ใช้เป็นฉากที่นางเอกพาพระเอกมาไหว้พระขอพรเพื่อเป็นศิริมงคล 

          จากนั้นพวกเราก็ยกขบวนไปร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติลาว และร่วมชมภาพยนตร์เรื่อง "สะบายดี หลวงพะบาง" กัน ซึ่งเป็นฉบับที่ "อนันดา" พูดภาษาลาว (เสียงคนอื่นพากย์) ปิดท้ายด้วยการไปงานเลี้ยงที่ร้านสายน้ำลาว ริมแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นร้านที่พระเอกนางเอกใช้เป็นสถานที่นัดพบกันในเรื่อง และส่งท้ายค่ำคืนด้วยการเปิดฟลอร์เต้นรำแบบลาว

          เช้าวันที่สามเราตื่นขึ้นมาตั้งแต่ 6 โมง เพราะอยากไปสัมผัสบรรยากาศวิถีชีวิตของผู้คนยามเช้า และสิ่งแรกที่เราคิดถึงก็คือ "ตลาดสด" ซึ่งก้าวแรกที่ได้สัมผัส สายตาได้สำรวจไปรอบๆ ก็รู้สึกได้กลิ่นอายของภาคเหนือและภาคอีสานบ้านเราปนกัน อาจเพราะสภาพแวดล้อม ผู้คน และภาษา ไม่ต่างจากประเทศไทยเท่าไหร่นัก ทำให้ไม่มีความรู้สึกว่าไปเยือนต่างประเทศสักเท่าไหร่ คนส่วนใหญ่ที่นี่นิยมกินเฝอ, ข้าวจี่ และขนมปังฝรั่งเศส เป็นอาหารเช้า และที่สังเกตคือชาวลาวนิยมบริโภคผัก เพราะอาหารเกือบทุกชนิดจะต้องมีผักสดกินแกล้มด้วยเสมอ

          สำรวจตลาดและลองชิมอาหารเช้าแบบลาวแท้เรียบร้อยแล้ว ก็กลับโรงแรมเพื่อเก็บข้าวเก็บของเดินทางกลับ แต่ก่อนจะข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แอบแวะซื้อของปลอดภาษีบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองของลาวซะก่อน เสร็จแล้วก็มุ่งตรงเข้าประเทศไทยบ้านเรา

          เชื่อว่าถ้าใครได้มีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่อง "สะบายดี หลวงพะบาง" และคุณจะรู้จักพร้อมๆ กับหลงรักประเทศลาวมากยิ่งขึ้น ... สะบายดี


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง