นักโบราณคดี เผยสิ่งที่ค้นพบจากสุสานพีระมิดในซูดาน อาจล้มล้างความคิดที่คนเชื่อเกี่ยวกับพีระมิด อาจไม่ได้เป็นเพียงสุสานของชนชั้นสูงเสมอไป

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
ในขณะที่นักโบราณคดีมีข้อสันนิษฐานมาอย่างยาวนานว่าพีระมิดคือสถานที่พักพิงสุดท้ายหลังความตายของเหล่าชนชั้นสูง ตลอดจนเศรษฐีผู้มีอันจะกินเท่านั้น แต่สิ่งที่นักโบราณคดีค้นพบใต้พีระมิดในแหล่งอารยธรรมทอมบอส (Tombos) ของประเทศซูดาน อาจล้มล้างแนวคิดเหล่านั้นไปอย่างสิ้นเชิง หลังมีข้อบ่งชี้ที่นำมาสู่การวิเคราะห์ว่า แม้แต่แรงงานที่อยู่ในชนชั้นต่ำ ยังอาจได้รับการบรรจุร่างไว้ในพีระมิดเช่นกัน
จากรายงานของเว็บไซต์ Ladbible วันที่ 20 มีนาคม 2568 ระบุว่า แหล่งอารยธรรมทอมบอส ซึ่งเคยเป็นที่รู้จักกันในชื่อ นูเบีย (Nubia) ตั้งอยู่ในประเทศซูดาน ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของอียิปต์ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามย้อนกลับไปเมื่อหลายพันปีก่อน ภูมิภาคดังกล่าวถูกพิชิตโดย ฟาโรห์ทุตโมสที่ 1 เมื่อช่วงประมาณ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล และอยู่ภายใต้การปกครองของอียิปต์โบราณในอีก 4 ศตวรรษ
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการสำรวจสุสานที่หมู่บ้านโบราณของทอมบอส นักโบราณคดีค้นพบว่าแม้แต่ชนชั้นแรงงาน ซึ่งเป็นกลุ่มชนชั้นล่างของสังคม ก็ได้รับบรรจุร่างอยู่ภายในพีระมิดอียิปต์โบราณเช่นกัน โดย ซาราห์ ชเรเดอร์ นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยไลเดน ของเนเธอร์แลนด์ ได้ข้อสรุปดังกล่าวหลังทำงานอย่างหนักอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาเป็นเวลาร่วม 10 ปี
ซาราห์ และทีมงาน
อาศัยการวิเคราะห์ซากที่พบอยู่ใต้พีระมิดในทอมบอส
เพื่อค้นหาว่าคนเหล่านั้นมีหน้าที่อะไรกันบ้างเมื่อครั้งยังมีชีวิต
และพบว่าผู้คนที่นั่นมีความหลากหลายอย่างมาก
ซึ่งจากการตรวจสอบโครงกระดูกที่พบในพีระมิด
ทำให้สังเกตได้ว่าซากศพบางส่วนนั้นเป็นของกลุ่มชนชั้นสูง
ที่เคยทำกิจกรรมทางกายภาพน้อยมากในช่วงชีวิต
ขณะที่บางส่วนผ่านการทำกิจกรรมทางกายภาพมาอย่างหนัก
"ผลการค้นพบของเราชี้ให้เห็นว่าสุสานพีระมิด ซึ่งเคยคิดว่าเป็นที่พักสุดท้ายของชนชั้นสูงสุด ยังอาจเป็นที่พักสุดท้ายของแรงงานที่ทำงานอย่างหนักและมีสถานะต่ำต้อยเช่นกัน" ซาราห์ ระบุในผลการศึกษา ที่ตีพิมพ์ลงวารสาร Journal of Anthropological Archaeolog
เธอยอมรับว่า ตอนแรกทีมงานไม่เข้าใจความหมายของข้อมูลเหล่านั้น เพราะเคยมีข้อสันนิษฐานกันมายาวนานว่าพีระมิดมีไว้สำหรับคนรวยเท่านั้น
อนึ่ง ภูมิภาคทอมบอสนี้เคยอยู่ใต้การควบคุมของอียิปต์โบราณ ในช่วงที่อารยธรรมรุ่งเรืองที่สุด อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานั้นชนชั้นสูงของอียิปต์โบราณไม่นิยมใช้พีระมิดเป็นที่พำนักหลังความตายอีกต่อไป ราชวงศ์เปลี่ยนรูปแบบการฝังพระศพ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอาจมีขุนนางอียิปต์ที่ยังคงชื่นชอบพีระมิดอยู่เช่นกัน
ทางทีมยังสันนิษฐานว่า บุคคลที่อยู่ในต่ำแหน่งสูงกว่าอาจจะสร้างพีระมิดเหล่านี้ขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อเป็นที่พำนักหลังความตายแก่ตัวเอง คนในครอบครัวที่ใกล้ชิด ตลอดจนคนรับใช้หรือกลุ่มคนงาน โดยอาจเชื่อว่ากลุ่มคนงานยังสามารถติดตามไปรับใช้ตนเองต่อได้ในชีวิตหลังความตาย
ขอบคุณข้อมูลจาก Ladbible, New York Post

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
จากรายงานของเว็บไซต์ Ladbible วันที่ 20 มีนาคม 2568 ระบุว่า แหล่งอารยธรรมทอมบอส ซึ่งเคยเป็นที่รู้จักกันในชื่อ นูเบีย (Nubia) ตั้งอยู่ในประเทศซูดาน ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของอียิปต์ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามย้อนกลับไปเมื่อหลายพันปีก่อน ภูมิภาคดังกล่าวถูกพิชิตโดย ฟาโรห์ทุตโมสที่ 1 เมื่อช่วงประมาณ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล และอยู่ภายใต้การปกครองของอียิปต์โบราณในอีก 4 ศตวรรษ
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการสำรวจสุสานที่หมู่บ้านโบราณของทอมบอส นักโบราณคดีค้นพบว่าแม้แต่ชนชั้นแรงงาน ซึ่งเป็นกลุ่มชนชั้นล่างของสังคม ก็ได้รับบรรจุร่างอยู่ภายในพีระมิดอียิปต์โบราณเช่นกัน โดย ซาราห์ ชเรเดอร์ นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยไลเดน ของเนเธอร์แลนด์ ได้ข้อสรุปดังกล่าวหลังทำงานอย่างหนักอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาเป็นเวลาร่วม 10 ปี
"ผลการค้นพบของเราชี้ให้เห็นว่าสุสานพีระมิด ซึ่งเคยคิดว่าเป็นที่พักสุดท้ายของชนชั้นสูงสุด ยังอาจเป็นที่พักสุดท้ายของแรงงานที่ทำงานอย่างหนักและมีสถานะต่ำต้อยเช่นกัน" ซาราห์ ระบุในผลการศึกษา ที่ตีพิมพ์ลงวารสาร Journal of Anthropological Archaeolog
เธอยอมรับว่า ตอนแรกทีมงานไม่เข้าใจความหมายของข้อมูลเหล่านั้น เพราะเคยมีข้อสันนิษฐานกันมายาวนานว่าพีระมิดมีไว้สำหรับคนรวยเท่านั้น
อนึ่ง ภูมิภาคทอมบอสนี้เคยอยู่ใต้การควบคุมของอียิปต์โบราณ ในช่วงที่อารยธรรมรุ่งเรืองที่สุด อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานั้นชนชั้นสูงของอียิปต์โบราณไม่นิยมใช้พีระมิดเป็นที่พำนักหลังความตายอีกต่อไป ราชวงศ์เปลี่ยนรูปแบบการฝังพระศพ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอาจมีขุนนางอียิปต์ที่ยังคงชื่นชอบพีระมิดอยู่เช่นกัน
ทางทีมยังสันนิษฐานว่า บุคคลที่อยู่ในต่ำแหน่งสูงกว่าอาจจะสร้างพีระมิดเหล่านี้ขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อเป็นที่พำนักหลังความตายแก่ตัวเอง คนในครอบครัวที่ใกล้ชิด ตลอดจนคนรับใช้หรือกลุ่มคนงาน โดยอาจเชื่อว่ากลุ่มคนงานยังสามารถติดตามไปรับใช้ตนเองต่อได้ในชีวิตหลังความตาย
ขอบคุณข้อมูลจาก Ladbible, New York Post