แด่ผู้กล้าหาญทุกคน ในเหตุการณ์แผ่นดินไหว 2551


           จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งยิ่งใหญ่ในมณฑลเสฉวน ของประเทศจีน เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2551เมื่อเวลา 14.28 น. จนทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนจากศูนย์กลาง ณ ที่ตั้งเมือง เวิ่นชวน ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเฉินตูราว 90 ไมล์ (ประมาณ 144 กิโลเมตร) วัดได้ถึง 8.0 ริกเตอร์ นั้น หากเทียบเท่าความร้ายแรงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ ก็ยิ่งกว่าการถล่มด้วยระเบิดปรมาณู 500 ลูก และรุนแรงมากกว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2538 ถึง 30 เท่า  จนถึงวันนี้มีรายงานว่ามีผู้คนเสียชีวิตโดยประมาณ 32,000 ราย และยังสูญหายอีกกว่า 20,000 ราย  และบ้านเรือนเสียหายรวมแล้วกว่า 4.7 ล้านหลังคาเรือน   






           เมืองต่างๆ ที่ใกล้กับจุดศูนย์กลางการสั่นสะเทือนต่างถูกกวาดจนเรียบ ภูเขาต่างๆ พากันทรุดตัวลงทั้งหมด
 
           ผู้คนนับล้านคนต้องสูญเสียคนที่รัก บ้านเรือน ทรัพย์สินต่างๆ ไปกับเหตุการณ์น่าสะเทือนใจครั้งนี้ อย่างไรก็ดีจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ก็ทำให้เราได้เห็นภาพอีกด้านของชีวิต ภาพผู้รอดชีวิตที่ต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกันประหนึ่งเป็นคนในครอบครัวของตน บรรดาเจ้าหน้าที่ที่เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุและค้นหาผู้รอดชีวิตย่างไม่เลือกหน้า ภาพของผู้คนจำนวนมากที่ยินดีเข้าแถวบริจาคโลหิตกว่า 100 เมตร ทว่าแม้จะต้องรอเป็นชั่วโมงเพราะมีคนบริจาคมากมายเพียงใด แต่เลือดทุกหยาดหยดที่ได้มานั้นก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการที่ไหลทะลักเข้ามาจากทั่วสารทิศ  เพราะเพียงไม่ทันข้ามวัน ธนาคารเลือดต่างๆ ก็ต้องร้องขอผู้บริจาคโลหิตใหม่อีกครั้งเพราะของเดิมถูกนำไปใช้หมดแล้ว

           และท่ามกลางภาพความโศกเศร้าจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศจีนครั้งนี้ ได้ฉายภาพของคนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อความสิ้นหวัง นั่นคือภาพของผู้เป็นเสมือนฮีโร่ผู้กล้าที่พร้อมจะต่อกรกับความหายนะเบื้องหน้า ไม่หวั่นเกรงต่อความกลัวใดๆ






           ต่อไปนี้นี้คือเรื่องราวบางส่วนของฮีโร่ผู้กล้าหาญเหล่านั้น ที่เราจะขอนำมาถ่ายทอดให้รับฟังกัน

           นายเวิน เจียเป่า (Wen Jiabao) นายกรัฐมนตรีประเทศจีน เดินทางมาถึงด้วยเครื่องบินหลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว 2 ชั่วโมง เขาทำหน้าที่เป็นแกนหลักในภาระกิจการช่วยชีวิตโดยไม่หยุดพัก

           แม้ถนนหลายสายถูกฝังอยู่ภายใต้ดินถล่ม ท่ามกลางสภาพอากาศที่ย่ำแย่ ยิ่งเป็นอุปสรรคในการขนส่งอุปกรณ์ช่วยเหลือทางอากาศ แต่นายเซี่ย กัวฟู่ (Xia Guofu) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดประจำมณฑลเสฉวน รวมทั้งทหารอีก 600 นาย ก็ได้ออกเดินสำรวจพื้นที่บริเวณภูเขากว่า 20 ชั่วโมง พร้อมๆ กับแบกเป้ที่บรรจุอุปกรณ์ช่วยชีวิต แม้จะรู้ว่าต้องเสี่ยงต่อพื้นดินถล่มหรือพลัดจากหินผาทุกวินาที พวกเขาก็ไม่ย่อท้อ กลุ่มทหารเหล่านี้เป็นกลุ่มแรกที่มาถึงบริเวณจุดศูนย์กลางการสะเทือนของแผ่นดินไหว 






           บรรดาทหารและทีมกู้ภัยเร่งเข้าทำการช่วยเหลือผู้ที่ยังติดอยู่ในกองดินถล่มและซากตึกต่างๆ ถนนหลายสายถูกฝังอยู่ภายใต้ดินถล่ม ทำให้การขนส่งเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ใช้ในการเคลียร์พื้นที่ทำได้ยากลำบาก พวกเขาจึงต้องช่วยกันใช้แรงกายและสองมือ เคลื่อนย้ายซากคอนกรีตที่หนักเป็นตันเหล่านี้ออกไปแทน





           ในอีกด้านหนึ่ง ประชาชนก็ได้ร่วมกันบริจาคเงิน คนรวยบางคนบริจาคเงินช่วยเหลือเป็นล้าน แต่คงไม่มีใครเหมือนนาย ซู เฉา (Xu Chao) ชายเร่ร่อนวัย 60 ปี ที่เดินทางมาจากเมืองหนานจิง ห่างจากพื้นที่แผ่นดินไหวกว่า 1000 ไมล์ (1,600 กิโลเมตร) หลังจากได้ทราบข่าว และช่วยบริจาคเงินเป็นจำนวน 5 หยวน เขาบอกว่าผู้คนที่ประสบเหตุในเสฉวนต้องตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายยิ่งกว่าเขาหลายเท่า จากนั้น นายซู เฉา ก็กลับมาบริจาคเงินอีก 100 หยวน เขาอธิบายว่า ตัวเขามีเพียงเศษเหรียญที่รวบรวมมาได้ และเพื่อไม่ให้อาสาสมัครต้องเสียเวลาในการนับ เขาจึงนำไปแลกเป็นแบงค์ที่ธนาคาร นี่คือคำพูดของชายที่ไม่มีแม้แต่เงินที่จะซื้ออาหารให้ตัวเอง! 



            
           เด็กหญิงซ่ง ซินหยิง (Song Xinying) วัย 3 ขวบ ได้รับการช่วยชีวิตหลังจากถูกฝังใต้ซากตึกนานถึง 2 วัน ตอนนี้เธออยู่ในสภาพที่น่าเป็นห่วงและต้องสูญเสียขาไปข้างหนึ่ง เธอรอดชีวิตด้วยไหล่และมือของผู้เป็นพ่อแม่ที่ใช้เป็นโล่ป้องกันไม่ให้เธอพลัดตกจากตึกที่กำลังพังทลาย น่าเศร้าที่พ่อและแม่ของเธอกลับเสียชีวิตในระหว่างการปกป้องลูกน้อย





           เด็กชายวัย 5 ขวบ คนนี้ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังนาน 24 ชั่วโมง แม้มือซ้ายของเขาจะหักแต่ก็ใบหน้ายังเต็มด้วยรอยยิ้มและทักทายผู้ที่ช่วยชีวิตเขาไว้ได้ ภาพนั้นทำเอาทุกคนหลั่งน้ำตากันเลยทีเดียว


           ซาง จิหวัง (Zhang Jiwang) อายุ 11 ปี ขณะกำลังแบก น้องสาว ซาง ฮาน (Zhang Han) วัย 3 ขวบขึ้นแผ่นหลังน้อย ๆ ของเขาเมื่อต้องเดินเท้าเป็นเวลากว่า 12 ชั่วโมง เพื่อหนีให้ไกลจากพื้นที่แผ่นดินไหวให้ได้





           หยวน เวินทิง (Yuan Wentin) ครูชั้นประถมศึกษาวัยเพียง 26 ปี รีบขึ้นไปอุ้มเด็กนักเรียนของเธอที่กำลังตระหนกตกใจกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวบนชั้น 3  เธอพยายามที่จะดึงนักเรียนออกมาให้มากที่สุด แต่ทว่าตึกกลับทรุดตัวลงในขณะที่เธอเกือบจะดึงเด็กที่ยังเหลือไม่กี่คนออกมา เธอได้ใช้ร่างตัวเองบังไม่ให้ซากคอนกรีตตกลงมานักเรียนเหล่านั้น…ในช่วงวินาทีสุดท้ายของชีวิตเธอ


           เด็กสาวชั้นมัธยมรายนี้ รอดชีวิตจากตึกถล่ม มือทั้งสองข้างหัก อาจต้องสูญเสียขาทั้งสองข้าง กลุ่มกู้ภัยพากันร่ำไห้เมื่อเห็นเธอในสภาพนั้น  เธอยิ้มให้พวกเขาและพูดว่า "จงกล้าหาญไว้"


           เด็กน้อยวัย 4 เดือนคนนี้ถูกฝังนานกว่า 24 ชั่วโมง แต่น่าอัศจรรย์ที่เจ้าหนูไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย  แม่ของเขาได้เสียสละชีวิตปกป้องลูกน้อยด้วยการคุกเข่าและน้อมตัวลงไปบังลูกน้อยของเธอจากเศษหิน และซากคอนกรีตที่ร่วงลงมา ในขณะเดียวกันก็ได้ให้นมลูกไปด้วย เจ้าหน้าที่พบโทรศัพท์มือถือในผ้าที่ห่อตัวเด็ก มีข้อความที่แม่ทิ้งไว้ให้เขาเป็นครั้งสุดท้ายว่า "ลูกรัก หากเจ้ารอดชีวิต จำไว้ว่า แม่รักเจ้าชั่วนิรันดร์...."


           การสูญเสีย...ไม่เกิดกับใครก็คงไม่รู้สึก
           ทว่าบางครั้ง...การสูญเสียกลับทำให้เราได้เห็นอะไรบางอย่างกระจ่างชัดเจนมากขึ้น
           เห็นน้ำใจของผู้คนที่หยิบยื่นให้กัน
           เห็นคนแปลกหน้าที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ผู้อื่นรอด
           เห็นความเป็นนักสู้ที่ถูกปลุกขึ้นจากการหลับใหลในตัวตนของมนุษย์
           เห็นความรักอันยิ่งใหญ่ของใครหลายคนที่มอบให้ได้แม้กระทั่งชีวิตของตนเอง

           ขอขอบคุณผู้กล้าทุกท่าน จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่จีนครั้งนี้


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แด่ผู้กล้าหาญทุกคน ในเหตุการณ์แผ่นดินไหว 2551 อัปเดตล่าสุด 5 มิถุนายน 2551 เวลา 17:20:53 15,506 อ่าน
TOP
x close