สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 30 ก.ค. 68 ชี้กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โจมตีไทยต่อ ซ้ำมีเพิ่มเติมกองกำลัง-คุกคามอีก
![สรุปสถานการณ์ไทย กัมพูชา 30 กค 68 สรุปสถานการณ์ไทย กัมพูชา 30 กค 68]()
ภาพจาก ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2
วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จนถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.00 น. โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. พื้นที่ช่องคานม้า อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตรวจพบการเพิ่มเติมกำลังของกำลังประเทศกัมพูชา และตรวจพบการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินตรวจการณ์การวางกำลังของฝ่ายเรา จากนั้นในห้วงกลางคืนมีการปะทะกันด้วยปืนเล็ก
2. พื้นที่ภูมะเขือ ตรวจพบการเพิ่มเติมกำลังของกำลังประเทศกัมพูชา และตรวจพบการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินตรวจการณ์การวางกำลังของฝ่ายเรา จากนั้นในห้วงกลางคืนมีการปะทะกันด้วยปืนเล็ก
3. พื้นที่ผามออีแดง กำลังประเทศกัมพูชาได้ใช้อาวุธยิงสนับสนุน (ค.100) โจมตีเข้ามายังฐานปฏิบัติการฝ่ายเรา แต่ฝ่ายเราไม่มีการตอบโต้แต่อย่างใด (กำลังพลปลอดภัย)
4. พื้นที่ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย ตรวจพบการเพิ่มเติมกำลังของกำลังประเทศกัมพูชา
- เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาได้นำผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศและผู้สื่อข่าว เดินทางมายังจุดผ่อนปรนการค้าช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยมี พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ร่วมสังเกตการณ์ การที่นำผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศเดินทางเข้ามายังพื้นที่อันตราย โดยไม่บอกกล่าวถือว่ามีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก
- ดำเนินการสนับสนุนส่วนราชการจังหวัดในการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงภัย ไปยังพื้นที่รวบรวมพลเรือน พื้นที่ตอนในทั้ง 4 จังหวัดอย่างต่อเนื่อง รายละเอียดดังนี้
จ.บุรีรัมย์ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 1 จุด 14,963 คน
จ.สุรินทร์ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 134 จุด 56,059 คน
จ.ศรีสะเกษ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 249 จุด 51,988 คน
จ.อุบลราชธานี อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 71 จุด 22,380 คน
- ปัจจุบัน ประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือนแล้ว 145,390 คน (เพิ่มขึ้น 7,392 คน)
- ผลกระทบต่อประชาชน ไม่มีพื้นที่ของประชาชนที่ได้รับเสียหายเพิ่มเติม ไม่มีประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ได้มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับ จิตอาสาพระราชทาน ที่มาดูแลและช่วยเหลือประชาชน อำนวยความสะดวกประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราวและช่วยขนย้ายสิ่งของ รวมทั้งช่วยในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้ประชาชนได้รับทราบ ในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ จ.บุรีรัมย์, จ.สุรินทร์, จ.ศรีสะเกษ, จ.อุบลราชธานี นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งโรงครัวพระราชทานในพื้นที่ 4 จังหวัด อีกด้วย
![สรุปสถานการณ์ไทย กัมพูชา 30 กค 68 สรุปสถานการณ์ไทย กัมพูชา 30 กค 68]()
ภาพจาก ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2
![สรุปสถานการณ์ไทย กัมพูชา 30 กค 68 สรุปสถานการณ์ไทย กัมพูชา 30 กค 68]()
ภาพจาก ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2
ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2

ภาพจาก ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2
วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จนถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.00 น. โดยมีรายละเอียดดังนี้
สถานการณ์การสู้รบ :
- ภายหลังการเจรจาหยุดยิงของทั้งสองฝ่าย
ห้วงคืนวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ต่อเนื่องจนถึงเช้าวันที่ 30 กรกฎาคม 2568
ปรากฏมีการคุกคามของกำลังประเทศกัมพูชา ใน 4 เหตุการณ์ ดังนี้
1. พื้นที่ช่องคานม้า อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตรวจพบการเพิ่มเติมกำลังของกำลังประเทศกัมพูชา และตรวจพบการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินตรวจการณ์การวางกำลังของฝ่ายเรา จากนั้นในห้วงกลางคืนมีการปะทะกันด้วยปืนเล็ก
2. พื้นที่ภูมะเขือ ตรวจพบการเพิ่มเติมกำลังของกำลังประเทศกัมพูชา และตรวจพบการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินตรวจการณ์การวางกำลังของฝ่ายเรา จากนั้นในห้วงกลางคืนมีการปะทะกันด้วยปืนเล็ก
3. พื้นที่ผามออีแดง กำลังประเทศกัมพูชาได้ใช้อาวุธยิงสนับสนุน (ค.100) โจมตีเข้ามายังฐานปฏิบัติการฝ่ายเรา แต่ฝ่ายเราไม่มีการตอบโต้แต่อย่างใด (กำลังพลปลอดภัย)
4. พื้นที่ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย ตรวจพบการเพิ่มเติมกำลังของกำลังประเทศกัมพูชา
- เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาได้นำผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศและผู้สื่อข่าว เดินทางมายังจุดผ่อนปรนการค้าช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยมี พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ร่วมสังเกตการณ์ การที่นำผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศเดินทางเข้ามายังพื้นที่อันตราย โดยไม่บอกกล่าวถือว่ามีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก
การอพยพประชาชน :
- ดำเนินการสนับสนุนส่วนราชการจังหวัดในการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงภัย ไปยังพื้นที่รวบรวมพลเรือน พื้นที่ตอนในทั้ง 4 จังหวัดอย่างต่อเนื่อง รายละเอียดดังนี้
จ.บุรีรัมย์ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 1 จุด 14,963 คน
จ.สุรินทร์ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 134 จุด 56,059 คน
จ.ศรีสะเกษ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 249 จุด 51,988 คน
จ.อุบลราชธานี อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 71 จุด 22,380 คน
- ปัจจุบัน ประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือนแล้ว 145,390 คน (เพิ่มขึ้น 7,392 คน)
- ผลกระทบต่อประชาชน ไม่มีพื้นที่ของประชาชนที่ได้รับเสียหายเพิ่มเติม ไม่มีประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ได้มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับ จิตอาสาพระราชทาน ที่มาดูแลและช่วยเหลือประชาชน อำนวยความสะดวกประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราวและช่วยขนย้ายสิ่งของ รวมทั้งช่วยในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้ประชาชนได้รับทราบ ในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ จ.บุรีรัมย์, จ.สุรินทร์, จ.ศรีสะเกษ, จ.อุบลราชธานี นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งโรงครัวพระราชทานในพื้นที่ 4 จังหวัด อีกด้วย

ภาพจาก ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2

ภาพจาก ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2
ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2






