แรร์เอิร์ธ คืออะไร ทำความรู้จักกลุ่มธาตุหายาก หลัง ไทย - สหรัฐฯ ทำ MOU ร่วมมือพัฒนาแรร์เอิร์ธ กุญเจสำคัญแห่งอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ไทยผลิตได้เท่าไหร่จากทั่วโลก
.jpg)
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
การลงนาม MOU ไทย-สหรัฐฯ ว่าด้วยเรื่องความร่วมมือในการพัฒนา (แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ระหว่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการเปิดเผยเรื่องนี้โดยทำเนียบขาวและ นายโดนัลด์ ทรัมป์ นำมาซึ่งการตั้งคำถามมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องผลกระทบต่อประเทศไทย ไทยจะได้อะไรจาก MOU นี้ เป็นข้อตกลงที่เสียเปรียบสหรัฐฯ หรือไม่
แรร์เอิร์ธ คืออะไร ?
แรร์เอิร์ธ ไม่ใช่แร่ แต่เป็นชื่อของกลุ่มธาตุ แต่ตัวแร่สามารถให้กลุ่มธาตุเหล่านี้ได้ ซึ่งเมื่อพูดถึงแรร์เอิร์ธหรือกลุ่มธาตุหายาก จะประกอบไปด้วยธาตุโลหะ 17 ธาตุ ประกอบด้วยกลุ่มธาตุแลนทาไนด์ 15 ธาตุ และโลหะทรานซิชัน 2 ธาตุ มีคุณสมบัติทนความร้อนสูง นำไฟฟ้าได้ดี ปัจจุบันธาตุหายากได้นำมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป โทรทัศน์ อุปกรณ์ใยแก้วนำแสง เป็นต้น
ภาพจาก USGS
กลุ่มธาตุหายาก สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ
- กลุ่มธาตุหายากเบา (light rare earth elements: LREE)
ประกอบด้วย 8 ชนิด ได้แก่ แลนทานัม, ซีเรียม, เพรซีโอดิเมียม, นีโอติเมียม, โพรมีเทียม, ซาแมเรียม, ยูโรเพียม และแกโดลิเนีย
- กลุ่มธาตุหายากหนัก (heavy rare earth elements: HREE)
ประกอบด้วย 8 ชนิดธาตุ ได้แก่ เทอร์เบียม, ดีสโพรเซียม, โฮลเมียม, เออร์เบียม, ทูเลียม, อิตเทอร์เบียม, ลูทีเทียม และอิตเทรียม
ทั้งนี้ สำหรับธาตุ สแกนเดียม จะไม่จัดให้อยู่ในกลุ่มย่อยใดกลุ่มย่อยหนึ่ง แม้ว่าจะนับเป็นธาตุหายากตัวหนึ่งก็ตาม
แรร์เอิร์ธ คือธาตุหายาก หายากจริงไหม ?
กรมทรัพยากรธรณี ระบุว่า ธาตุหายาก ใช้เป็นวัตถุดิบต้นน้ำสำคัญยิ่งยวด ในกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงหลากประเภทของโลกปัจจุบันและอนาคต อาทิ ด้านโลหะผสม ตัวเร่งปฏิกิริยาในอุตสาหกรรมยานยนต์และปิโตรเคมี อุตสาหกรรมเซรามิก/แก้ว สารเรืองแสง เช่น หลอดแอลอีดี, หลอดฟลูออเรสเซนต์, การแสดงผลจอแบน เลเซอร์ แบตเตอรี่โซลิดสเตตแบบชาร์จไฟได้ ไฟเบอร์ออปติก และอื่น ๆ
นอกจากนี้ ธาตุหายากยังเป็นองค์ประกอบสําคัญในเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่าง ๆ เช่น เซลล์เชื้อเพลิงโซลิดสเตต ตัวนํายิ่งยวด การระบายความร้อนด้วยแม่เหล็ก การกักเก็บไฮโดรเจน และแม่เหล็กถาวรประสิทธิภาพสูง ซึ่งมีความสําคัญอย่างมากสำหรับเทคโนโลยีชั้นสูงต่าง ๆ เช่น กังหันลม รถยนต์ไฮบริด ไปจนถึงไดรฟ์บันทึกข้อมูล (HD drives) ลําโพง และไมโครโฟนโทรศัพท์มือถือ โดยธาตุหายากแต่ละตัวมีการนำไปใช้ประโยชน์ที่หลากหลายแตกต่างกันไป
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
แม้ว่าจะเรียกธาตุหายาก (rare earth elements) แต่สามารถพบได้ในเนื้อหินเกือบทุกชนิดที่เป็นส่วนประกอบของเปลือกโลก แหล่งแร่ที่ให้ธาตุหายากพบกระจายตัวทางด้านตะวันตกของประเทศไทย ตั้งแต่ภาคเหนือจนถึงภาคใต้ เช่น
- เชียงราย
- แม่ฮ่องสอน
- เชียงใหม่
- อุทัยธานี
- กาญจนบุรี
- ประจวบคีรีขันธ์
- ชุมพร
- ระนอง
- พังงา
- สุราษฎร์ธานี
มูลค่าของแร่ จะสูงขึ้นไหม ?
แร่ส่วนใหญ่จะมีมูลค่าสูงขึ้น เนื่องจากคนมีมากขึ้น ปริมาณการใช้จะมากขึ้น ในขณะที่ตัวแหล่งทรัพยากรมีจำกัด ซึ่งในอนาคตแร่ก็มีวันที่จะหมดไป เพราะผลิตขึ้นใหม่ไม่ได้ ต่างจากต้นไม้ที่สามารถปลูกขึ้นใหม่ได้ ดังนั้นหากใช้อย่างไม่ระมัดระวังสักวันก็จะหมดไป
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
แรร์เอิร์ธในไทย สามารถผลิตได้แค่ไหน ?
จากข้อมูลของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USGS) ระบุว่า ในปี 2567 ทั่วโลกมีการผลิตแร่แรร์เอิร์ธราว 390,000 ตัน REO (Tons of Rare Earth Oxides) ซึ่งจีนมีการผลิตแรร์เอิร์ธมากที่สุด และมีปริมาณแร่แรร์เอิร์ธสำรอง อยู่ที่ 44,000,000 ตัน REO
สำหรับอันดับของประเทศที่ผลิตแรร์เอิร์ธได้ในปี 2567 มีดังนี้
- จีน ผลิตได้ 270,000 ตัน REO
- สหรัฐฯ ผลิตได้ 45,000 ตัน REO
- เมียนมา ผลิตได้ 31,000 ตัน REO
- ไทย, ออสเตรเลีย, ไนจีเรีย ผลิตได้ 13,000 ตัน REO
- อินเดีย ผลิตได้ 2,900 ตัน REO
- รัสเซีย ผลิตได้ 2,500 ตัน REO
- มาดากัสการ์ ผลิตได้ 2,000 ตัน REO
ทั้งนี้ จากรายงานพบว่า ไทย มีปริมาณแร่แรร์เอิร์ธสำรอง อยู่ที่ 4,500 ตัน REO ขณะที่สหรัฐฯ มีอยู่ 1,900,000 ตัน REO
ขอบคุณข้อมูลจาก






