
ในยุคที่ราคาน้ำมันขยับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กระทั่งไปแตะที่ระดับ 139 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ใครก็ตามที่ยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมๆ รักความสะดวกสบาย ตามใจตัวเองไปเสียทุกเรื่อง เห็นทีจะนำตัวเองและครอบครัวผ่านพ้นวิกฤติอันหนักหนาสาหัสสากรรจ์นี้ไปไม่ได้ . . . และคำถามที่คนไทยทุกคนต้องหาคำตอบ โดยเฉพาะคนเมืองที่ต้องพึ่งพิง "น้ำมัน" คือถ้าหากน้ำมันทะยานขึ้นไปถึงลิตรละ 40-45-50 บาท แล้วเราจะอยู่กันได้อย่างไร
แล้วเราจะอยู่กันได้อย่างไร
วันนี้วิถีชีวิตของคนเมือง โดยเฉพาะคนระดับกลางที่ต้องพึ่งพิงเงินเดือนประจำเป็นหลักเริ่มเปลี่ยนไปแล้วตามสภาพเศรษฐกิจที่บีบรัดขึ้นทุกวันๆๆ . . . ระบบขนส่งมวลชนหรือรถไฟฟ้า ดูเหมือนจะเป็นทางออกแรกที่ "คนเมือง" จะหันไปพึ่งพิง ขณะที่รถยนต์คู่ใจที่เคยใช้เดินทางต้องจอดสนิทไว้ที่บ้าน หรือฝากไว้ที่ลานจอดรถของบีทีเอส
นับวันลานจอดรถของสถานีบีทีเอสที่หมอชิต แทบไม่เหลือที่ว่าง แม้เพียงแต่จะเบียดกายแทรกระหว่างรถแต่ละคัน แน่นอนว่าในชั่วโมงเร่งด่วน ผู้คนย่อมพากันไปเบียดเสียดยัดเยียดอยู่ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ถึงแม้บีทีเอสจะเสริมขบวนรถเข้ามาอีก 12 ขบวน แต่นั่นก็เป็นเพียงการบรรทาความแออัดชั่วคราวเท่านั้น เพราะในสภาพความเป็นจริงของแต่ละเช้า-เย็น เห็นๆ กันอยู่ว่าเสริมอย่างไรก็ยังไม่พอ ด้วยจำนวนผู้โดยสารที่มากถึงวันละ 5 แสนคน
เลิกรถส่วนตัว-หันใช้บีทีเอส
"น้องป่าน" บ้านอยู่รังสิต ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นประจำ โดยเฉพาะเมื่อราคาน้ำมันไม่มีทีท่าจะหยุดนิ่งหรือลดลง เธอจึงจำยอมต้องจอดรถไว้ที่บ้าน
"ไม่อยากใช้แล้วรถยนต์ เพราะน้ำมันแพงมาก เลือกใช้บริการขนส่งมวลชนดีกว่า ประหยัดดี ถ้าวันไหนเข้าเมืองก็ใช้บริการของบีทีอสเป็นหลัก แต่บางทีในชั่วโมงเร่งด่วน รถบีทีเอสคนก็แน่นเหมือนกัน บางขบวนก็เต็มไปไม่ได้ต้องรอขบวนใหม่" น้องป่านกล่าว
ขณะที่ "คุณแผ่น" ซึ่งมาพร้อมกับลูกสาว บอกว่า ในช่วงที่น้ำมันแพงอย่างนี้ การเลือกใช้บริการขนส่งมวลชนน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะไม่ต้องแบกรับภาระเรื่องน้ำมัน หรือถ้าจำเป็นก็ใช้รถยนต์ส่วนตัวให้น้อยสุด สำหรับครอบครัวของเธอ เลือกที่จะใช้วิธีขับรถมาจอดไว้ที่สถานีบีทีเอสหมอชิต แล้วนั่งรถไฟฟ้ามาทำงาน เพราะทำงานอยู่สีลม ส่วนลูกสาวเรียน ทุกคนก็จะมารวมตัวกันแล้วก็กลับบ้านพร้อมกัน เพื่อไปขึ้นรถที่จอดไว้ ถือว่าเป็นการประหยัดไปได้อีกส่วนหนึ่ง
"แต่ก็ต้องมาแต่เช้านะ เพราะลานจอดรถจะมีรถมาจอดเยอะมาก บ้านพี่อยู่ดอนเมือง ก็ต้องตื่นออกจากบ้านแต่เช้ามืด มาถึงที่หมอชิตประมาณ 06.30 น. ก็หาที่จอดลำบากแล้วแต่ก็ยังพอมี จะใช้วิธีนี้ทุกวัน ช่วยประหยัดได้เยอะเหมือนกันไม่อย่างนั้นก็สู้ค่าน้ำมันไม่ไหว" คุณแผ่นกล่าว
"น้องแชมป์" สาวออฟฟิศ บ้านย่านพุทธมณฑล แต่ดั้นด้นมาทำงานถึงสยามสแควร์ กล่าวว่า ขาเข้าเมืองติดรถพ่อมาต่อรถไฟฟ้าที่หมอชิต ไปสยามสแควร์ ขากลับนั่งรถเมล์ไปต่อรถตู้
"ต้องประหยัดทุกอย่างเลยค่ะพี่ สู้ราคาน้ำมันไม่ไหว จอดไว้ที่บ้านอย่างเดียวเลย แล้วเรื่องการกินนี่ จากที่หนูกินฟาสต์ฟู้ด หรือสั่งมากิน ตอนนี้ใช้วิธีเดินไปกินศูนย์อาหารใต้ตึกศูนย์หนังสือจุฬาฯ เพราะที่นั่นราคาอาหารไม่เกิน 25 บาท มีเงิน 100 บาทกินได้ 2-3 คน อิ่มท้องด้วยประหยัดไปได้เยอะมาก" น้องแชมป์กล่าว
เดินดินกินข้าวแกง-ลำบากอยู่ดี
"ปู" สาวออฟฟิศอยู่สมุทรปราการ ทุกวันนี้เลือกใช้ระบบขนส่งมวลชนแบบผสมผสาน แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องถือว่าลำบาก เพราะแต่ก่อนเคยอาศัยข้าวกล่องจากร้านของแม่ที่ขายข้าวแกง แต่เมื่อแก๊สขึ้น ข้าวสารแพง น้ำมันขึ้นทุกวันๆ ที่สุดแม่ของเธอก็ต้องหยุดขาย นั่นหลายถึงว่าเธอได้รับผลกระทบด้วยเพราะต้องไปหาซื้อข้าวแกงกันเอง
"พอแม่ไม่ขายแล้ว เราอยู่กินน้อย 4 คนเอง ทำกินก็ไม่คุ้มเพราะแม่อยู่อีกบ้านหนึ่ง ปูอยู่กับสามีและลูกๆ เลยต้องหันมาใช้วิธีซื้ออาหารสำเร็จมากินแทน ถามว่าจ่ายเพิ่มขึ้นไหม ก็ต้องจ่ายค่ะ เพราะไม่มีทางเลือก แต่ก็ไปประหยัดส่วนอื่นมาชดเชยส่วนนี้ คือต้องคิดรอบคอบมากขึ้นในเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่าง"
หยุดเสริมสวย-ตามใจปาก
ด้าน "โรส" สาวออฟฟิศ มนุษย์เงินเดือนอีกรายหนึ่งยอมรับว่า สำหรับเธอแล้วเรียกว่าเป็นการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตอย่างมากก็ว่าได้ จากที่เคยเข้าห้างสรรพสินค้าเพื่อช็อปในซูเปอร์มาร์เก็ตอาทิตย์ละครั้ง อยากซื้ออะไรก็ซื้อ บางครั้งซื้อตุนไว้ล่วงหน้าอย่างละหลายชิ้น แต่มาวันนี้เปลี่ยนมาเป็นเข้าห้างเดือนละ 1-2 ครั้ง ไม่ซื้อของเก็บไว้อีกเลย ซื้อเฉพาะที่จำเป็นอะไรขาดก็ซื้อ ถ้ามีอยู่แล้วไม่ซื้อโดยเด็ดขาด
โรสบอกว่า สภาพเศรษฐกิจปัจจุบันไม่อาจคาดเดาอะไรได้ มีแต่ของขึ้นราคาทุกวัน ในขณะที่รายได้เธอยังคงเดิม ทำให้ต้องระวังอย่างมากเรื่องการใช้เงิน เสื้อผ้าที่เคยซื้อเดือนละ 2 ตัว ตอนนี้แทบจะไม่ซื้อเพิ่มเลย ใช้วิธีมิกช์แอนด์แมทช์แทน ส่วนอาหารการกินก็ลดลง ถือเป็นการลดความอ้วนไปในตัว หรือที่เคยนั่งในที่ที่มีบรรยากาศดีๆ ก็เลิกนั่งไปในที่สุด
"เป็นคนทำงานฟรีแลนซ์ ชอบไปนั่งที่ที่มีบรรยากาศอย่างร้านกาแฟหรูๆ ตอนนี้แทบจะเลิกเข้าไปเลย ใช้วิธีชงกาแฟดื่มเองเลย ประหยัดดี แล้วก็ต้องหาทางหางานเพิ่มด้วย ยังคิดอยู่ว่าอาจจะต้องไปเปิดท้ายขายของเหมือนคนอื่นเขาบ้าง เพราะในยุคนี้เราเอาแน่ไม่ได้ ถ้าเกิดงานที่ทำอยู่เลิกจ้างก็แย่เหมือนกัน อย่างตอนนี้ก็ประหยัดและรัดเข็มขัดแบบสุดๆ แล้ว" โรสบอก
โทรศัพท์มือถือยอดขายหด
ธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ สถานบริการเสริมความงาม ธุรกิจบันเทิง ล้วนเป็นกลุ่มสินค้าและบริการลำดับต้นๆ ที่ผู้บริโภคเลือกที่จะชะลอการซื้อเอาไว้
นายกุลดิษฐ์ สมุทรโคจร กรรมการผู้จัดการ บริษัทไวร์เลส ดีไวซ์ ซัพพลาย จำกัด (ดับบลิวดีแชด) บริษัทในเครือเอไอเอส ผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือยี่ห้อเอ็มเอฟเอ กล่าวว่า ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อสินค้าที่มีความจำเป็นน้อยออกไป รวมถึงโทรศัพท์มือถือด้วย ส่งผลให้ยอดขายต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้การชะลอตัวของตลาดทำให้ตัวแทนจำหน่ายทุกรายประสบปัญหาการคงคลังสินค้า เพราะตั้งแต่ต้นปีมีการนำเข้าเครื่องมาเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด แต่เมื่อยอดขายไตรมาสแรกไม่เป็นไปตามเป้าที่คาดการณ์ ทุกรายจึงเร่งระบายสินค้าในคลังออกมาสู่ตลาด ทำให้ราคาต่อเครื่องลดลงอย่างรวดเร็ว
สอดคล้องกับผลการเดินสำรวจตลาดโทรศัพท์มือถือในห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งและค้าปลีกขนาดใหญ่พบว่า กลุ่มคนที่มาเดินหาซื้อโทรศัพท์มือถือมีจำนวนลดลง โดยเฉพาะในช่วงวันธรรมดา ขณะที่วันหยุดสุดสัปดาห์แม้จะมีคนเดินหนาตามากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นไปด้วย
นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ ผู้อำนวยการบริหารสายงานการตลาดและการขาย บมจ.เจ มาร์ท กล่าวว่า ตลาดรวมช่วงไตรมาสแรกจนถึงไตรมาสสอง มีปัจจัยลบทางเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้ขนาดตลาดลดลงประมาณ 10% มียอดเฉลี่ยประมาณ 6 แสนเครื่องต่อเดือน โดยกลุ่มลูกค้าที่กระทบมากสุด คือลูกค้าระดับล่าง
สถานเสริมความงามเริ่มซบ
ด้าน ดร.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี กล่าวว่า ภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น จากราคาสินค้าหลายอย่างในตลาดที่ปรับสูงขึ้น รวมทั้งเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและราคาน้ำมัน คาดว่าจะส่งผลต่อการตัดสินใจใช้บริการ รวมถึงทำลังซื้อของผู้บริโภคที่ต้องการใช้บริการเสริมความงามในปีนี้ลดลง กระทบต่อภาพรวมผู้ให้บริการธุรกิจความงามในโรงพยาบาล คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
ในส่วนของโรงพยาบาลคาดว่า จะทำให้ผู้ที่มารับบริการด้านความงามมีจำนวนลดลงประมาณ 10% จนทำให้ภาพรวมรายได้ในปีนี้คาดว่าจะลดลงด้วยราว 5% จากที่ผ่านมายันฮีนมีรายได้จากการให้บริการความงามคิดเป็น 40% หรือยาว 500-600 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา โดย 60% ของรายได้หลักเป็นรายได้จากการให้บริการรักษาโรคทั่วไป รวมรายได้ในปีที่ผ่านมากกว่า 1.5 พันล้านบาท
"พฤติกรรมของผู้บริโภคตอนนี้จะใช้เวลาในการพิจารณาเลือกแพ็กเกจ และราคาค่าบริการ ก่อนตัดสินใจรับบริการมากขึ้น มีการโทรเข้ามาสอบถามรายละเอียดเพื่อเปรียบเทียบ มากกว่าการเข้ามาสอบถามข้อมูล แสดงถึงการไตร่ตรองในการใช้จ่ายมากขึ้น"
ร้านค้าซีดีถูกลิขสิทธิ์เงียบเหงา
อย่างไรก็ตามจากการเข้าไปสังเกตร้านขายซีดีย่านซอยอารีย์แห่งหนึ่ง พบว่าภายในร้านเงียบเหงามาก ไม่มีลูกค้าอยู่ในร้านแม้แต่คนเดียว และเมื่อสอบถามเจ้าของร้านทำให้ทราบว่าบรรยากาศแบบนี้เป็นมาระยะหนึ่งแล้ว
"วันนี้เพิ่งมีลูกค้ารายแรกนะ ช่วงนี้ร้านเงียบๆ ก็คงต้องทำใจเพราะเป็นที่รู้กันว่าค่าครองชีพสูงน้ำมันก็แพง ของทุกอย่างแพงหมดยิ่งซีดีเพลงวีซีดีหนังที่ร้านขายเป็นของถูกสิขสิทธิ์ ราคาก็ไม่ได้ถูกเหมือนของก๊อปปี้ยิ่งต้องทำใจ เพราะไม่ใช่ของจำเป็น คนก็ยิ่งต้องประหยัดกัน"
เจ้าของร้านยังบอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ยังพอมีลูกค้าประจำและลูกค้าจรบ้าง ทำให้พออยู่ได้ เพราะที่ร้านพยายามขายของถูกกว่าร้านใหญ่ๆ อยู่แล้ว อย่าวีซีดี ดีวีดีหนังจีน เกาหลีเก่าๆ ของถูกลิขสิทธิ์ยังขายแค่เรื่องละ 40 บาท ขณะที่ของก๊อปปี้ก็ขายเกิน 50 บาทแล้ว ยังขายไม่ค่อยออก หรืออย่างหนังขุด เช่น ซีรีส์เกาหลี เคยขายเรื่องละ 1,000 กว่าบาท เหลือ 700 กว่าบาท ตอนนี้ยิ่งลดลงไปอีกเหลือ 600 บาทเท่านั้น เพราะเข้าใจดีว่าลูกค้าที่ชื่นชอบหนังพวกนี้ยังมีจะได้พอมีกำลังซื้อได้
ขณะที่ "หน่อย" ผู้บริโภครายหนึ่งที่ชื่นชอบซื้อวีซีดีและดีวีดีมาก และเป็นลูกค้าประจำย่านคลองถม ซึ่งมีทั้งร้านขายของถูกลิขสิทธิ์และก๊อปปี้ เล่าว่า ก่อนหน้านี้พอมีเงินเหลือก็จะมาเดินเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อหาซื้อหนังอย่างน้อยได้ติดมือกลับบ้าน 1 เรื่อง เฉลี่ยเดือนหนึ่งจะมีหนังใหม่ประมาณ 5 เรื่องใช้เงิน 1,000-2,000 บาท หรือบางเดือนก็หยุดซื้อไปเลย
สถานการณ์เศรษฐกิจทรุด ราคาน้ำมันพุ่งไม่หยุดทางรอดของประชาชนคนไทยในวันนี้คือ "ช่วยเหลือตัวเอง" ให้มากที่สุด และนี่คือคำตอบว่า เราจะอยู่กันได้อย่างไร ในเมื่อราคาน้ำมันปรับแพงขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน
ข้อมูลจาก
หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก ฉบับวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2551
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต






