x close

พีค ภัทรศยา ใจเดียว ไม่คบเผื่อเลือก

ก้อย-พีค 

พีค ภัทรศยา พีค ภัทรศยา

พีค ภัทรศยา พีค ภัทรศยา



          หลังจากที่เมื่อปีที่แล้วแจ้งเกิดจากบท "น้ำปั่น" สาวน้อยสุดแสนซาบซ่าจากภาพยนตร์ "สายลับจับบ้านเล็ก" มาแล้ว ปีนี้นางเอกสาวหน้าใส พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ จะพลิกบทบาทเป็นสาวเซอร์ในหนัง "รัก/สาม/เศร้า" ของผู้กำกับ ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค อีกครั้ง วันนี้จึงรีบชิงตัวของนางเอกสาวหน้าใสมาพูดคุยถึงเรื่องการงานความรัก และข่าวค(ร)าวต่าง ๆ ของเธอก่อนที่คิวงานของเธอจะแน่นไปมากกว่านี้

 พีคเริ่มเข้าวงการมาได้ยังไง

          พีค :
ก็เหมือนๆ คนอื่นคือ เริ่มจากงานถ่ายโฆษณาสินค้าก่อน แต่พีคต้องไปแคสติ้งหลายครั้งมากกว่าจะได้งานชิ้นแรก จากนั้นก็มีงานถ่ายมิวสิกวิดีโอ, ถ่ายแบบ และละคร "เพื่อนรัก เพื่อนร้าย" ทางช่อง 7 จากนั้นไม่นานทางจีทีเอชก็ติดต่อให้มาแคสท์หนัง "สายลับจับบ้านเล็ก" แล้วบังเอิญได้ ตอนที่รู้ว่าตัวเองได้เล่นหนังเรื่องนี้ก็ดีใจมาก ยิ่งพอได้มารู้จักกับ พี่ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, พี่เอส-คมกฤษ ตรีวิมล และพี่ๆ ทีมงานจีทีเอช พีคยิ่งรู้สึกว่าตัวเองโชคดีเข้าไปใหญ่ เพราะพี่ๆ แต่ละคนดีมาก ทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น

 ฝันอยากทำงานด้านนี้มาตั้งแต่เด็กเลยมั้ย

          พีค :
ตอนเด็กๆ เราก็ไม่ได้อยากเป็นนักแสดงนะ เพียงแต่ว่าพอเรามีโอกาสได้รับการทาบทามให้มาทำงานในวงการนี้ เราก็เลยรู้สึกสนใจอยากลองทำดู เพราะตอนเป็นเด็ก เวลาได้เห็นคนนั้นคนนี้อยู่ในทีวีก็รู้สึกดี ได้เห็นคนแต่งตัวสวยๆ ก็ชอบ พีคก็เลยอยากเป็นแบบนั้นดูบ้าง อยากให้เพื่อนได้เห็นเราในจอทีวีบ้าง ก็เป็นความคิดตามประสาเด็กๆ

 ตอนมาเล่นหนัง "สายลับฯ" หวังเอาไว้มากแค่ไหน

          พีค :
ไม่หวังเลย จริงๆ แค่ตอนที่ได้มาทำงานโฆษณาหรือเล่นละคร พีค ก็รู้สึกว่าพอแล้ว ไม่คิดว่าจะได้มาเล่นหนังเลย แค่ได้ถ่ายหนังเราก็คิดว่ามันมากกว่าที่เราคิดเอาไว้แล้วนะ เพราะระยะเวลาที่ได้ทำงานนั้นเราได้อะไรต่างๆ เยอะแยะมากมายจากหนัง แต่พอกระแสตอบรับมันออกมาดี เราก็ดีใจที่มีคนชื่นชอบ เราไม่เคยคาดเอาไว้ รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้มาเป็นน้ำปั่น

 แต่พอเริ่มดังก็เริ่มมีข่าว

          พีค :
ใช่ เป็นธรรมดานะ ตอนไม่ดังคนก็ไม่ค่อยสนใจ แรกๆ ที่มีข่าวพีคก็รับไม่ทันนะ คือ เพิ่งจะมีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตเราเอง ตอนนั้นเครียดเลย แต่พีคใช้เวลาสักพักก็เริ่มรับมือกับมันได้ ก็เลยรู้สึกว่าไม่เป็นไร เพราะทุกคนที่เราร่วมงานด้วยเขาเชื่อใจและเป็นกำลังใจให้เรา พีคก็เลยรู้สึกว่าเราคงไม่สามารถจะไปอธิบายทุกเรื่องทุกข่าวให้คนอื่นๆ เข้าใจเราได้ ดังนั้น พีคควรจะแคร์ความรู้สึกคนรอบข้างเราก็พอ พีคเชื่อว่าเวลาจะทำให้ทุกเรื่องผ่านไปเอง คิดซะว่าวันนี้มีข่าวพรุ่งนี้มันก็จะผ่านไป ไม่จมอยู่กับเรื่องแบบนั้น มุ่งทำงานไปเรื่อยๆ ดีกว่า

 ข่าวไหนที่คิดว่าแรงสุดในชีวิต ตั้งแต่ข่าวทำศัลยกรรมไปจนถึงหอบผ้าไปอยู่บ้านผู้ชาย

          พีค :
พีคไม่สนใจข่าวพวกนี้เลย คนรอบข้างที่อยู่กับพีคเขาแยกแยะออกได้อยู่แล้วว่าอันไหนจริงหรือไม่จริง บางคนไม่รู้จักเรา เราก็คงไปนั่งอธิบายอะไรให้เขาฟังไม่ได้ และพีคก็เชื่อว่าเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกอย่างให้พวกเขาได้เห็นเอง ชีวิตคนเรามันก็ต้องเจอะเจอมรสุมชีวิต อาจจะเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ถ้ามันไม่ได้เป็นเรื่องแย่มาก และเราสามารถรับมือกับมันได้ ทุกอย่างก็จะผ่านไปได้ด้วยดีเอง

พีค ภัทรศยา



 เวลามีข่าวพ่อแม่ว่าอย่างไรบ้าง

          พีค :
พ่อไม่เครียด แม่พีคขนาดเป็นข้าราชการ เจ้าระเบียบมาก เขายังไม่ถามอะไรพีคเลย พ่อกับแม่เชื่อใจในตัว พีคมาก พวกท่านรู้ว่าพีคเป็นคนอย่างไร เวลาไปไหนพ่อก็จะรับ-ส่งตลอด เขาใกล้ชิดเรามาก เขารู้ว่าวันๆ เราทำอะไร พ่อกับแม่พีคเขาคิดได้โดยตัวของเขาเองเลยว่าข่าวไหนจริงหรือไม่จริง อย่างแม่ของพีคเขาก็เห็นว่าพีค สามารถดูแลตัวเองได้แล้ว เขามั่นใจว่าเราโตและมีความคิดมากพอ เขาไว้วางใจพีค พอเป็นแบบนี้พีคก็ไม่อยากให้พ่อแม่ผิดหวังและเสียใจ

 พ่อแม่ได้สอนหรือเตือนอะไรบ้างหรือเปล่า

          พีค :
แรกๆ พีคอาจจะยังวางตัวไม่เป็น เขาก็บอกให้เราวางตัวให้ดีจะได้ไม่มีช่องว่างให้คนมาว่าเราได้ แต่ก็ยอมรับว่าช่วงที่เข้ามาวงการใหม่ๆ พีค ก็ยังเด็กจริงๆ แต่พอโตขึ้นได้เจอสังคมดีๆ มันก็ทำให้ความคิดเราค่อยๆ เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

 การทำงานตรงนี้เราอาจจะมีเงินทองมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันบางทีก็ต้องเสียชื่อเสียง คิดว่าได้คุ้มเสียมั้ย

          พีค :
พีคว่ามันมีสิ่งดีมากกว่าเรื่องแย่ๆ อาจจะมีคนไม่หวังดีกับเรา แต่ในความไม่ดีนั้นก็มีคนหวังดีกับเราอยู่เยอะ มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด แต่สิ่งที่พีคได้มามันมีค่ามากเราได้รับความสุขและสิ่งดีๆ หลายอย่างจากวงการนี้ เราก็ไม่ไปยึดติดกับสิ่งแย่ๆ พีคจะมองข้ามมันไป

 พอมีชื่อเสียงมากขึ้น ความเป็นส่วนตัวก็จะน้อยลง

          พีค :
ก็อึดอัดนะ แต่มันเป็นสิ่งที่เราต้องแลกเหมือนกับว่า ณ ตอนนี้เรามีโอกาสที่ดีมากกว่าคนอื่น ๆ ถึงแม้การมีชื่อเสียงจะทำให้ความเป็นส่วนตัวของเราลดลง แต่มันก็ไม่ได้ถึงกับสร้างความลำบากใจอะไรให้เรามากมาย พีคมีความสุขนะเวลาที่คนมาแสดงความชื่นชอบเรา และทุกวันนี้พีคก็ยังใช้ชีวิตตามปกติ ไปกินข้าว ดูหนัง เดินเล่นกับเพื่อน ๆ เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าอะไรที่ไม่ดีเราก็ไม่ทำ พีคพอใจกับชีวิตตอนนี้ อยากทำงานตรงนี้ไปเรื่อย ๆ มันเป็นกำไรชีวิต วงการนี้ให้อะไรดี ๆ กับเราเยอะ ถึงจะมีเรื่องแย่ ๆ ผ่านเข้ามาในชีวิตบ้าง แต่มันก็ทำให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น การที่พีคได้มาอยู่ตรงนี้ทำให้เราได้ดูแลตัวเอง ทำให้เราสวยขึ้น มีเงินมีทอง ได้ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ อย่างพ่อพีคจะชอบดูผลงานของลูกสาวตัวเอง

 แล้วเรื่องความรักล่ะ

          พีค :
หลังจากที่พีคเริ่มเข้ามาทำงานในวงการ ไม่ค่อยมีคนมาจีบพีคนะ คงเพราะเราอยู่แต่สังคมเดิมๆ เลยไม่มีโอกาสได้เจอใคร แต่ก็มีคนคุยอยู่ ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าพีคสนิทกับ พี่เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี เขาเป็นคนมีความคิดดี พี่เต๋อจะสนิทกับพี่ซันนี่ เขาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน กลุ่มนี้เขามีความคิดเป็นผู้ใหญ่ เวลาที่เรามีปัญหาหรือต้องการคำปรึกษาเราจะได้คำตอบที่ดีและเขาจะพูดให้เราคิดได้เอง

 สนิทกับเต๋อมากมั้ย

          พีค :
สนิทกันจริง ก็มีไปกินข้าวดูหนังกันบ่อย มีอะไรก็โทรฯ หาเขาตลอด พีคไม่ได้คุยกับคนอื่นๆ เลย คุยกับพี่เต๋อแค่คนเดียว แต่ก็คุยกันแบบพี่น้องไปก่อน ไม่ได้โฟกัสว่าต้องเป็นแฟนกัน เราต่างคนต่างก็เปิดโอกาสให้กัน เพราะพีคเองก็ยังเด็กอยู่ ไม่อยากมีอะไรมาผูกมัด ถามว่ามีโอกาสพัฒนามั้ย พีคไม่รู้ว่าคำว่า "พร้อม" ของพีคนั้นคือเมื่อไหร่ อาจจะเป็นเดือนหน้าหรือสิ้นปีนี้ก็ได้ มันอยู่ที่ความรู้สึกของเรามากกว่า ซึ่งถ้า ณ วันที่พีคพร้อม เรายังคุยกันอยู่ ความสัมพันธ์เราอาจจะสามารถก้าวหน้าขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น ตัวพีคเองเวลาคบใครก็อยากจะจริงจัง ไม่ได้คิดแค่จะมีเพื่อนคุยไว้แก้เหงา

 ทำไมเลือกคุยกับเต๋อคนเดียว

          พีค :
เขาเป็นคนตลก เป็นคนธรรมดา บางคนอาจจะชอบคนดูดี ร่ำรวย แต่พีคชอบคนดี พี่เต๋อเป็นคนมีความคิดดี คุยแล้วสบายใจ เวลามีปัญหาเขาสามารถให้คำตอบดีๆ กับเราได้ ส่วนเขาตรงสเปกของพีคมั้ย พีคไม่มีสเปกนะ แต่ชอบคนคุยสนุก พี่เต๋อเป็นคนมีเสน่ห์ดี ก็ใกล้เคียงกับสเปกพีคนะ

 ที่ไม่กล้าพูดว่าเขาเป็นแฟนเพราะกลัวพ่อแม่จะรับไม่ได้หรือเปล่า

          พีค :
ไม่เกี่ยวหรอก พ่อกับแม่เข้าใจนะ พีคว่าพ่อและแม่คงรู้ว่าคนที่พีคเลือกคงเป็นคนดีที่ทำให้พีคมีความสุขได้ และถ้าพีคมีแฟนก็จะพาเขาไปรู้จักอยู่แล้ว ต้องให้พ่อกับแม่ช่วยดู และเขาก็จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเรามากด้วย แต่พีคยังไม่ได้พาพี่เต๋อไปเจอพ่อกับแม่เลย ขอดูให้ชัวร์ก่อนดีกว่า

 พ่อกับแม่เคยถามถึงเต๋อมั้ย 

          พีค : เขาพูดแค่ประมาณว่า เต๋ออีกแล้ว ช่วงนี้มีข่าวกันบ่อยนะ แต่ก็จะบอกพ่อกับแม่ไปว่า เวลาไปไหนไม่ได้ไปกันสองต่อสอง มีไปกับคนอื่นด้วย เพียงแต่คนมักจะจับตามองที่พีคกับพี่เต๋อมากกว่า พ่อแม่ก็จะเข้าใจโดยอัตโนมัติ ไม่ได้ว่าอะไรมาก เขาคงรู้ว่าถ้าพีคพร้อมเมื่อไหร่ก็จะพาไปให้เขาดูเอง แล้วอีกอย่างหนึ่งพ่อแม่ก็รู้ว่าตอนนี้ชีวิตพีคขอโฟกัสเรื่องงานก่อน เขารู้ว่าเรารู้จักลำดับสิ่งสำคัญๆ ในชีวิตได้ พีคดีใจนะที่พ่อกับแม่เข้าใจและเชื่อใจในตัวพีค

          จากวันแรกที่เราได้เจอเธอจนมาถึงวันนี้ พีคได้เปลี่ยนไปเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของความคิดอ่านหรือการวางตัว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่า เธอผ่านเรื่องราวทั้งร้ายและดีมาเยอะ จนหล่อหลอมให้กลายมาเป็นตัวเธอในวันนี้ ก็ขอให้เธอฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ไปได้ด้วยดีกับเส้นทางบันเทิงที่เธอรัก


   สามารถดาวน์โหลดรูปภาพ wallpaper รัก สาม เศร้า จาก Centerpoint ได้ที่นี่ค่ะ


ข้อมูลจาก
 
ภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และ In magazine


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พีค ภัทรศยา ใจเดียว ไม่คบเผื่อเลือก อัปเดตล่าสุด 17 มิถุนายน 2551 เวลา 15:32:36 94,323 อ่าน
TOP