ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ "ยูโร 2008" ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรีย เข้าสู่วันที่ 11 ของการแข่งขัน เมื่อเวลา 01.45 น. (17 มิ.ย.) เป็นเกมดวลแข้งนัดสุดท้ายรอบแรก ในกลุ่มซี ถือเป็นกลุ่มมรณะประจำทัวร์นาเมนต์ รวม 2 คู่
ที่สนามเลตซิกรุนด์ สตาดิโอน ในเมืองซูริกของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นแมตช์ล้างตานัดชิงบอลโลก 2006 ระหว่าง "อัซซูรี" อิตาลี ทีมแชมป์โลก เจอกับ "ตราไก่" ฝรั่งเศส ทีมรองแชมป์โลก ถ่ายทอดสดให้ชมทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 7 เกมนี้ทั้งสองทีมต่างต้องการชัยชนะด้วยกันทั้งคู่ เพื่อตีตั๋วเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เนื่องจากเพิ่งจะมีแค่ 1 แต้ม จากการลงเล่นไป 2 นัด
นัดนี้แชมป์โลกอิตาลีของกุนซือโรแบร์โต โดนาโดนี ใช้ผู้เล่นชุดเดิมที่เสมอกับโรมาเนีย 1-1 โดยมี ลูกา โทนี เป็นหัวหอกตัวความหวังในแดนหน้า ข้างฝ่ายทีม "ตราไก่" ฝรั่งเศส ของกุนซือเรย์มงด์ โดเมอเนค หวังจะล้างตาเอาชนะอิตาลีให้ได้ หลังแพ้ดวลจุดโทษต่อทีมอัซซูรีในนัดชิงบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี เมื่อ 2 ปีที่แล้ว กุนซือโดเมอเนค ให้เธียร์รี อองรี ลงเล่นเป็นตัวจริงในแดนหน้า ผนึกกำลังในแนวรุกกับฟรองก์ ริเบรี และฟลอรองต์ มาลูดา ส่วนคาริม เบนเซมา เบียดนิโคลาส์ อเนลกา กลับมายืนเป็นกองหน้าตัวจริงคู่อองรี
ครึ่งแรก นาทีที่ 4 อิตาลี เกือบได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็วจากลูกหลุดเดี่ยวของ ลูกา โทนี แต่ยิงหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 7 ลางร้ายของฝรั่งเศสเริ่มต้นขึ้นจาก ฟรองก์ ริเบรี ดาวยิงฝรั่งเศส วิ่งไปชน จิอันลูกา ซามบรอตตา กองหลังอิตาลี ล้มลงขาพลิกได้รับบาดเจ็บถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม
นาทีที่ 25 อิตาลี โยนบอลยาวให้ ลูกา โทนี เหยียดสุดปลายเท้าเกี่ยวบอลได้ในกรอบเขตโทษ ทำให้ เอริก อบิดาล ปราการหลังฝรั่งเศสต้องเสียบสกัด ลูกา โทนี ล้มลง กรรมการเป่าให้เป็นลูกจุดโทษ และแจกใบแดงให้ อบิดาล ออกจากสนามไป ฝรั่งเศสเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน อันเดรีย ปิร์โล รับหน้าที่สังหารจุดโทษไม่พลาด อิตาลีออกนำไปก่อน 1-0
หลังได้ประตูออกนำ อิตาลีน่าจะได้ประตูนำห่างหลายจังหวะ นาทีที่ 28 ลูกา โทนี ดีดลูกจากบอลโยนมาจากริมเส้นกราบขวาเกือบเข้าประตู นาทีที่ 30 ลูกา โทนี คนเดิม ได้บอลหลุดเดี่ยวแต่ยิงบอลหลุดกรอบออกไปอีก
ช่วงท้ายเกมครึ่งแรก นาทีที่ 44 อิตาลี ได้ลูกฟรีคิก ระยะ 25 หลา ฟาบิโอ กรอสโซ ปั่นบอลกำลังจะพุ่งเสียบโคนเสา เกกอรี คูเป นายทวารฝรั่งเศส พุ่งปัดสุดปลายมือเปลี่ยนทางบอลไปชนเสา รอดการเสียประตู จบครึ่งแรก อิตาลี ยังคงนำฝรั่งเศส 1-0
ครึ่งหลัง นาทีที่ 50 ฝรั่งเศสเกือบได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็ว จากลูกโยนบอลมาจากริมเส้น เธียร์รี อองรี ยิงบอลไปชนกองหลังอิตาลี กระเด้งมาเข้าทาง คาริม เบนเซมา ซัดเต็มข้อบอลข้ามคานออกไป
นาทีที่ 62 อิตาลี ได้ฟรีคิกกลางประตู ระยะประมาณ 35 หลา ดาเนียลเล เดรอสซี ยิงไปแฉลบ เธียร์รี อองรี บอลเปลี่ยนทางเข้าประตูไปอย่างสุดสวย อิตาลีนำห่าง 2-0 ก่อนจบเกมด้วยสกอร์นี้ อิตาลีเก็บเพิ่มอีก 3 แต้ม ย้ำแค้นฝรั่งเศส มีคะแนนรวม 4 แต้ม เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นอันดับสองของกลุ่ม ซี
อีกคู่ ที่สนามสตาด เดอ สวิส วังก์ดอร์ฟ ในกรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ ลอยลำเข้ารอบไปแล้ว จากผลงานชนะ 2 นัดรวด (ชนะอิตาลี 3-0, ถล่มฝรั่งเศส 4-1) มี 6 คะแนนเต็ม ดวลกับ "ผีดิบ" โรมาเนีย รองจ่าฝูง ของกลุ่ม มี 2 คะแนน (เสมอฝรั่งเศส 0-0, เสมออิตาลี 1-1) ถ่ายทอดสดให้ชมทางโมเดิร์นไนน์ทีวี สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท.
แมตช์นี้ ทีมอัศวินสีส้ม "ฮอลแลนด์" ที่เข้ารอบไปแล้ว ปรับทัพพักผู้เล่นตัวหลักในหลายตำแหน่ง เปิดโอกาสให้ตัวสำรองอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี, อาร์เยน ร็อบเบน และ คลาส แยน ฮุนเตลาร์ ได้ลงเป็นตัวจริง ส่วนทีมผีดิบโรมาเนียภายใต้การคุมทัพของ วิคเตอร์ ปิตูร์กา กุนซือวัย 52 ปี จะจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม แต่จะไม่มีมิเรล ราดอย กองกลางจากสเตอัว บูคาเรสต์ ซึ่งถอนตัวจากการแข่งขันไปแล้ว เนื่องจากได้รับบาดเจ็บอย่างหนักที่ศีรษะจากนัดที่เสมออิตาลี แต่ขุมกำลังหลักที่เหลือยังอยู่กันครบพร้อมหน้า ทั้งอาเดรียน มูตู คอสมิน คอนทรา บ็อกดาน โลบอนท์ และคริสเตียน คิวู
ครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังทำประตูกันไม่ได้ ก่อนที่จะมาได้ประตูจากลูกโต้กลับขณะที่ โรมาเนียกำลังบุกเพลินๆ โรบิน ฟานเพอซี จับบอลหลบกองหลังก่อนซัดเข้าไปอย่างสุดสวย ฮอลแลนด์ ออกนำ 1-0
นาทีที่ 87 ฮอลแลนด์ ได้ประตู 2-0 ตอกย้ำชัยชนะจากลูกยิงแสกหน้าผู้รักษาประตูของ โรบิน ฟานเพอซี ก่อนจบเกมด้วยสกอร์นี้ "อัศวินสีส้ม" เข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่มซี เก็บ 9 คะแนนเต็ม
ติดตามข่าวคราว ความเคลื่อนไหวในวงการฟุตบอล ฟุตบอล ยูโร 2008 ได้ที่นี่ค่ะ
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
