x close

ภรรยาฟ้อง ส.ส.นักร้องดัง ข้อหาแพร่โรค-ทำร้ายร่างกาย

ชลธิชา ปานแย้ม ภรรยา เอกพจน์ ปานแย้ม


สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  

          ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อวานนี้ (18 มิถุนายน) นางชลธิชา ปานแย้ม อายุ 38 ปี ภรรยานายเอกพจน์ ปานแย้ม ส.ส.ปทุมธานี รองโฆษกพรรคชาติไทย ได้เดินทางไปเพื่อยื่นคำฟ้องดำเนินคดีอาญากับนายเอกพจน์ ข้อหาทำร้ายร่างกายสาหัส และข้อหาเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร กรอกข้อความอันเป็นเท็จ 

          ทั้งนี้ ในคำฟ้องระบุโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2542 โจทก์และจำเลยได้จดทะเบียนสมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ณ สำนักทะเบียนอำเภอธัญบุรี ในเวลาต่อมาแม้จำเลย (นายเอกพจน์) ซึ่งทราบดีว่าตนเองได้ป่วยเป็นโรคเรื้อรังที่ยังไม่มียารักษา ได้บังอาจทำร้ายร่างกายโจทก์ โดยการจงใจแพร่เชื้อโรคร้ายแรงดังกล่าวให้แก่โจทก์หลายครั้งหลายหน จนเป็นเหตุให้โจทก์รับอันตรายสาหัส ต้องป่วยเจ็บโรคร้ายแรงดังกล่าว และต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง 

          นอกจากนี้ จำเลยยังใช้กำลังทำร้ายร่างกายโจทก์เรื่อยมา พร้อมกรอกข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารสำคัญ แล้วนำไปยื่นต่อนายกล้านรงค์ จันทิก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2551 โดยระบุว่า โจทก์มีเงินฝาก 38,618.36 บาท โจทก์มีเงินลงทุน 1,490,000 บาท โจทก์มียานพาหนะราคา 1,000,000 บาท รวมทรัพย์สิน 2,528,618.36 บาท ทั้งๆ ที่โจทก์ไม่มีเงินและทรัพย์สินแต่อย่างใดทั้งสิ้น อีกทั้งโจทก์ยังทราบว่า จำเลยมีทรัพย์สินมากกว่า 9,760,181.00 บาท ตามที่ได้แจ้งไว้อีกด้วย อย่างไรก็ ตามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลได้ลงเป็นบันทึกคดีหมายเลขดำที่ 3643/2551 โดยจะมีการนัดไต่สวนโจทก์ ครั้งแรกในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ 

          ขณะที่นายเอกพจน์ ยอมรับว่า มีปัญหาภายในครอบครัว เนื่องจากความไม่เข้าใจกัน ขณะนี้ได้แยกกันอยู่กับภรรยามานานร่วมสองเดือนแล้ว ปัญหาของครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เกิดจากความไม่เข้าใจกัน และเรื่องลักษณะนิสัยที่เข้ากันไม่ได้ ที่ผ่านมาได้ขอหย่ากับฝ่ายหญิง แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมพูดถึง จนทำให้ต้องออกจากบ้านและแยกกันอยู่ 

          ส่วนที่มีการอ้างว่าทำร้ายร่างกายภรรยานั้น ขอปฏิเสธว่าไม่มี เพราะโดยส่วนตัวทุกคนที่อยู่รอบข้างจะรู้ดีว่ามีลักษณะนิสัยอย่างไร ปกติเป็นคนใจเย็น และไม่คิดว่าฝ่ายหญิงจะนำเรื่องดังกล่าวไปฟ้องร้องต่อศาล ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะที่ผ่านมาได้พยายามทุกอย่างแล้ว ทั้งให้แม่ของตนไปช่วยพูดจาไกล่เกลี่ย แต่ในเมื่ออยู่กันไม่ได้ก็ต้องขอหย่า แต่ฝ่ายหญิงก็ยังไม่ยอมหย่าให้ คาดว่าที่เขาไปฟ้องร้อง เนื่องจากคงจะเกิดความหวาดระแวงว่าจะไม่รับผิดชอบ แต่ขอยืนยันว่าพร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่างทั้งลูกและค่าใช้จ่ายของภรรยา


ข้อมูลจาก
http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=94007

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ภรรยาฟ้อง ส.ส.นักร้องดัง ข้อหาแพร่โรค-ทำร้ายร่างกาย อัปเดตล่าสุด 23 มิถุนายน 2551 เวลา 09:51:52 94,332 อ่าน
TOP