ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2008 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรีย วันที่ 13 ของการแข่งขัน เมื่อเวลา 01.45 น. ที่ผ่านมา (20 มิ.ย.) เป็นเกมดวลแข้งน็อกเอาต์รอบ 8 ทีมสุดท้าย หรือรอบก่อนรองชนะเลิศ คู่แรกระหว่างแชมป์กลุ่มเอ "ฝอยทอง" โปรตุเกส เจอกับรองแชมป์กลุ่มบี "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ที่สนามเซนต์-จาค็อบ พาร์ก ในเมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีถ่ายทอดสดให้ชมทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 7
โปรตุเกส ของ "บิ๊กฟิล" หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี กุนซือชาวแซมบ้า ผ่านรอบแรกมาอย่างสวยงามสมราคาทีมเต็งแชมป์ ด้วยการต้อนตุรกี 2-0 และทุบชนะสาธารณรัฐเช็ก 3-1 ก่อนจะมาพ่ายเจ้าภาพ สวิตเซอร์แลนด์ 0-2 ในนัดปิดท้าย แต่ไม่มีความหมายอะไร ส่วน "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ต้องกระเสือกกระสนกว่าจะผ่านเข้ารอบมาได้ หลังไปพลาดท่าพ่ายโครเอเชียแบบล็อกถล่ม 1-2 ในนัดที่ 2 ของรอบแรก ก่อนจะเค้นฟอร์มเก่งเฉือนชนะเจ้าภาพออสเตรียหวุดหวิด 1-0 จากประตูทองของมิชาเอล บัลลัค จอมทัพกัปตันทีมในช่วงต้นครึ่งหลัง ทำให้ตีตั๋วเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ อย่างหวุดหวิดจวนเจียน
แมตช์นี้ "ฝอยทอง" โปรตุเกส ไม่มีผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บ หรือติดโทษแบน ทำให้น่าจะจัดทัพใหญ่ลงบู๊เต็มสูบ นำทัพโดยคริสเตียโน โรนัลโด ปีกจอมสับจาก "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดโก เพลย์เมกเกอร์ จากบาร์เซโลนา เปเป้ กองหลังจอมแกร่งของเรอัล มาดริด นูโน โกเมซ และซิเมา ซาโบรซา งหมดถูกพักในเกมพ่ายสวิตเซอร์แลนด์เพื่อเก็บความสดไว้เตะในรอบน็อกเอาต์ 8 ทีมสุดท้าย
ด้าน "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ของกุนซือโจอาคิม เลิฟ ได้บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กองกลางขาลุยจากบาเยิร์น มิวนิก กลับมาคืนทัพอีกครั้ง หลังพ้นโทษแบน 1 นัด ส่วนตัวหลักอื่นๆยังอยู่กันครบ ไม่ว่าจะเป็นมิชาเอล บัลลัค เยนส์ เลห์มันน์ ฟิลิปป์ ลาห์ม มิโรสลาฟ โคลเซ และลูคัส โพดอลสกี
เริ่มครึ่งแรก เทียบฟอร์มชั่วโมง แม้ "ฝอยทอง โปรตุเกสจะเหนือกว่าทีมอินทรีเหล็ก ทั้งในเรื่องทีมเวิร์ก และความสามารถเฉพาะตัวนักเตะ ขณะที่เยอรมนีมีดีที่สภาพร่างกายที่แกร่ง แต่ เยอรมนี กลับครองเกมได้ดีกว่าในช่วงต้นเกม ขณะที่ โปรตุเกส ต้องใช้เวลาถึง 15 นาที ในการปรับเกมการเล่นกว่าจะกลับมาสู่เกมของตัวเองได้
นาทีที่ 22 เยอรมนี ได้ประตูขึ้นนำจาก ลูคัส โพดอลสกี ลากเลื้อยหลบกองหลังโปรเกตุ 3 คน ทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนโยนบอลเข้ากลางประตูให้ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ พุ่งเข้าชาร์จบอลเข้าไปให้ทีมออกนำ 1-0 และเป็นประตูแรกของตัวเองในทัวร์นาเมนท์นี้
นาทีที่ 26 "อินทรีเหล็ก" ได้ประตูนำห่าง 2-0 จากลูกตั้งเตะฟรีคิก บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ โยนบอลเข้ากลางประตูให้ มิโรสลาฟ โคลเซ จอมโขก โดดขึ้นโหม่งเหน่งๆ เข้าไปตุงตาข่าย สุดสวย
นาทีที่ 40 โปรตุเกส ได้ประตูตีไข่แตก 1-2 จากลูกลากเลื้อยของ คริสเตียโน โรนัลโด ขึ้นมายิงด้วยเท้าซ้าย ถูก เยนส์ เลห์มันน์ ผู้รักษาประตูเยอรมนี ปัดออกมาเข้าทาง นูโน โกเมซ ซัดเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสุดสวย ก่อนจบครึ่งแรกด้วสกอร์นี้
ครึ่งหลัง โปรตุเกส โหมบุกเพื่อทวงประตูคืนให้ได้ แต่เป็น เยอรมนี ได้ประตูนำห่างออกไปอีกเป็น 3-1 ในนาทีที่ 61 จากลูกตั้งเตะฟรีคิก เช่นเดิม หนนี้ เป็น มิชาเอล บัลลัค กัปตันทีมอินทรีเหล็ก ที่ผลัก ริคาร์โด คาร์วัลโย เพื่อนร่วมทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ก่อนขึ้นโหม่ง แต่ผู้ตัดสิน ปีเตอร์ ฟรอจด์เฟลดต์ ชาวสวีเดน กลับเป่าให้เป็นไป
นาทีที่ 87 โปรตุเกส ได้ประตูตื้นไล่มาเป็น 2-3 จาก นานี โยนบอลให้ เฮลเดอร์ พอสติกา ซัดเข้าประตูไป แต่ไล่ไม่ทัน จบเกม โปรตุเกส จบเส้นทาง ยูโร 2008 อย่างน่าเสียดาย ขณะที่ เยอรมนี เข้าสู่รอบ รองชนะเลิศ เป็นทีมแรก ในศึกหนนี้
ติดตามข่าวคราว ความเคลื่อนไหวในวงการฟุตบอล ฟุตบอล ยูโร 2008 ได้ที่นี่ค่ะ
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
