วันนี้ (22 มิ.ย.) นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยในรายการ "สังคมพิพากษ์" ทางโมเดิร์นเรดิโอ เอฟเอ็ม 100.5 ว่า ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่เตรียมเอกสารที่เคยขอขึ้นทะเบียนประสาทพระวิหารร่วมกับกัมพูชาและถูกปฎิเสธมาพิจารณาใหม่ เพราะเห็นว่าควรจะขึ้นเขาพระวิหารที่อยู่ในส่วนกรรมสิทธิ์ของไทยเป็นมรดกโลกด้วย คือ สระตราว บันได โดยจะเร่งเสนอเอกสารต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อขอให้คณะกรรมการมรดกโลกพิจารณาในการประชุมครั้งนี้ ที่แคนาดา ในต้นเดือนหน้าด้วย ซึ่งการพิจารณาอาจจะไม่ทันให้ความเห็นชอบแต่เรื่องจะเข้าไปอยู่ในการพิจารณา และมีความเป็นไปได้ว่าจะได้รับความเห็นชอบ ในส่วนของพื้นที่ทับซ้อน จะต้องบริหารจัดการร่วมกัน โดยจะเจรจาให้ร้านค้าออกไป จะดำเนินการอย่างรวดเร็ว เปิดเผย และทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่
นายนพดล ยังย้ำว่า ทุกอย่างทำอย่างถูกต้อง ไม่ทำให้ไทยเสียดินแดน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าหนักใจและเหนื่อยใจ แต่ไม่เคยถอดใจ เพราะถ้าถอดใจเท่ากับความไม่ถูกต้องบิดเบือนชนะความถูกต้อง เรื่องนี้ถ้าทำผิด ไม่เพียงแต่จะลาออก แต่จะยอมติดคุกด้วย
นายกฤชไกรกิตติ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายระหว่างประเทศ ยืนยันว่า การลงนามระหว่างไทย-กัมพูชา การขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ไม่ใช่สนธิสัญญา จึงไม่ต้องขอความเห็นจากสภาฯ ตามรัฐธรรมนูญ ส่วนการทำแผนบริหารจัดการพื้นที่เขาพระวิหารร่วมกับกัมพูชาเพื่อเสนอยูเนสโก มีเวลา 2 ปี ในการดำเนินการ
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต