x close

ทบทวนพระวิหาร สมัครยอม จ่อคิวเด้ง นพดล

สมัคร



สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

          หลังจากที่พรรคฝ่ายค้านได้ใช้เวลาถึงสามวันสามคืน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้ง 7 คน แต่ในที่สุดที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็มีมติไว้วางใจ ในขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลรุกไล่ให้มีการปรับ ครม.เพื่อลดแรงกดดัน โดยเฉพาะเรื่องเขาพระวิหาร ที่ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน

          นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวภายหลังการลงมติว่า เสียงที่ออกมาวันนี้เป็นความมั่นใจที่ทำให้นายกฯ และรัฐมนตรี 7 คน มีกำลังใจทำงานต่อไป เพราะสิ่งที่ชี้แจงไปนั้นเป็นที่เข้าใจของ ส.ส. ส่วนจะมีการปรับ ครม. ตามข้อเสนอของฝ่ายค้านหรือไม่ ยังไม่มีการหารือกัน เพราะรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจยังทำหน้าที่ได้ดี มีเพียงตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ เท่านั้นที่ยังว่างอยู่ และต้องพิจารณาต่อไป และการอภิปรายครั้งนี้ไม่ใช่การต่ออายุรัฐบาลออกไป ถ้ารัฐบาลทำผลงานเป็นที่ประจักษ์ ก็หวังว่าจะมีอายุรัฐบาล 4 ปี สำหรับสถานการณ์การเมืองนอกสภานั้น ถ้าใช้เวทีรัฐสภาให้เกิดประโยชน์ในการรับฟังความเห็นของประชาชน จะทำให้บรรยากาศทางการเมืองดีขึ้น เพราะเมื่อเรามีเวทีรัฐสภาให้แสดงออกตามกระบวนการประชาธิปไตย จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นจากชาวต่างประเทศกลับคืนมา มั่นใจว่าปัญหานอกสภาคงไม่มีความรุนแรงอะไร 

          ส่วนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกฯ และ รมว. ศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสข่าวปรับ ครม.ภายหลังการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายสมัคร สุนทรเวช นายกฯเพียงคนเดียว และที่มีชื่อนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ อยู่ในข่ายถูกปรับออกนั้น ไม่ทราบ แต่มั่นใจว่า หากจะมีการปรับเปลี่ยนใครก็ตาม นายกฯ จะตัดสินใจอย่างรอบคอบ เพราะมีประสบการณ์ทางการเมืองสูง เข้าใจการเมืองดี แต่ส่วนตัวมองว่ารัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้ดีอยู่ เมื่อถามว่า ช่วง 4 เดือนในการทำงานของรัฐบาล คิดว่าเหมาะสมที่จะปรับ ครม.หรือไม่ นายสมชายตอบว่า ส่วนตัวมองว่าเมื่อการลงมติผ่านไปแล้ว ถือว่าจบลงด้วยดี เสียงของรัฐบาลไม่แตก รัฐธรรมนูญให้เวลา 4 ปี ในการบริหารงาน เพื่อให้การทำงานเป็นรูปธรรม แต่รัฐบาลทำงานได้ 4 เดือน ก็ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเร็วเกินไป จึงต้องให้เวลาพอสมควร 

          ซึ่ง ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ข่าวการปรับครม.ถือเป็นเรื่องปกติหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อถามว่า ที่ประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ร่วมอยู่ด้วย เห็นว่าจะมีการปรับใหญ่ หลังร่าง พ.ร.บ.งบประมาณผ่านสภา ร.ท.กุเทพตอบว่า การปรับใหญ่หรือปรับเล็กเป็นอำนาจของนายกฯ เมื่อถามว่า บางกลุ่มภายในพรรคพลังประชาชนเห็นว่าการปรับใหญ่ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดคุณสมบัติของ 2 รัฐมนตรี อีกทั้งจะต้องปรับออกนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม ที่มีปัญหาด้านวุฒิการศึกษา และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ เพราะหมดสภาพการเป็นรัฐมนตรีที่จะบริหารงานต่อไป ร.ท.กุเทพตอบว่า นายสันติและนายมิ่งขวัญได้รับมติไว้วางใจจากที่ประชุมสภา ดังนั้น ต้องทำงานต่อไป กรณีวุฒิการศึกษาของนายสันติต้องรอดูต่อไป รวมทั้งกรณีที่รัฐมนตรีขาดคุณสมบัติ 2 ท่าน ที่อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่นายกฯว่าจะปรับครม.หรือไม่ อย่างไรก็ตาม การ ลงมติไว้วางใจชี้ให้เห็นว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีเอกภาพมั่นคงปลอดภัย มั่นใจนายกฯไม่ลาออก ไม่ยุบสภาแน่

          ทางด้านนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการปรับ ครม. ภายหลังการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ได้คุยกับนายกฯ แล้วว่า การอภิปรายครั้งนี้มีข้อมูลบางอย่างที่พูดถึงบางกระทรวง และรัฐมนตรีบางคนชี้แจงมีเหตุผลน้อยไปหน่อย แต่ไม่ถึงขนาดไม่พอ ดังนั้น การทำงานของบางกระทรวงต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง แต่จะปรับเล็กหรือใหญ่ขึ้นอยู่กับนายกฯ เพราะขณะนี้ก็มีตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่างอยู่ 1 ตำแหน่ง ก็อาจจะมีการปรับเพิ่มไปด้วยก็ได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่ากระทรวงใดที่ควรปรับปรุงเปลี่ยนแปลง นายบรรหารตอบว่า ตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับนายกฯ ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับ ครม.จะช่วยลดกระแสนอกสภาได้หรือไม่ นายบรรหารตอบว่า เมื่อญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจผ่านไปแล้ว คงไม่น่าจะมีปัญหา คงไม่มีกระแสอะไรมาก ขอให้รัฐบาลตั้งใจทำงานทุกเรื่องทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง 

          ส่วนกรณีเรื่องปัญหาการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารของกัมพูชา นายบรรหารได้ออกมากล่าวถึงกรณีที่นายกฯ หารือกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อคืนวันที่ 26 มิถุนายน ว่าได้มีการระบายถึงความอึดอัดใจพอสมควรในบางเรื่อง เพราะเราค่อนข้างเกรงว่า พื้นที่ทับซ้อนที่ยังตกลงกันไม่ได้ มันอาจจะมีปัญหาต่อไปในอนาคต เพราะถ้าอีกฝ่ายไปดำเนินการในลักษณะข้างเดียวแล้ว จะกลายเป็นพื้นที่ส่วนควบหรือไม่ เราเป็นห่วงตรงนี้ และทุกคนก็มีความเห็นคล้ายกัน สุดท้ายแล้วนายกฯ ก็บอกโอเค ถ้าไม่เห็นด้วยก็ต้องแก้ไข ได้บอกไปว่าคำว่าแผนผังน่าจะเปลี่ยนเป็นพื้นที่โดยรอบ ซึ่งนายสมัครก็ยอมที่จะไปปรับปรุงแก้ไข โดยพรรคชาติไทยได้มอบให้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรค และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรค เป็นผู้ไปประสานงานเรื่องนี้ 

          อีกทั้งนายเสนาะกล่าวถึงกรณีเขาพระวิหารว่า เป็นกรณีที่พูดกันไม่จบ แม้กระทั่ง รมว.ต่างประเทศ จะไปเซ็นลงนาม แต่ท่านก็ชี้แจงว่าเราไม่ได้เสียหายเกี่ยวกับเขตแดน ที่ศาลโลกตัดสินไว้เมื่อปี 2505 แต่อย่างใด ถึงจะไปเซ็น ก็ไม่มีผลในทางกฎหมาย คิดว่าบ้านพี่เมืองน้องกันต้องระวังในการพูดกัน อย่างไรก็ตามถ้าพูดตามภาษาชาวบ้าน ยังไงก็แล้วแต่เขาพระวิหารเป็ของกัมพูชา ศาลโลกตัดสินอย่างนั้น แต่ทางขึ้นอยู่กับเรา อย่าไปยกทางขึ้นให้กับเขาก็แล้วกัน เมื่อถามว่ามองท่าทีของนายกฯ ที่ระบุว่าพร้อมที่จะถอย ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยท่านก็จะไม่ทำต่ออย่างไร นายเสนาะตอบว่า ถึงจะไปทำต่อก็ทำไม่ได้ เพราะคำว่าอธิปไตยเป็นเรื่องใหญ่ แต่ศาลโลกเขาตัดสินแล้วมีแนวเขตต่างๆ เอาเป็นว่าเขาพระวิหารมันโด่งเข้าไป มีบันไดพันกว่าขั้น โดยบันไดเป็นของเรา ถ้าจะขึ้นไปเที่ยวก็ต้อง มาในบ้านเราจึงจะขึ้นไปได้ เมื่อถามว่าภายหลังอภิปรายฯ แล้วจะดับกระแสการปลุกระดมได้หรือไม่ นายเสนาะตอบว่า อันนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน



ข้อมูลจาก
 
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ทบทวนพระวิหาร สมัครยอม จ่อคิวเด้ง นพดล อัปเดตล่าสุด 28 มิถุนายน 2551 เวลา 22:09:11 13,897 อ่าน
TOP