x close

ม็อบฮือบุก สถานทูตเขมร เหตุเขาพระวิหาร

เขาพระวิหาร 



สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

          มีรายงานว่าเวลา 10.30 น. วันที่ 27 มิถุนายน ที่หน้าสถานทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย ถนนประชาอุทิศ แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.ได้มีกลุ่มคณะอาจารย์ นักเรียน ทนายความ รวมตัวกัน จำนวน 30 คน นำโดย ผศ.น.พ.ดุลย์ สิทธิสมวงศ์ ตัวแทนสมัชชากรุงเทพ นายชีวิน ฉายาชวลิต อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักประวัติศาสตร์ และนายพินิจ ณรงค์แสง นักกฎหมาย มาชุมนุมกันที่หน้าสถานทูตกัมพูชา เพื่อเรียกร้องและยื่นหนังสือคัดค้านการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก และรายชื่อของผู้คัดค้านชาวไทย จำนวน 26,000 รายชื่อ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง นำกำลังมาคอยดูแลความเรียบร้อย แต่ปรากฏว่าทางสถานทูตกัมพูชาไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกมารับหนังสือแต่อย่างใด

          จากนั้นได้มี พ.ต.อ.พิชิตชัย ศรียานนท์ รอง ผบก.ส.3 เดินทางมาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมพร้อมกับแจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมทราบว่า ทางสถานทูตกัมพูชาจะไม่ส่งเจ้าหน้าที่ออกมารับเอกสาร แต่จะขอร้องให้ไปยื่นหนังสือคัดค้านตามขั้นตอนที่กระทรวงการต่างประเทศ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจ และเรียกร้องจะพบกับเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชาให้ได้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชาต้องเปิดประตูออกมาให้พูดคุยเจรจาให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจวิธีการปฏิบัติยื่นหนังสือเอกสารคัดค้าน จนกลุ่มผู้ชุมนุมเกิดความพอใจจึงได้แยกย้ายกันกลับ

          ด้านนายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ได้กล่าวถึงกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยว่า การแสดงความคิดเห็นใดๆ ทำได้โดยการยื่นหนังสือแสดงการคัดค้าน แต่ขอให้อยู่ในขอบเขตโดยมีความสงบเรียบร้อย ไม่ละเมิดสิทธิ์ เนื่องจากภาพข่าวดังกล่าวมีผู้ชมทั้งในประเทศไทย กัมพูชาและประเทศที่สาม ถ้าไทยสามารถดำเนินการได้อย่างเรียบร้อยก็แสดงว่าไทยมีวุฒิภาวะ

          ต่อข้อถามว่าหวั่นเกรงว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเหตุการจลาจลเผาสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงพนมเปญเมื่อปี 2546 หรือไม่ อธิบดีกรมสารนิเทศกล่าวว่า ประวัติศาสตร์ช่วยเตือนใจว่าความรักชาติหรือชาตินิยมจำเป็นต้องมีขอบเขต คือไม่นำไปสู่เรื่องที่ไม่มีเหตุผล ไทยระมัดระวังอยู่แล้วจากประสบการณ์ในอดีต และหวังว่าการชุมนุมในประเทศไทยเพื่อประท้วงการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารจะไม่นำไปสู่การยั่วยุให้กับชาวกัมพูชา 

          โดยนายธฤตยอมรับว่า ขณะนี้ทางการกัมพูชาเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 10 นาย จากเดิมที่มีเพียง 2-3 นายมาประจำการหน้าสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงพนมเปญ เนื่องจากวันที่ 27 กรกฎาคม จะเป็นวันเลือกตั้งทั่วไปของกัมพูชา และตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา เริ่มมีขบวนรถออกรณรงค์หาเสียงอย่างเต็มรูปแบบ ทางการกัมพูชาจึงต้องระวังเหตุให้สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงพนมเปญ

         ทางด้านเอเอฟพีรายงานวันที่ 27 มิถุนายน ว่ารัฐบาลกัมพูชา โดยนายฮอร์ นัมฮง รมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่า การนำเรื่องเขาพระวิหารไปเป็นประเด็นทางการเมืองในไทย อาจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศระหว่างไทยกับกัมพูชา

          "พรรคการเมืองในไทยไม่ควรหาประโยชน์จากเรื่องเขาพระวิหารเป็นการต่อสู้ภายในประเทศ เพราะนั่นอาจทำลายความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีระหว่างสองประเทศ" นายฮอร์ นัมฮง กล่าว

          รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชากล่าวด้วยว่า แผนที่เขาพระวิหารที่กัมพูชานำไปยื่นขอจดเป็นมรดกโลกต่อยูเนสโกนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชายแดนแม้แต่น้อย ประเทศไทยไม่ได้เสียพื้นที่ในดินแดนแต่อย่างใด โดยย้ำว่า "ประเทศไทยจะไม่เสียดินแดนแม้แต่เซนติเมตรเดียว"



ข้อมูลจาก

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ม็อบฮือบุก สถานทูตเขมร เหตุเขาพระวิหาร อัปเดตล่าสุด 28 มิถุนายน 2551 เวลา 22:05:04 8,671 อ่าน
TOP