หนุ่มใหญ่เจ้าของเต็นท์รถเมืองปากน้ำโพ จ่อยิงเด็กหญิง 14 ดับ ก่อนฆ่าตัวตายหนีความผิดสยอง 2 ศพ เผยแอบส่งเสียเหยื่อ พร้อมตามไปรับ-ส่งถึงโรงเรียนทุกวัน ช่วงหลังระแวงมีหนุ่มๆ รุ่นเดียวกันมาติดพันหลายคน แถมก่อนวันเกิดเหตุนักเรียนสาวอ้างลงไปเยี่ยมญาติที่จังหวัดชุมพร เสี่ยตามมาเจอที่บ้านยาย จึงเกิดทะเลาะนักเรียนสาวด้วยความหึงหวง กระทั่งลงมือก่อเหตุสยอง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 มิถุนายน ร.ต.อ.รัฐกุล ก๋าคำ ร้อยเวร สภ.เมืองนครสวรรค์ รับแจ้งมีเหตุยิงกันตาย 2 ศพ ที่บริเวณหมู่ 6 บ้านช่อกระถิน ต.หนองปลิง จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ธำรง จิกิตศิลปิน หัวหน้าสถานีย่อยหนองปลิง พ.ต.ท.พิธาน ขวัญเมือง รองผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และพ.ญ.เมธาวี ปัญญานรกุล แพทย์เวรโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ หน่วยกู้ภัย ไปยังที่เกิดเหตุเป็นสวนไผ่ทางเข้าบ้านเลขที่ 310/12 หมู่ 6 ต.หนองปลิง อ.เมือง นครสวรรค์
บริเวณใต้ต้นตะขบพบศพผู้เสียชีวิต 2 ศพ ห่างกันประมาณ 1 เมตร สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ เบอร์ 12 บริเวณศีรษะมันสมองกระจายเลือดนองพื้นทั้งคู่ กะโหลกศีรษะกระเด็นกระจัดกระจาย เป็นที่หวาดเสียว และห่างจากศพทั้งคู่ประมาณ 3 เมตร พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สภาพใหม่ สีน้ำเงินขาว หมายเลขทะเบียน ขฉท 366 นครสวรรค์ ตรวจค้นใต้เบาะรถ พบลูกกระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 2 นัด
ต่อมาทราบว่าศพผู้ชาย คือนายเสริม จันทร์สุข อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 7 ต.เขาทอง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ มีอาชีพขายรถมือสอง สภาพศพนอนหงายใส่เสื้อยืดคอวีแขนยาวสีดำ กางเกงสแล็กส์ขายาวสีดำ กะโหลกแตก มันสมองกระจาย สวมถุงมือสีขาวทั้งสองข้าง ข้างศพด้านซ้ายพบปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก พร้อมปลอกกระสุนเบอร์ 12 จำนวน 1 ปลอก และกระสุนที่ยังไม่ได้ใช้ตกอยู่ด้านขวา 1 นัด ใกล้กันพบศพเด็กหญิงจุติพร นพรัตน์ หรือไอซ์ อายุ 14 ปี นักเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนในหมู่บ้าน อยู่บ้านเลขที่ 310/7 หมู่ 6 ต.หนองปลิง อ.เมืองนครสวรรค์ สวมกางเกงขาสั้นสีขาว เสื้อแขนสั้นสีแดง นอนหงาย กะโหลกศีรษะเปิด มันสมองร่วงลงไปในกะละมังพลาสติกที่ใส่หน่อไม้จำนวนมาก
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายเสริม เปิดเต็นท์ขายรถมือสอง คบหากับเด็กหญิงจุติพร มาเป็นเวลานานกว่า 2 ปี โดยไปรับส่งที่โรงเรียนเป็นประจำ ซึ่งเด็กหญิงจุติพร บอกกับครูว่าเป็นญาติ ก่อนเกิดเหตุ 2-3 วัน นายเสริมไปโรงเรียนไม่พบเด็กหญิงจุติพร จึงโวยวายและถามครูว่าเด็กหญิงจุติพรไปไหน ครูบอกว่าญาติแม่เด็กป่วยมารับไปเยี่ยมที่จังหวัดชุมพร นายเสริมต่อว่าครูให้กลับไปได้อย่างไร เพราะปกติตนเองมารับและกลับออกไป จนกระทั่งเช้าวันนี้ 28 มิถุนายน ประมาณ 06.00 น. นายเสริมมาหาเด็กหญิงจุติพรที่บ้านซึ่งอยู่กับยาย คือนางสำรวย ศรีเพชร อายุ 60 ปี หลังจากนั้นผู้เป็นยายขอตัวไปเก็บหน่อไม้ในสวน ต่อมา 07.00 น. นางสำรวยได้ยินเสียงปืนดัง 2 นัด แต่ไม่คิดอะไร เพราะคิดว่าชาวบ้านคงจะยิงนกกัน จึงขุดหน่อไม้ต่อ แต่พอกลับมาถึงบ้านพบศพหลานสาว และนายเสริมนอนเสียชีวิต จึงโทรแจ้งตำรวจ
หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า นายเสริมน่าจะเป็นคนยิงเด็กหญิงจุติพร ก่อนที่จะยิงตัวตาย ซึ่งรายละเอียดจะได้สืบสวนต่อไป จากการสอบถามนางสำรวยผู้เป็นยายไม่ได้ความกระจ่างชัดเจน เพียงแต่บอกว่าไม่เคยเห็นมีปากเสียงกัน และเพิ่งกลับมาจากเยี่ยมญาติเมื่อคืนที่ผ่านมา วันรุ่งขึ้นนายเสริมก็มาพบ และเกิดเหตุดังกล่าว
ร.ต.อ.รัฐกุล กล่าวว่า สาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว โดยนายเสริมมีครอบครัวเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว และแอบคบหากับเด็กหญิงจุติพร ต่อมาฝ่ายหญิงมีเด็กผู้ชายวัยรุ่นตามจีบอยู่หลายคน ทำให้ฝ่ายชายเกิดความหึงหวง ฝ่ายหญิงหายตัวไปทำให้ฝ่ายชายคิดมาก จึงออกตามหาจนมาพบ จึงพาไปเจรจาตกลงแล้วเกิดการทะเลาะอย่างรุนแรงจนก่อเหตุสลดดังกล่าว
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
