ตำรวจพระ แนะวิธีสังเกตพระปลอม 7 ข้อ

บิณฑบาต



ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          ทั้งย่ามใหญ่ พกแปรงสีฟันยันจีวรสกปรก ชอบนอนตามสถานีขนส่ง เปิดใจตรวจสอบพระมา 19 ปี เป็นหมื่นรูปกลับใจได้รูปเดียว เผยจับพระทำผิดใน กทม.ได้มากสุดปีละกว่า 100 ราย 80% เป็นพระเก๊ พบนั่งปักหลักบิณฑบาตในตลาดอันดับ 1 วอนประชาชนอย่าให้ทาน

          ยุคเศรษฐกิจตกต่ำยิ่งทำให้คนหันมาทำผิดกฎหมายกันมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่วงการพระสงฆ์ที่มีกลุ่มคนที่ไม่มีความละอาย หรือที่เรียกว่า "อลัชชี" หันมายึดผ้าเหลืองสวมจีวรบังหน้าเพื่อหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง พบพระเวียนเทียน-ปักหลักบิณฑบาต สร้างปัญหากวนใจตำรวจพระมากที่สุด 

          พระรัตนเมธี เจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้าจุฬามณี เจ้าคณะเขตบางซื่อ และหัวหน้าพระวินยาธิการ (ตำรวจพระ) คณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร บอกกับ "คม ชัด ลึก" ถึงการทำงานของตำรวจพระ 250 รูปทั่ว กทม.ว่า ตำรวจพระทั้งสิ้น 35 เขต แต่ละเขตจะปฏิบัติงานไม่ต่ำกว่า 5 รูป ทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยตำรวจพระมีหน้าที่ตรวจตราตามสถานีขนส่งต่างๆ อย่างสถานีขนส่งหมอชิต หัวลำโพง ส่วนใหญ่เป็นช่วงหลังเที่ยงคืน เพื่อคอยนิมนต์พระที่อาศัยหลับนอนตามสถานีขนส่งต่างๆ มาตรวจสอบและตอนเช้าช่วงพระออกบิณฑบาต หากพบพระนั่งหรือยืนปักหลักรับบิณฑบาต จะนิมนต์มาตรวจสอบ 

          ทั้งนี้ พื้นที่ที่พบพระสงฆ์ที่ทำผิดวินัยด้วยการปักหลักบิณฑบาตมากที่สุดตามตลาดใหญ่ๆ ทั่ว กทม. โดยแต่ละปีสามารถจับกุมพระที่ทำผิดหลักวินัยของสงฆ์ประมาณ 100 ราย มีรูปแบบกระทำผิดพระวินัยสงฆ์ ทั้งการแจกซองผ้าป่า เดินเคาะตามประตูบ้าน และยืน-นั่งปักหลักบิณฑบาต เป็นต้น หลังจากนิมนต์พระที่กระทำผิดวินัยสงฆ์มาพบเจ้าคณะแขวง หรือเจ้าคณะเขต และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ตรวจสอบแล้วพบพระปลอมกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ 

          "เราจะนิมนต์พระที่ยืนหรือนั่งปักหลักไปพบกับเจ้าคณะเขต หรือเจ้าคณะแขวง เพื่อให้ท่านตรวจสอบว่า เป็นพระจริงหรือพระปลอม หากเป็นพระจริงก็จะว่ากล่าวตักเตือนว่า "อย่ามาทำแบบนี้อีก" และแจ้งให้วัดต้นสังกัดทราบ หากตรวจสอบว่า ไม่ใช่พระ เป็นฆราวาสปลอมตัวมาก็จะให้สละสมณเพศ แล้วส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาแต่งกายเลียนแบบสงฆ์" พระรัตนเมธีกล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินการพระสงฆ์ที่กระทำผิดพระวินัย

          แต่ทว่าการทำงานของตำรวจพระต่อกรณีนิมนต์พระที่ยืนหรือนั่งปักหลักบิณฑบาตมาตรวจสอบว่าเป็นพระจริงหรือพระปลอมไม่ง่ายนัก พระรัตนเมธีบอกว่า การเวียนเทียน การนั่งหรือยืน ปักหลักบิณฑบาต ซึ่งเป็นลักษณะความผิดที่พบมากที่สุดนั้น เพราะเกิดจากคนที่ไม่ใช่พระมักฉวยโอกาส มองเห็นรายได้จากอาหารและปัจจัยที่ประชาชนมีจิตศรัทธาถวายพระสงฆ์เป็นช่องทางทำมาหากินโดยหลอกลวงประชาชน โดยที่ประชาชนไม่รู้ว่าเป็นพระจริงหรือพระปลอม

          "โยมท่านใดที่จะทำบุญตักบาตรพระ ถ้าเห็นพระนั่งอยู่กับเก้าอี้ก็ดี อย่าไปใส่บาตรเลย พระเวลาบิณฑบาตจะต้องเดินตามลำดับ ไม่ยืนที่ใดที่หนึ่งประจำ หรือมีพระยืนรออยู่ มีโยมยืนอยู่การนั่งผิดแน่นอน ไม่ถูกหลักพระวินัย ปัจจุบันก็มีนั่งอยู่ พระพุทธองค์เคยสอนไว้ เวลาให้ทานต้องเลือกให้ เลือกให้แก่บุคคลที่ควรให้มันจึงจะได้บุญ อยากให้ประชาชนแจ้งมาแต่โยมบางคนกลัวทำบาป คนที่คิดแบบนั้นทำบาปแล้วต้องแจ้ง จึงถือว่าทำบุญ กำจัดสิ่งไม่ดีออกจากศาสนาจะบาปได้อย่างไร" หัวหน้าพระวินยาธิการกล่าว

          แต่ขณะเดียวกัน แม่ค้าบางรายที่ขายของทำบุญใส่บาตรมีส่วนรู้เห็นต่อพฤติกรรมหลอกลวงประชาชน เพราะพระที่ยืนบิณฑบาตอยู่อาจเป็นสามี หรือญาติของแม่ค้านั่นเอง เมื่อพระรับของใส่บาตรแล้วก็เวียนเทียนอาหารไปขายใหม่ ซึ่งตำรวจพระแสดงตัว เข้าไปนิมนต์พระรูปนั้นมาตรวจสอบก็ถูกแม่ค้าต่อว่าเสียๆ หายๆ จนทำให้ตำรวจพระและเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่กล้าเข้าไปนิมนต์มาพระรูปนั้นมาให้เจ้าคณะตรวจสอบ

          "เจ้าหน้าที่ตำรวจ เคยถูกแม่ค้าตะโกนต่อว่า รังแกพระ โจรผู้ร้ายเยอะแยะไม่ไปจับมาจับพระ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและตำรวจพระต้องอับอาย แทนที่พระปลอมจะอับอาย และเมื่อปีที่แล้วมีคนปลอมเป็นพระมารับบาตรปกติ เมื่อได้อาหารก็หมุนเวียนให้แม่ค้ารายนั้น ซึ่งลงทุนขายอาหารแค่นิดเดียว เพราะสามีเป็นพระได้อาหารก็หมุนเวียนขาย ส่วนลูกก็ให้เป็นเณร" พระรัตนเมธีแฉเล่ห์อลัชชี

          หัวหน้าพระวินยาธิการ ตั้งข้อสังเกตเบื้องต้นเกี่ยวกับพระที่ไม่น่าเลื่อมใสไว้ 7 ประการ คือ 1.ย่ามใหญ่ ซึ่งภายในย่ามอาจมีผ้าขนหนู เสื้อผ้า สบู่ ยาสีฟัน อย่างครบคันรวมอยู่ในย่าม 2.จีวรไม่สะอาด เพราะต้องนอนตามสถานีรถไฟ 3.มีบาตรและกลดพระติดตัวในย่านชุมชนเมือง ซึ่งกิจของพระธุดงค์ต้องเดินห่างจากชุมชนเมือง 25 กม.เป็นการเดินในป่าไม่ใช่ในเมือง 4.นอนมั่วทุกแห่ง 5.แหล่งที่พักไม่แน่นอน 6.สัญจรอยู่ตลอดเวลา 7.อธิฐานพรรษาไม่ถูก ไม่มีใบสุทธิ

          จากประสบการณ์เป็นตำรวจพระมา 19 ปีของพระรัตนเมธี ประสบพบเจอพระจริงและพระปลอมทำผิดพระวินัยมานับหมื่นๆ ราย แต่มีพระที่กลับใจเป็นพระที่ดีได้เพียงรายเดียวเท่านั้น

          "เคยเจอพระร่างใหญ่ เป็นคนห่ามๆ แต่เอาจริงเอาจัง บวชเรียนมาถูกต้อง แต่มีพฤติกรรมทำผิดพระวินัยจึงจะเข้าไปคุย แต่พระรูปนั้นนึกว่าจะไปรวบตัว เขาล็อกคอพระเจ้าหน้าที่ก่อนเลย ซึ่งพระรูปนี้ควบคุมยาก เราจึงเอาเขามาเป็นพวกส่งให้ไปอยู่อีกวัดหนึ่ง ตอนนี้เขาเรียนจบประโยค 3 แล้ว เป็นตำรวจพระมา 19 ปี ตรวจสอบพระมาหมื่นๆ รูป แต่มีพระกลับใจเป็นพระดีได้รูปเดียว" หัวหน้าพระวินยาธิการกล่าวทิ้งท้าย



ข้อมูลจาก
 

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตำรวจพระ แนะวิธีสังเกตพระปลอม 7 ข้อ อัปเดตล่าสุด 2 กรกฎาคม 2551 เวลา 09:34:26 14,653 อ่าน
TOP
x close