x close

มามองโลกในแง่ดีกันดีกว่า …

ความสุข


ข้อมูลจาก Forward mail
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

          ชายคนหนึ่งเคยลงโทษลูกสาววัย 5 ขวบของเขา 
          เพราะนำเงินไปซื้อกระดาษห่อของขวัญสีทองม้วนหนึ่งซึ่งมีราคาแพง 
          ในขณะที่การเงินที่บ้านฝืดเคือง


          และเขาก็อารมณ์เสียอีกครั้ง 
          เมื่อลูกสาวของเขา นำกระดาษสีทองราคาแพงนั้น 
          มาห่อกล่องของขวัญ เพียงเพื่อตกแต่งไว้ใต้ต้นคริสต์มาส


          แต่กระนั้น . . . 
          ลูกสาวตัวน้อยก็ได้มอบกล่องของขวัญนั้นให้พ่อของเธอในเช้าวันรุ่งขึ้น 
          และพูดว่า "นี่สำหรับพ่อค่ะ"


          พ่อของเธอกระอักกระอ่วนกับอาการที่ได้แสดงออกไปก่อนหน้านี้ 
          แต่แล้วความโกรธก็ได้พุ่งพล่านขึ้นอีกครั้ง
          เมื่อเขาพบว่า มันเป็นเพียงกล่องเปล่า


          เขาพูดด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราดว่า 
          "ลูกไม่รู้จริงๆ อย่างนั้นหรือว่า การจะให้ของขวัญใคร 
          มันจะต้องมีอะไรอยู่ในกล่องของขวัญด้วย?"


          เด็กน้อยมองไปที่พ่อของเธอด้วยน้ำตา 
          และพูดว่า "พ่อจ๋า มันไม่ใช่กล่องเปล่าเลย หนูเป่าจูบเข้าไปจนเต็ม"


          ชายคนนั้นสะอึก ตัวชาด้วยความเสียใจ 
          เขาทรุดตัวลงแล้วโอบกอดลูกสาวไว้แน่น 
          เขาขอให้ลูกสาวยกโทษให้เขา กับท่าทางโกรธเกรี้ยวเกินเหตุของเขา


          ต่อมาไม่นานอุบัติเหตุก็ได้คร่าชีวิตลูกสาวของเขาไป 
          และว่ากันว่า เขาเก็บกล่องของขวัญสีทองล้ำค่านั้น 
          ไว้ข้างเตียงตลอดชีวิตของเขาเลยทีเดียว


          เมื่อใดก็ตาม ที่เขารู้สึกท้อแท้ใจ 
          หรือต้องเผชิญกับปัญหาที่ยากเย็นแสนเข็น เขาจะเปิดกล่องใบนี้


          เพื่อหยิบจูบในจินตนาการ ขึ้นมาหนึ่งจูบ 
          แล้วรำลึกถึงความรักของลูกน้อย ที่ได้ใส่จูบนั้นไว้ให้เขา


          ในความเป็นจริง ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง 
          พวกเราทุกคนล้วนได้รับกล่องของขวัญสีทอง
          ซึ่งบรรจุด้วยความรัก ที่ปราศจากเงื่อนไข
          และรอยจูบจากลูกๆ ครอบครัว และ เพื่อนๆ 
          ไม่มีสมบัติใด ล้ำค่าไปกว่านี้อีกแล้ว


ตอนนี้คุณมี 2 ตัวเลือกแล้วล่ะ คุณจะ


          1. ส่งข้อความนี้ต่อไปยังเพื่อนๆ และ ญาติๆ ของคุณ 
          2. ลบมันทิ้งซะ 
          แล้วทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรกระทบใจคุณเลยแม้แต่น้อย


          อย่างที่เห็นนี่ล่ะ ฉันได้เลือกข้อ 1 ไปแล้ว 
          เพื่อนคือของขวัญ ผู้ซึ่งพยุงให้เรายืนขึ้นด้วยเท้า 
          เมื่อปีกของเราไม่รู้ว่าจะบินอย่างไร


          มองโลกในแง่ดี และปฏิบัตดี 
          ฉันขอขอบคุณสำหรับ....


          สำหรับสามีที่นอนกรนทั้งคืน 
          เพราะนั่นหมายถึง เขากำลังหลับอยู่ที่บ้านกับฉัน ไม่ใช่กับผู้หญิงอื่น


          สำหรับลูกสาววัยรุ่นที่กำลังบ่นเรื่องล้างจานอยู่ 
          เพราะนั่นหมายถึงเธออยู่บ้าน ไม่ใช่ที่ถนน


         สำหรับภาษีที่ต้องเสีย เพราะนั่นหมายถึงฉันมีงานทำ


          สำหรับข้าวของต่างๆ ที่ต้องคอยเก็บหลังงานปาร์ตี้ 
          เพราะนั่นหมายถึงฉันถูกห้อมล้อมด้วยเพื่อนฝูง


          สำหรับเสื้อผ้าที่พอดีจนเกือบจะคับเกินไป 
          เพราะนั่นหมายถึงฉันยังมีกิน


          สำหรับเงาที่คอยมองดูฉันทำงาน 
          เพราะนั่นหมายถึง ฉันกำลังได้รับแสงแดด


          สำหรับพื้นที่ต้องคอยขัดถู และหน้าต่างที่ต้องทำความสะอาด 
          เพราะนั่นหมายถึงฉันมีบ้านให้ดูแลรักษา


          สำหรับคำบ่นต่างๆ ที่มีต่อรัฐบาล 
          เพราะนั่นหมายถึงเรามีอิสระ ในการที่จะแสดงความคิดเห็น


          สำหรับที่จอดรถ ที่อยู่ไกลสุดของลานจอดรถ 
          เพราะนั่นหมายถึงฉันสามารถเดินได้ และฉันมีรถ


          สำหรับผ้ากองโตที่รอการซักรีด 
          เพราะนั่นหมายถึงฉันมีเสื้อผ้าสวมใส่


          สำหรับความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ทุกสิ้นวัน 
          เพราะนั่นหมายถึงฉันสามารถทำงานหนักได้


          สำหรับเสียงปลุกในทุกๆ เช้า 
          เพราะนั่นหมายถึงฉันยังมีชีวิตอยู่


          และสุดท้าย .. .
          สำหรับอีเมล์ที่ส่งมาหาฉันมากมาย 
          เพราะนั่นหมายถึงฉันมีเพื่อนๆ



 

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มามองโลกในแง่ดีกันดีกว่า … อัปเดตล่าสุด 2 กรกฎาคม 2551 เวลา 14:21:28 25,979 อ่าน
TOP