นายมงคล พิพัฒน์สัตยานุวงศ์ นายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันราคาไข่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ 2.10 บาท ขณะที่ต้นทุนสูงถึง 2.60 บาท ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ต้องประสบภาวะขาดทุนกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่
สาเหตุหลักอยู่ที่ผลผลิตไข่ไก่มีมากเกินความต้องการบริโภค โดยขณะนี้มีปริมาณไข่ไก่ผลิตออกสู่ตลาดวันละ 27-28 ล้านฟอง ขณะที่อัตราการบริโภคอยู่ที่วันละ 25-26 ล้านฟอง ทำให้เกิดปริมาณไข่ส่วนเกินในประเทศวันละประมาณ 2 ล้านฟอง และถึงแม้จะมีบริษัทและผู้เลี้ยงไก่ไข่รายใหญ่เสียสละเร่งระบายสต็อกไข่ไก่ส่วนเกินด้วยการส่งออกไข่ไก่วันละประมาณ 1 ล้านฟอง เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพราคาภายในประเทศก็ตาม แต่ก็ยังมีไข่ส่วนเกินคงค้างอยู่ในประเทศประมาณวันละ 1 ล้านฟอง ทำให้เกษตรกรหลายรายต้องหาทางออกด้วยการยอมขายในราคาขาดทุน
ขณะเดียวกันอัตราการบริโภคของคนไทยดังกล่าวก็มีแนวโน้มลดลงจากการรัดเข็มขัดของประชาชนตามภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา สถานการณ์เช่นนี้นายกสมาคมฯ กล่าวว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ควรจะหันหน้าเข้าหากันเพื่อร่วมกันแก้ปัญหา
ด้านนายสุพัฒน์ ศรีธนาธร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านการตลาด บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการเพิ่มมูลค่าไข่ไก่สด โดยบรรจุแพ็คขายภายใต้แบรนด์ซีพีจับกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพ นอกเหนือไปจากวิธีดังกล่าวแล้ว บริษัทยังเน้นนโยบายการรณรงค์กระตุ้นการบริโภคไข่ไก่ โดยใช้งบประมาณในการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ไม่ต่ำกว่า 20-30 ล้านบาทต่อปี
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต