สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
เมื่อวานนี้ (17 กรกฎาคม) เครือข่ายพันธมิตร นำโดยนายวีระ สมความคิด ได้เคลื่อนขบวนรถยนต์กว่า 100 คัน เดินทางไปที่ผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เพื่อเข้าไปกดดันให้รัฐบาลและทหารออกมาปกป้องอธิปไตย โดยนัดรวมพลกันที่ถนนทางขึ้นเขาพระวิหาร บริเวณศาลหลักเมือง จ.ศรีสะเกษ เมื่อขบวนรถเข้าสู่ถนนหมายเลข 221 กันทรลักษ์-เขาพระวิหาร กม.20 มีชาวบ้านจาก ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ กว่า 100 คน นำแผงเหล็กมาปิดกั้นไม่ให้ขบวนรถผ่าน พร้อมชูป้ายข้อความว่า "เราต้องการความสมานฉันท์ ไม่ต้องการความขัดแย้ง และจังหวัดศรีสะเกษเราดูแลกันเองได้" จากนั้นแกนนำพันธมิตรได้เจรจาขอเปิดเส้นทางจนสามารถผ่านไปได้
ต่อมาเมื่อขบวนรถเคลื่อนมาได้อีกประมาณ 10 กิโลเมตร ก็เจอด่านสกัดอีกครั้ง โดยชาวบ้านจาก ต.เสาธงชัย ประมาณ 150 คน นำแผงเหล็กมาปิดกั้น โดยมีตำรวจจาก สภ.บึงมะลู และ สภ.กันทรลักษ์ จำนวน 50 นาย มาตั้งแถวหน้ากระดานเพื่อป้องกันการเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่าย จากนั้นนายวีระ เข้าไปเจรจากับชาวบ้านเพื่อขอเปิดช่องทางจราจร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เปิดช่องทางให้ โดยให้เหตุผลว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นการเจรจาระดับผู้นำของทั้งสองประเทศ จึงได้ขอร้องให้ขบวนพันธมิตรชุมนุมรอที่โรงเรียนภูมิซรอนวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์
กระทั่งเวลา 17.00 น. เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรกับชาวศรีสะเกษ โดยต่างฝ่ายต่างมีอาวุธเข้ามาทำร้ายกันจนได้รับบาดเจ็บเลือดสาดกันทั้งสองฝ่าย สาเหตุมาจากกลุ่มพันธมิตรพยายามที่จะขึ้นไปยังเขาพระวิหารที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ แต่กลุ่มม็อบชาวศรีสะเกษพยายามเข้าไปห้ามปราม เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการยั่วยุจนเกิดปัญหาบานปลายระหว่างประเทศ ทำให้ฝ่ายพันธมิตรไม่ค่อยพอใจ จึงเกิดการปะทะกันขึ้น ส่งผลให้กลุ่มพันธมิตรทั้งหญิงและชายได้รับบาดเจ็บนับสิบราย ขณะที่กลุ่มต่อต้านได้รับบาดเจ็บ 3 ราย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ 1 นาย
ด้านนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังทหารของฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาจำนวนมากเข้าไปตรึงพื้นที่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร หากปล่อยให้ประชาชนคนไทยขึ้นไปบริเวณดังกล่าว เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงสั่งให้ปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารชั่วคราว และนำรั้วมากั้นเพื่อไม่ให้ประชาชนโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวขึ้นไป เมื่อเหตุการณ์ปกติก็จะเปิดให้เข้าชมอีกครั้ง ทั้งนี้ บริเวณด้านบนของอุทยานแหงชาติเขาพระวิหาร มีทหารและตำรวจเต็มไปหมด ส่วนเจ้าหน้าที่ของอุทยานหลายสิบคน เก็บข้าวของออกจากพื้นที่แล้ว เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย