หลังเกิดเหตุคนร้ายเข้าชิงทรัพย์ปั๊มน้ำมัน-ร้านเซเว่นฯ-แฟมิลี่มาร์ท คืนเดียว 4 รายซ้อนนั้น ล่าสุดวันนี้ (19 กรกฎาคม) ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 สามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้แล้ว ที่บริเวณตรงข้ามวัดศรีบุญเรือง ถนนรามคำแหง ทราบชื่อต่อมาคือ นายนันทวุฒิ พรมใจ อายุ 30 ปี โดยตำรวจ 191 ได้วางกำลังอยู่ตามร้านสะดวกซื้อย่านรามคำแหงตลอดเส้นทาง เพราะคาดว่าคนร้ายน่าจะก่อเหตุซ้ำอีก เมื่อเห็นรถต้องสงสัยขี่มาบริเวณหน้าโรงเรียนวัดศรีบุญเรืองจึงเข้าสกัดจับ แต่คนร้ายขัดขืนไม่ยอมจอดรถให้ตรวจ จึงขับรถพุ่งชนจนล้มก่อนตามจับตัวเอาไว้ได้ เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุทั้งหมด
ทั้งนี้ พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รองผู้บัญชากการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ในวันนี้หลังจากที่คนร้ายได้ก่อเหตุไปชิงทรัพย์ร้านเซเว่นฯ ข้าง รพ.เพชรเวช ถ.เพชรบุรี ในพื้นที่ สน.มักกะสัน ซึ่งเป็นร้านสุดท้ายที่คนร้ายมาก่อเหตุ ได้เงินไป 1,150 บาท จึงได้ทำการวิทยุสกัดจับ เพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงสามารถควบคุมตัวคนร้ายไว้ได้ โดยติดตามไปจับกุมได้บริเวณฝั่งตรงข้ามวัดศรีบุนเรือง ถ.รามคำแหง จากนั้นจึงนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.มักกะสัน แล้วให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากพื้นที่ใกล้เคียง ที่เคยถูกคนร้ายก่อเหตุมาดูตัวอีกที
"โดยเบื้องต้นคนร้าย คือนายนันทวุฒิ พรหมใจ อายุ 26 ปี ตามบัตรประชาชนมีภูมิลำเนาอยู่ย่านบางชัน ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือเพียงคนเดียวมาโดยตลอด โดยลงมือไปทั้งสิ้น 7-8 แห่ง ได้ทรัพย์สินเป็นเงินไปร้านละไม่เกิน 2 พันบาท โดยยอมรับว่าจะนำเงินไปใช้หนี้ให้แฟน อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติ ทราบว่านายนันทวุฒิ เคยมีประวัติติดยาเสพติดด้วย" รองผู้บัญชากการตำรวจนครบาล กล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รองผู้บัญชากการตำรวจนครบาล เปิดเผยเพิ่มเติมว่า หลังจากสอบสวน พร้อมสรุปสำนวนคดีแล้วพบว่า ผู้ต้องหามีคดีจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อติดตัวรวม 9 คดี โดยต่อจากนี้ก็จะแจ้งให้ผู้เสียหายในแต่ละท้องที่ เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหา ส่วนการตระเวนทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ต้องขึ้นอยู่กับตำรวจแต่ละท้องที่ว่าจะดำเนินการต่อไป
ทางด้าน นายนันทวุฒิ ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์เพื่อต้องการนำเงินไปใช้หนี้ให้กับแฟนสาว และที่ก่อเหตุหลายครั้งในคืนเดียว เพื่อต้องการให้ได้เงินครบจำนวนที่เป็นหนี้ เพราะไม่อยากก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์อีกแล้ว ตนไม่ได้ตั้งใจจะเป็นโจร เพราะถ้าคิดจะเป็นโจรก็คงจะไปปล้นธนาคารดีกว่า เนื่องจากได้เงินเยอะกว่า แต่ที่ทำไปเพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้เท่านั้นเอง
ข้อมูลและภาพประกอบจาก