สุดยอดคุณแม่วัย 89 ปี เลี้ยงลูกชายพิการทางสมอง ศีรษะโตผิดปกติ ตาบอด - ป่วยเป็นอัมพาต วัย 58 ปี
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายเฉลิม เกียรติบรรจง นักจัดรายการวิทยุชุมชน ว่าพบยอดคุณแม่ชราภาพอายุ 89 ปี เลี้ยงดูลูกชายที่พิการทางสมอง มีสภาพศีรษะโต ตาบอด 1 ข้าง มาแต่กำเนิด และป่วนเป็นอัมพาต ขณะที่ผู้เป็นแม่กำลังตกงาน เนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรมแย่งอาชีพเหลาไม้ปิ้งไก่ ไม้เสียบลูกชิ้นไม่มีคนรับซื้อ
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว ที่หมู่บ้านปากแพรก หมู่ 3 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยแยกจากถนนหน้าโรงงานแพนเวย์มาตามทางลูกรังประมาณ 4 กิโลเมตรเศษ พบบ้านไม้เดี๋ยวชั้นเดียวยกสูงจากพื้นเกือบ 2 เมตร ฝาบ้านตีด้วยไม้แผ่นพอกันแดดกันลมแต่ฝนสาดเข้าได้ ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำปราจีนบุรี และบ้านหลังดังกล่าวพบ 2 แม่ลูกอาศัยตามลำพัง 2 คน ทราบชื่อ คือ นางนาค ปองชัย อายุ 89 ปีเลขที่ 8/1 หมู่ 3 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และบุตรชายที่พิการทางสมอง พร้อมศีรษะโตผิดขนาดต่างจากคนปกติทั่วไปเกือบ 1 เท่าตัว ตาขวาบอดและเป็นอัมพาต มีผู้เป็นแม่คอยบีบนวดคลายเส้นไม่ให้ยึดอยู่ข้างๆ
นางนาค กล่าวว่า "มีลูกรวมทั้งหมด 6 คน ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว 3 คน เหลือ 3 คน ลูกชายที่พิการนี้เป็นลูกคนสุดท้อง อยู่กับดิฉันตามลำพัง ส่วนลูกที่เหลืออีก 2 คนแยกย้ายไปทำมาหากินที่ จ.ลพบุรี และ จ.สระแก้ว เนื่องจากฐานะยากจน สามีนั้นเสียชีวิตตั้งแต่ลูกคนเล็กอายุได้ 11เดือน"
"ที่ผ่านมาหลังสามีเสียชีวิตได้รับจ้างทำนา รับจ้างทั่วไปล่าสุดอายุมากทำงานหนักไม่ไหว ได้รับจ้างเหลาไม้ปิ้งไก่ ไม้เสียบลูกชิ้นส่งแม่ค้าในตลาด แต่ภายหลังมีโรงงานอุตสาหกรรมทำไม้ลูกชิ้น ไม้ปิ้งไก่ส่งมาขายแม่ค้าจึงไม่รับซื้อ ตนจึงตกงานหมดอาชีพทำมาหากิน อาศัยได้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ได้รับเดือนละ 500 บาท โดยจะมีกำหนดออก 6 เดือน/ครั้งเลี้ยงลูกและชีวิตตัวเองให้อยู่รอดไปวันๆ พร้อมๆ กับความเมตตาที่เพื่อนบ้านหยิบยื่นให้ด้วยความสงสาร
นอกจากลูกชายที่พิการแล้ว ดิฉันเองยังป่วยด้วยโรคลำไส้อุดตัน ผ่าตัดทางหน้าท้องในการถ่ายอุจจาระทางสาย โดยป่วยมาระยะกว่า 20 ปี พร้อมโรคความดันโลหิตสูง ส่วนลูกชายพิการมาแต่กำเนิด แรกเกิดลองจับที่ศีรษะลูกก็อ่อนยุบคล้ายมีน้ำอยู่ ต่อมาภายหลังได้โตขึ้นๆ เวลานั่ง ยืน จะล้มลงตลอดจนถึงอายุ 4 ขวบ มีอาการพิการทางสมองพร้อมกับตาขวาบอดพิการ ล่าสุดก่อนหน้านี้ 3 เดือนลูกชายได้ป่วย และเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ ดิฉันต้องรับภาระแบกใส่หลังพาเข้าห้องน้ำ เช็ดปัสสาวะ คอยดูแลบีบนวดไม่ให้เส้นยึดตาย และนำไม้ไผ่มาตีเป็นราวเกาะให้ลูกชายหัดเดิน" นางนาคกล่าว
พร้อมกันนี้นางนาค ยังกล่าวว่า "ที่ผ่านมาไม่เคยพาลูกชายไปหาหมอรักษาอาการ เนื่องจากฐานะยากจนต้องดิ้นรนเลี้ยงลูกๆ มีเพียงหมอสถานีอนามัยที่แวะเวียนมาดูอาการดิฉันและลูกชายบ้าง เป็นห่วงลูกชายว่า หากดิฉันเสียชีวิตก่อนแล้วเขาจะอยู่อย่างไร กับใคร ทุกวันนี้อยากให้ลูกชายหายจากอัมพาตและพอเดินได้บ้าง เป็นสิ่งที่คนเป็นแม่เป็นห่วง แม้ทุกวันนี้จะมีเพื่อนบ้านแวะเวียนมาดูแลบ้าง แต่ทุกคนต่างดิ้นรนทำมาหากินกัน และขณะนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานราชการที่เข้ามาดูแลช่วยเหลือ" นางนาคกล่าวในที่สุดอย่างเป็นห่วงลูกชาย
อ่าน ประวัติวันแม่ บทความวันแม่ กลอนวันแม่ และข้อมูลเกี่ยวกับวันแม่ อื่นๆ อีกมากมาย คลิกเลย
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
