ทุกครั้งที่นางเอกเข้าร้านอาหาร "น้ำส้ม" จะถูกวางเป็นเครื่องดื่มประกอบฉากสำหรับนางเอกทุกครั้งไป "น้ำนางเอก" จึงกลายเป็นชื่อเล่นอีกชื่อหนึ่งของน้ำส้ม ที่ทุกคนทราบดีว่า มันให้รสชาติหวานชื่นใจและแอบเติมคะแนนมีสาระให้ เพราะอุดมด้วยวิตามินซี (หลายคนเชื่ออย่างนั้น)
แต่ช้าก่อนอย่าเพิ่งรีบเชื่อไปเสียทั้งหมด จากข้อมูลวิชาการของ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่คุณทัศนีย์ แน่นอุดร เรียบเรียงไว้ใน วารสารฉลาดซื้อ ฉบับที่ 89 เดือนกรกฎาคม 2551 กลับพบว่าจากการทดสอบ น้ำส้มและน้ำรสส้ม 22 ยี่ห้อ ในท้องตลาด มักจะมีปริมาณน้ำตาลอยู่มาก โดยกลุ่มยี่ห้อที่มีน้ำตาลสูงมากนั้นมีปริมาณถึง 15 ช้อนชาต่อขวดขนาด 330 มล.
และเมื่อทดสอบหาวิตามินซีในน้ำส้มและน้ำรสส้มเหล่านั้นแล้วก็พบว่า ส่วนใหญ่ไม่มีวิตามินซีเหลืออีกแล้ว หรือไม่ก็เหลือในปริมาณที่น้อยมาก มิหนำซ้ำบางยี่ห้อที่ระบุว่ามีการเติมวิตามินซี ก็ยังไม่พบอีกด้วย
ข้อเท็จจริงมีอย่างนี้แล้ว "นางเอก" จะทำอย่างไรดี วารสารฉลาดซื้อแนะว่า หากต้องการดื่มน้ำส้มก็ควรจะเลือกขวดหรือกล่องขนาดเล็กหรือแบ่งดื่ม เพื่อไม่ให้ได้รับน้ำตาลมากเกินไป อย่างน้ำส้มหรือน้ำรสส้มขนาดบรรจุ 180-350 มล.นั้น หากดื่มหมดในครั้งเดียวจะทำให้เราได้รับน้ำตาลสูงมาก ทั้งๆที่ปริมาณน้ำตาลที่นักโภชนาการแนะนำต่อวันนั้นอยู่ระหว่าง 6-8 ช้อนชาแต่น้ำส้มบางยี่ห้อมีปริมาณน้ำตาลถึง 10 กว่าช้อนชา แสดงว่าน้ำส้มพร้อมดื่มจึงไม่น่าจะใช่ทางเลือกเพื่อสุขภาพสำหรับนางเอกเสียแล้ว
ส่วนเรื่องวิตามินซีนั้นควรทราบไว้ด้วยว่า หากน้ำส้มผสมวิตามินซี ก็ไม่ควรมาพร้อมกับวัตถุกันเสีย (เบนโซอิก) เพราะมีข้อมูลชวนสงสัยว่า หากทั้งสองสิ่งนี้มาอยู่รวมกันอาจทำให้เกิดเป็นสารพิษส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ที่สำคัญอย่าเข้าใจผิดว่า เมื่อเป็นน้ำส้มหรือน้ำรสส้มพร้อมดื่มแล้วจะต้องมีวิตามินซีสูงเสมอไป ขนาดบางยี่ห้อบอกว่าเติมวิตามินซี ก็ยังหาแทบไม่เจอเลยด้วย
ต้องเข้าใจเรื่องจริงที่ว่าวิตามินซีนั้นถูกทำลายได้ ง่ายมาก และกว่าจะมาถึงมือผู้บริโภคผลิตภัณฑ์เหล่านั้นต้องผ่านการขนส่ง การจัดเก็บในที่ต่างๆ โดนทั้งแสง และความร้อนส่งผลให้ปริมาณวิตามินซีลดลงไปเรื่อยๆ จนไม่เหลือค่าอะไรให้วัดได้อีกเลย
ดังนั้นแล้วก็หวังว่า "นางเอก" จะได้ฉลาดขึ้น และไม่คาดหวังอะไรสูงเกินไปกับน้ำส้มขวดน้อยๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก art4linux.org
