x close

30 เหตุผล ที่ควรจะชม โอลิมปิก 2008

ภาพสายรุ้งถูกจุดระหว่างพิธีเปิด


          เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ จีนทำ...เพราะโอกาสเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกของประเทศใดสักประเทศโดยเฉพาะประเทศเอเชียไม่ได้มีมาบ่อยนัก กว่าจะเดินทางมาถึงวันนี้ได้จีนต้องผ่านอุปสรรคมากมาย แต่อีกไม่กี่วันแล้วที่คบเพลิงโอลิมปิกจะถูกจุดขึ้น นี่คือเหตุและผลที่จะมาย้ำเตือนว่า...คุณไม่ควรพลาดด้วยประการฉะนี้...


1. อาสาสมัคร


          จำนวนอาสาสมัครในปักกิ่งเกมส์มีมากที่สุดเท่าที่เคยมีในประวัติศาสตร์โอลิมปิก คือ 100,000 คน ซึ่งอาสาสมัครนี้รวมเอาอาสาสมัครของโอลิมปิก 70,000 คน กับพาราลิมปิก 30,000 คนที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้วเป็นอย่างดี ไม่ว่าผู้ชมจะมาจากส่วนใดของโลก เหล่าอาสาสมัครก็พร้อมที่จะคอยให้ความช่วยเหลือทั่วปักกิ่ง


          และความรับผิดชอบเพิ่มเป็นเท่าตัว ปี 2008 นี้เป็นครั้งแรกที่คณะกรรมการโอลิมปิกตัดสินใจใช้ออร์แกไนเซอร์เดียวในการจัดโอลิมปิกและพาราลิมปิก ในชื่อ The Beijing Organizing Committee for the Games of the XXIX Olympiad (BOCOG) โดยหน้าที่รับผิดชอบคือจัดการงานทั้ง 2 ให้ยิ่งใหญ่ทัดเทียมกัน


2. ครั้งแรกที่ถ่ายทอดสดในระบบดิจิทัล


          เทคโนโลยีไฮเดฟ (high-definition) ถูกนำมาใช้กับการถ่ายทอดสดทางทีวีในเหตุการณ์ต่างๆ และพิธีเฉลิมฉลองด้วยระบบเสียงรอบด้าน 5.1 และจอภาพคุณภาพให้ความคมชัด ทั้งหมดจะปรากฏให้เห็นในปักกิ่งเกมส์


3. จอทีวีบิ๊กบึ้ม


          มีสถิติว่าผู้ชมจำนวน 4 พันล้านคนที่คอยเฝ้าชมปักกิ่งเกมส์ โดย Beijing Olympic Broadcasting (BOB) ผู้ถ่ายทอดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ จะผลิตรายการกว่า 5,400 ชั่วโมง ตลอดช่วงเวลาแข่งขัน 17 วัน ซึ่งมากกว่าครั้งที่ถ่ายทอดเมื่อครั้งที่แล้วที่กรุงเอเธนส์ถึง 2,000 ชั่วโมงเลยทีเดียว


4. ชมแบบมัลติมีเดีย


          นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ The International Olympic Committee (IOC) ได้แยกการขายสิทธิในการถ่ายทอดให้กับสื่อต่างๆ อย่างโทรทัศน์และสื่อใหม่อย่างอินเทอร์เน็ต และเครือข่ายมือถือ โดย CCTV นั้นได้รับสิทธิในการถ่ายทอดการแข่งขันทางทีวี ในขณะที่ CCTV.com ประมูลการถ่ายทอดผ่านทางอินเทอร์เน็ตในประเทศและมือถือไป นอกจากนั้น CCTV.com ยังเซ็นสัญญากับ Sohu.com เพื่อแชร์คอนเทนต์กันอีกด้วย


5. กองทัพสื่อที่ใหญ่ที่สุด


          ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์กว่า 40,000 ชีวิต ที่จะเดินขวักไขว่ในงานนี้ รวมไปถึงผู้สื่อข่าวที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากสื่อวิทยุ-โทรทัศน์อีกประมาณ 21,600 คน นอกจากนั้น Beijing International Media Center ยังอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งจำนวน 10,000 คนร่วมทำงานในบริเวณรอบๆ อีก (นับรวมๆ แล้วจะมีนักข่าวในงานนี้ประมาณ 7 หมื่นกว่าชีวิตเลย)


6. มีเจ้าภาพร่วมอีกจำนวนมาก


          เจ้าภาพที่จัดกีฬาปักกิ่งเกมส์ไม่ได้มีแค่ปักกิ่งเมืองเดียว และเพื่อเป็นการช่วยให้การจัดงานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ดังนั้นจึงมีเจ้าภาพร่วมในการจัดงานอีกหลายเมือง อันได้แก่ เทียนจิน, เซี่ยงไฮ้, เมืองฉินหวงเต้า ที่อยู่ใน มณฑลเหอเป่ย์ และ เชินหยาง ในมณฑลเลี่ยวหนิง เป็นสนามแข่งฟุตบอล ส่วนเมืองชายทะเลอย่างฉินเต้า ในมณฑลชานตง เป็นเจ้าภาพในการแข่งเรือใบ ส่วนฮ่องกงนั้นเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ด้านการแข่งม้ามายาวนาน และก็เครื่องอำนวยความสะดวกระดับ เฟิรสต์คลาสเอาไว้รองรับกิจกรรมทั้งหลายที่เกี่ยวกับม้า ดังนั้นฮ่องกงจึงเป็นเจ้าภาพในการจัดกีฬาเกี่ยวกับม้าทั้งหมด


7. กีฬาชนิดใหม่


          IOC ได้เพิ่มกีฬาชนิดใหม่เข้าไว้ในปักกิ่งเกมส์ คือ จักรยานวิบาก และว่ายน้ำมาราธอน 10 กิโลเมตร จักรยานวิบากชิงกัน 2 เหรียญทอง ประเภทชายและหญิง ส่วนว่ายน้ำมาราธอนแข่งกันในสวนน้ำชุนอี้ (Shunyi Water Park) ชิง 2 เหรียญทองในประเภทชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยว


8. เชียร์ลีดเดอร์


          มีเชียร์ลีดเดอร์กว่า 600 คนจากทั่วประเทศที่จะมาคอยให้ความบันเทิงผู้ชมด้วยการเต้นพื้นเมืองของจีน, กายกรรม, การแสดงกลอง, การเชิดสิงโต และการแสดงศิลปะการต่อสู้ ในระหว่างช่วงเวลาพักครึ่ง ซึ่งเชียร์ลีดเดอร์เหล่านี้ถูกคัดเลือกมาจากการแข่งขันเชียร์ลีดเดอร์ระดับประเทศและระดับท้องถิ่น


9. ปักกิ่งสีเขียว


          จากที่เป็นผู้ผลิตมลพิษอันดับต้นๆ ของโลก ปักกิ่งต้อนรับผู้มาเยือนด้วยสวนป่าโอลิมปิกขนาด 680 เฮกตาร์ประกอบด้วย ต้นไม้และทะเลสาบ ซึ่งระบบการดูแลสวนป่านี้ได้มีการหมุนเวียนระบบน้ำในการรดน้ำต้นไม้ ไม่เพียงแค่เรื่องระบบน้ำ แต่ระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ ในสวนยังใช้พลังงานแสงอาทิตย์ รีไซเคิลน้ำฝน และการประหยัดพลังงานเพื่อเน้นย้ำนโยบาย "โอลิมปิกสีเขียว" ให้ชัดเจนขึ้น ปักกิ่งก็ปลูกต้นไม้เพิ่มเป็นล้านต้นเพื่อลดกำลังของพายุทรายที่จะเกิดขึ้น อีกทั้งยังร่วมกับมณฑลเพื่อนบ้านในการลดการแผ่กระจายของแสงอาทิตย์ด้วย



10. คบเพลิงที่ส่งต่อนานที่สุดและสูงที่สุด


          กำหนดการวิ่งคบเพลิงปักกิ่งเกมส์นั้นยาวนานถึง 130 วัน และใช้ผู้คนจำนวนมากในการส่งต่อคบเพลิง ถูกตั้งเอาไว้ในยอดเขาสูงบนภูเขา Qomolangma เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เสฉวน ซึ่งทำให้เส้นทางวิ่งคบเพลิงต้องถูกตัดย่อไปเพื่อเป็นการไว้ทุกข์ให้แก่เหตุการณ์นี้


          ตัวคบเพลิงนั้นทำมาจากโลหะผสมอะลูมิเนียมและแมกนีเซียมสามารถนำไปรีไซเคิลได้ มีน้ำหนัก 985 กรัม สามารถต้านแรงลมที่ความเร็ว 65 กิโลเมตร ฝน 50 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง และใช้ก๊าซหุงต้มที่มีราคาถูกเป็นเชื้อเพลิง หลังการเผาไหม้จะไม่มีวัตถุตกค้างที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ส่วนกระถางคบเพลิงนั้นมีความสูง 130 เซนติเมตร สื่อถึงระยะเวลา 130 วันแห่งการวิ่งส่งต่อคบเพลิง มีความลึก 29 เซนติเมตร หมายถึงโอลิมปิก ครั้งที่ 29 และเสาสูง 112 เมตร คือ ระยะเวลาของการจัดโอลิมปิกครั้งแรกจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 112 ปี (ปี ค.ศ.1896)


11. ภาษาอังกฤษ 


          เมนูภาษาจีนกว่า 170 หน้า ถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษ เป็นความสำเร็จที่น่านับถืออีกอย่างของแคมเปญพูดภาษาอังกฤษของเมืองปักกิ่ง มีการใช้พ็อปสตาร์มาสอนการออกเสียงภาษาอังกฤษให้กับคนขับรถแท็กซี่ นอกจากนั้นยังมีความพยายามใช้ภาษาอื่นๆ เข้ามาใช้เพิ่มเติมอีกด้วย


12. ด.ช.โอลิมปิก


          สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนแจ้งว่า ณ เดือนมิถุนายนมีคนจีนจำนวน 4,104 คนที่ชื่อ Aoyun แปลว่าโอลิมปิกในภาษาจีน ซึ่งการตั้งชื่อว่าโอลิมปิกนี้เป็นการให้ความเคารพแก่กีฬาแห่งมวลมนุษยชาติของคนจีน โดยชื่อโอลิมปิกนี้ถูกจดทะเบียนกันมาตั้งแต่ปี 1992 มากถึง 700 คน ซึ่งปีนั้นเป็นปีที่ปักกิ่งเสนอตัวเองเข้าเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกปีแรก และพอปี 2001 ก็มีเด็กชื่อนี้จำนวน 553 คน และ 92% ของเด็กที่ชื่อนี้เป็นเด็กผู้ชาย


13. วันเอ๋ยวันดีควรแก่การแต่งงาน


          ไม่ใช่แค่วันเปิดกีฬาโอลิมปิก 2008 เท่านั้น แต่วันที่ 8 สิงหาคม 2008 หรือ 08-08-08 ยังเป็นวันฤกษ์ดี เป็นมงคลแก่การจัดงานแต่งงาน แค่ในวันนี้วันเดียวก็มีคู่แต่งงานเตรียมจัดงานแต่งงานในปักกิ่งมากกว่า 15,000 คู่ และในปีนี้คาดว่าจะมีการจัดงานแต่งงานมากถึง 130,000-140,000 คู่


14. จำนวนเทศกาลทางวัฒนธรรมที่มากที่สุด


          ตั้งแต่รู้ตัวว่าจะเป็นเจ้าภาพปักกิ่งเกมส์ เมื่อปี 2003 ทั่วทั้งประเทศจีนก็มีการพรีเซนต์ซึ่งวัฒนธรรมอย่างยิ่งใหญ่ และถ้าคุณไปปักกิ่งคุณจะเห็นการแสดงในแบบจีนโบราณ หรือการแสดงวัฒนธรรมต่างๆ ของจีนเพื่อโปรโมตโอลิมปิกทั่วไป


15. แคมเปญการศึกษาโอลิมปิกขนาดมหึมา


          เด็กๆ ชาวจีนได้รับความรู้เกี่ยวกับกีฬาโอลิมปิกกันอย่างถ้วนทั่ว เด็กๆ กว่า 400 ล้านคน ใน 5 แสนกว่าโรงเรียน ได้เรียนบทเรียนโอลิมปิกที่ถูกบรรจุเอาไว้เพื่อต้อนรับโอลิมปิก 2008


16. การทดสอบสารเสพย์ติดที่มากที่สุดในโลก


          เพื่อความบริสุทธิ์ยุติธรรมของการแข่งขันกีฬา จึงมีการตรวจทดสอบหาสารกระตุ้นในนักกีฬากัน มีการทดสอบหาสารเสพย์ติด 4,500 ครั้ง ซึ่งมากกว่าการตรวจหาสารกระตุ้นในเอเธนส์เกมส์ถึง 25% และมากกว่าซิดนีย์ 2000 ถึง 90% โดยการทดสอบจะเริ่มกันตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม มีจุดทดสอบทั้งสิ้น 41 สถานี ในหมู่บ้านนักกีฬา และสถานที่แข่งขันกีฬาต่างๆ


17. ค่าใช้จ่ายที่สูงที่สุด


          ต้นทุนของปักกิ่งเกมส์อาจจะดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับโอลิมปิกครั้งก่อนที่ประเทศกรีซ ด้วยงบประมาณทั้งหมด 43,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลำพังแค่ค่าก่อสร้างสถานที่จัดงานโอลิมปิกก็ใช้ไปประมาณ 1,800 ล้านดอลลาร์ แต่หลังจากนั้นก็ถูกวางแผนว่าจะถูกนำมาใช้ประโยชน์เพื่อเป็นสนามกีฬาสาธารณะและสถานที่จัดการแสดงบันเทิงต่างๆ ด้วยในส่วนของค่าใช้จ่ายอื่นๆ ปักกิ่งใช้เงิน 16,000 ล้านดอลลาร์เพื่อลดหมอกและควันพิษออกไป ในขณะเดียวกันนั้นก็มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อาทิ สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก สถานีรถไฟที่ทันสมัยขึ้น และระบบรถไฟใต้ดินที่ทันสมัยขึ้น


18. การขยายตัวของระบบขนส่ง


          รถไฟฟ้าใต้ดินสายแรกของปักกิ่งเชื่อมต่อระหว่างปักกิ่งและฝูชิงเหมิน ในระยะแรกถูกนำไปใช้เพื่อกิจการทางทหาร แต่วันนี้ผู้โดยสารกว่า 1.5 ล้านคน เดินทางด้วยรถไฟใต้ดินราคา 2 หยวนทุกวัน ด้านเครือข่ายรถไฟใต้ดินที่เหลืออยู่อื่นๆ มีระยะทางประมาณ 155 กิโลเมตร กับ 93 สถานี และยังมีอีก 3 เส้นทางที่จะเปิดในช่วงการแข่งขันกีฬาเพื่อขนส่งผู้มาเยือนจากอาคารผู้โดยสารสนามบินใหม่ไปที่สนามกีฬารังนกและดาวน์ทาวน์ และก็ยังมีอีกอย่างน้อย 6 เส้นทางที่กำลังก่อสร้างมีระยะทางร่วม 561 กิโลเมตร กับอีก 420 สถานี


19. จำนวนมาสคอตที่มากเป็นประวัติการณ์ (5 ตัว !)


          นับตั้งแต่โอลิมปิกเกมส์ปี ค.ศ.2000 ที่ซิดนีย์ที่ใช้มาสคอต 3 ตัวนั่นคือ Olly, Syd และ Millie (รวมสัตว์ซีกโลกใต้ อันได้แก่ นก, ตุ่นปากเป็ด และเม่น) ทำให้มหกรรมกีฬาระดับนานาชาติตั้งแต่โอลิมปิก, ฟุตบอลโลกยันฟุตบอลยูโรมีเทรนด์ฮิตเพิ่มขึ้นมาอย่างหนึ่งนั่นก็คือ ตัวมาสคอตไม่จำเป็นต้องมีแค่ตัวเดียว อย่างที่เพิ่งผ่านพ้นไปก็ยูโร 2008 ที่ประเทศสวิส+ออสเตรียมีมาสคอต 2 ตัว คือ เจ้า Trix และเจ้า Flix แต่โอลิมปิกที่จีนคราวนี้ทุบสถิติทุกรายการ เพราะเล่นใช้ตัวมาสคอตมากที่สุดถึง 5 ตัว !


          อันได้แก่ ปลา-Beibei, แพนด้า-Jingjing, ตัวแทนคบไฟโอลิมปิกเกมส์-Huanhuan, ละมั่งทิเบต-Yingying, และนกนางแอ่น-Nini โดยมาสคอตทั้ง 5 ตัวนี้มีชื่อเรียกรวมกันว่า Fuwa สีที่ใช้กับมาสคอตแต่ละตัวก็เป็นสีที่มาจากห่วง 5 ห่วงในสัญลักษณ์โอลิมปิกเกมส์ เมื่อนำมาเรียงลำดับในข้างต้นแล้วอ่านเป็นภาษาจีนจะมีความหมายว่า "ปักกิ่งขอต้อนรับคุณ" (Beijing welcomes you) นอกจากนี้ตัวมาสคอตแต่ละตัวยังเป็นสัญลักษณ์มงคลที่สื่อถึงการอวยพรในเรื่องความเจริญรุ่งเรือง (Beibei), ความสุข (Jingjing), ความปรารถนา (Huanhuan), สุขภาพ (Yingying) และโชคดี (Nini) ดูคนออกแบบคิดเยอะจัง...(แว่วมาว่า Han Meilin ผู้ออกแบบและเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์มาสคอตในรอบนี้ได้รับรางวัลการออกแบบจากคณะกรรมการโอลิมปิกเพียง 1 หยวน ! คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 4 บาทกว่าๆ แหม...แต่แค่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ก็คุ้มแล้วคุณพี่)

20. สนามกีฬาฮวงจุ้ย


          ไม่แค่หน้าตาแปลก แต่สนามกีฬารังนกและวอเตอร์คูบอันเป็นแลนด์มาร์กของการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ยังถูกออกแบบด้วยศาสตร์ฮวงจุ้ย ปักกิ่งต้องการขยายให้เห็นถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ของจีน เพราะทั้ง 2 อย่างนั้นเป็นเสมือนกระดูกสันหลังของเมือง มีเส้นแกน 7.7 กิโลเมตรที่วิ่งผ่านที่บัลลังก์ของจักรพรรดิในพระราชวังต้องห้ามผ่านจัตุรัสเทียน อัน เหมินผ่านหอคอกลองและกระดิ่ง ผ่านสถานีรถไฟหยงติงเหมิน สนามกีฬารังนกและวอเตอร์คูบถูกวางตำแหน่งไว้ที่แกนเหนือใต้ซึ่งเชื่อว่าจะนำมาซึ่งความมั่นคงภายใน นี่เป็นการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างไอเดียทันสมัยเข้ากับจิตวิญญาณแห่งอาณาจักร


21. รายได้จากสปอนเซอร์


          ตั้งแต่เตรียมงานโอลิมปิก 2008 ที่ปักกิ่ง เมื่อเดือนกันยายนปี 2003 แผนการตลาดของบริษัททั้งหลายก็เตรียมการเพื่อจะมาเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของงานกีฬาครั้งนี้ มี 63 โครงการใหญ่ที่นำเสนอเข้ามาเป็นผู้สนับสนุน และยังมีพาร์ตเนอร์ระดับโลกอีก 12 เจ้า BOCOG ดีลกับอาดิดาสเพื่อผลิตอุปกรณ์กีฬาให้ 18 ประเภท และยังมีสินค้ากว่า 6,000 ที่ได้ลิขสิทธิ์ติดตราโอลิมปิกสำหรับตีตลาดตอนนี้


22. ทัพนักกีฬาชุดใหญ่จากจีน


          จีนส่งนักกีฬามากที่สุด กะชิงเจ้าเหรียญทองโดยส่งนักกีฬา 570 คน แข่งขัน 28 ประเภท แต่ก็ยังต้องมาลุ้นกันว่าจีนจะได้เป็นเจ้าเหรียญทองอย่างที่หวังหรือเปล่า เมื่อดูจากสถิติโอลิมปิกคราวที่แล้วที่กรุงเอเธนส์ จีนส่งนักกีฬา 407 คน แข่งขัน 26 ประเภท และสุดท้ายได้รับเหรียญทองมากเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา ส่วนหนนี้เป็นเจ้าถิ่นเองด้วย น่าจะมีสิทธิลุ้นไม่น้อย


23. ตั๋วราคาถูกที่สุด


          BOCOG ตั้งราคาตั๋วเข้าชมโอลิมปิกและพาราลิมปิกในราคาที่ค่อนข้างต่ำ โดยราคาตั๋วเข้าชมพิธีเปิด 5,000 หยวน (641 ดอลลาร์) ต่อคน ในขณะที่ตั๋วชมการแข่งขันต่ำสุดอยู่ที่ 30 หยวน (4 ดอลลาร์) ส่วนตั๋วพิธีปิดจำหน่ายที่ราคา 150-3,000 หยวน ในการแข่งขันกีฬารอบแรกๆ อยู่ระหว่าง 30-300 หยวน และในรอบชิงราคาจะอยู่ที่ประมาณ 60-1,000 หยวน แต่ถ้าเป็นนักเรียน BOCOG ก็ใจดีกั๊กตั๋วเอาไว้ประมาณ 14% ของตั๋วในประเทศ ลดราคาให้ 5 หยวนในรอบคัดเลือก และ 10 หยวนในรอบชิงชนะเลิศ


24. จำนวนโค้ชต่างชาติที่มากที่สุด


          โอลิมปิก 2008 นี้จะเห็นความเป็นชาตินิยมของนักกีฬาจีนลดลง เนื่องจากโค้ชของทีมชาติจีนกว่า 30 ชีวิตเป็นโค้ชต่างชาติทั้งนั้นเลย ซึ่งโค้ชต่างชาติถูกนำมาช่วยในการฝึกฝนนักกีฬาทีมชาติจีนให้สามารถแข่งได้ทัดเทียมฝรั่งตัวล่ำบึ้ก อาทิ โค้ชทีมบาสเกตบอล Jonas Kazlauskas จากลิทัวเนีย และทีมระบำใต้น้ำได้โค้ช Masayo Imura จากญี่ปุ่น เป็นต้น


25. การมาเยือนของนักกีฬานอมินี


          ไม่แค่เพียงมีโค้ชต่างชาติ นักกีฬาจีนยังถูกโอนสัญชาติไปเป็นนักกีฬาให้กับประเทศอื่นๆ อาทิ โจวหมี และ หวังเฉิน นักกีฬาแบดมินตันที่เคยไปแข่งให้กับฮ่องกง นักกีฬาปิงปอง หลีเจียเว่ย ของสิงคโปร์ ซึ่งพวกเขาก็เป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวของนักกีฬาจีนไม่น้อย


26. โค้ชจีนในระดับอินเตอร์


          จำนวนโค้ชจีนที่ไปเป็นโค้ชนำทีมให้ประเทศอื่นๆ ก็มีไม่น้อย อาทิ อดีตนักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติที่เป็นตำนาน หลางผิง (Lang Ping) ที่ตอนนี้ไปนำทีมวอลเลย์บอลทีมชาติสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับอดีตโค้ชทีมชาติจีน หลีเหมา (Li Mao) ก็ไปนำทีมให้กับประเทศเกาหลีใต้


27. เหรียญรางวัลหยก


          ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของมหกรรมโอลิมปิกก็คือ เหรียญรางวัลในปีนี้มีลักษณะพิเศษที่ว่าเป็นโลหะที่ตกแต่งด้วยหยก ซึ่งเป็นการปะทะกันระหว่าง 2 วัฒนธรรมนั่นคือ วัฒนธรรมสากลของโอลิมปิก กับวัฒนธรรมจีน ออกแบบโดยทีมนักออกแบบจาก China Central Academic of Fine Art (CCAFA) เหรียญรางวัลมีเส้นผ่านศูนย์กลางยาว 7 เซนติเมตร หนา 6 มิลลิเมตร มี 2 ด้าน ด้านแรก เป็นโลหะปกติที่เป็นรูปเทพเจ้า


28. ไนกี้ (Nike) เทพเจ้าแห่งชัยชนะของกรีก และสนามกีฬา


          พานาเทแน็ก (Panathinaiko) ที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ในปี ค.ศ.1896 อีกด้านหนึ่งของเหรียญรางวัลมีวงแหวนหยกประดับล้อมรอบสัญลักษณ์ของโอลิมปิกเกมส์ในครั้งนี้การที่นำหยกมาประดับเพราะหยกเป็นสัญลักษณ์แห่งความเคารพ และคุณธรรมตามคติของจีน หยกที่นำมาทำประดับเหรียญรางวัลเป็นหยกที่มาจากคุนหลุน มณฑล Qinghai ทางตะวันตกของจีนซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องหยก เหรียญแต่ละเหรียญออกแบบสีวงแหวนด้วยหยกต่างกัน คือ เหรียญทอง-หยกสีขาว, เหรียญเงิน-หยกสีเขียว และเหรียญทองแดง-หยกสีเทา


29. วูซู


          ผู้คนที่ชอบศิลปะการต่อสู้ของจีน ต้องไม่พลาดกีฬาสาธิตในครั้งนี้ "วูซู" หรือกังฟู วิชาว่าด้วยการใช้เทคนิคในการเข้าปะทะต่อสู้เป็นสาระสำคัญ มีรูปแบบการร่ายกระบวนยุทธ์ และชั้นเชิงต่อสู้เป็นหลักในการฝึก ทั้งยังมีหลักศิลปะ กายบริหารที่สืบทอดกันมา โดยมุ่งเน้นการประสานพลังภายในและภายนอกอันเป็นจุดเด่นของวูซู และวูซูจะจัดสาธิตระหว่างวันที่ 21-24 สิงหาคมที่ Olympic Sports Center Gymnasium


30. ความสำคัญของ 08-08-08


        ไม่ใช่แค่เหตุบังเอิญที่ปักกิ่งเกมส์จะเริ่มเมื่อเวลา 8 โมง (เย็น) วันที่ 8 เดือน 8 ปี 08 ตัวเลข 8 นั้นเป็นตัวเลขที่มีความสำคัญต่อคนจีน เนื่องจากเลข 8 ในภาษาจีนออกเสียงว่า ba (ปา) ซึ่งเสียงนั้นฟังคล้ายกับ fa ที่หมายความถึงความมั่งคั่งและความร่ำรวย และถ้าเอา 8 มาไว้ด้วยกันเป็น 88 ก็จะให้ความหมายดับเบิลไปอีก ความสุขมากขึ้น ความนิยมมากขึ้น และความโชคดีที่มากขึ้น



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
30 เหตุผล ที่ควรจะชม โอลิมปิก 2008 อัปเดตล่าสุด 5 สิงหาคม 2551 เวลา 16:08:30 13,112 อ่าน
TOP