สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบโดยกระปุกดอทคอม
สถานการณ์อุทกภัยในหลายจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ที่แม่น้ำโขงไหลผ่าน ปริมาณน้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่เกษตรกรรมเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก
ล่าสุด สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก" ฉบับที่ 8 (313/2551) ลงวันที่ 13 สิงหาคม ร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงยังคงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้มีฝนตกชุกและมีฝนตกหนัก ในหลายพื้นที่ เช่น จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย และเพชรบูรณ์ ให้ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้ (13-14 ส.ค.) ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำโขงและตามลุ่มแม่น้ำสาขาต่างๆ มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ขณะที่ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมเสวนา "แผนรับมือวิบัติภัยน้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น" หรือสตอร์ม เซิร์จ (Storm Surge) ที่ศาลาประชาคมสมุทรปราการ ว่า จากการประเมินโอกาสที่จะเกิดภัยพิบัติดังกล่าว จะเกิดขึ้นได้ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ ซึ่งถือเป็นช่วงอันตรายอย่างยิ่ง จากความเร็วของแรงลมที่ 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะส่งผลให้คลื่นสูงเฉลี่ย 2.2-4.5 เมตร ซึ่งภัยธรรมชาติครั้งนี้ประชาชนไม่สามารถละเลยได้ และรัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับระบบการเตือนภัย ระบบการป้องกัน มิให้น้ำเข้ามาในพื้นที่ในหลายๆ จังหวัด
"หากดำเนินการช้าจะมีผลกระทบต่อประชาชน และเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติมากมาย รัฐบาลจะรอช้าไม่ได้ หากเกิดขึ้นจริงความรุนแรงอาจจะเท่าพายุนาร์กีสก็ได้ อย่างไรก็ตาม หากเกิดวิบัติภัยดังกล่าว จะแจ้งเตือนผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจเพื่อเตรียมรับมือล่วงหน้า" ดร.สมิทธกล่าว
ด้าน นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านเกิดความสับสนและไม่เข้าใจในเรื่องสตอร์ม เซิร์จ ว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นมีมากน้อยเพียงใด และหากเกิดขึ้นจริงภาคราชการก็มีความพร้อมรับมือระดับหนึ่ง หลังการประชุมครั้งนี้จะต้องมีการเตรียมความพร้อม และประชุมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเตรียมความพร้อมในการเตือนภัยมากยิ่งขึ้น
ด้าน ดร.มั่น พัธโนทัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้เดินทางมาร่วมฟังการเสวนา และกล่าวว่า อยากให้ประชาชนชาวสมุทรปราการ อย่าเพิ่งไปตื่นตระหนก สำหรับข้อมูลข่าวสารที่ได้รับทราบนั้น หากเกิดขึ้นก็จะเป็นการเตรียมความพร้อม แต่หากไม่มีเหตุการณ์ก็ถือว่าเป็นผลดี
ส่วนการเตรียมแผนปฏิบัติการรับมือคลื่นพายุซัดชายฝั่งของกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำนักการระบายน้ำ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้นำแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ในระดับวิกฤติและกรณีเกิดคลื่นซัดฝั่ง มารายงานต่อคณะผู้บริหาร เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์และเฝ้าระวัง รวมถึงการประสานความร่วมมือและเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่างๆ โดยจะมีการซักซ้อมแผนปฏิบัติการหากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ และลงตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงใกล้ชายฝั่งทะเลกรุงเทพฯ เช่น บางขุนเทียน ทุ่งครุ บางบอน รวมทั้งบริเวณต่อเนื่องกับ จ.สมุทรปราการ และสมุทรสาคร
"เป็นเพียงการเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุเท่านั้น ไม่ได้เป็นการยืนยันว่าจะมี สตอร์ม เซิร์จ เพราะจากรายงานย้อนหลังยังไม่มีข้อบ่งชี้จะเกิดคลื่นพายุซัดฝั่งขึ้นในพื้นที่ กทม. แต่อย่างใด ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกจากกระแสข่าว" นายอภิรักษ์กล่าว