ขณะที่ 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำพาการชุมนุมเข้าใกล้การแตกหัก ชะตากรรมของแกนนำทั้ง 5 ก็เดินเข้าสู่จุดอับ เมื่อตำรวจขออนุมัติศาลให้ออกหมายจับ 5 ขุนพล แต่พันธมิตรฯ ก็ประกาศยันสู้ไม่ถอย
โดยได้เตรียมจัดตั้งแกนนำรุ่น 2 ขึ้นมานำพามวลชนเป็นการแทนรุ่นพี่ที่อาจจะต้องเข้าไปบัญชาการในตะราง ซึ่งแค่ 3 ชื่อที่เปิดมา ไม่ได้นอกเหนือจากการคาดเดา เพราะล้วนแต่เป็นทายาทของแกนนำรุ่น 1
แม้รายชื่อที่ออกมาจะไม่โด่งดัง ใหญ่โตระดับ "เทพ" เหมือนแม่ทัพรุ่น 1 แต่แกนนำรุ่น 2 ก็มีความโดดเด่นในตรงที่มีกำลังพลอยู่ในมือชัดเจน สามารถนำพาม็อบปฏิบัติการได้ตลอดเวลา
"สาวิทย์ แก้วหวาน" นับเป็นตัวตายตัวแทนของ "สมศักดิ์ โกศัยสุข" ตั้งแต่อยู่ในสหภาพแรงงานการรถไฟ จนถึงปัจจุบัน เขานั่งอยู่ในเก้าอี้เลขาธิการสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ซึ่งเป็นองค์กรที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพแรงงาน คุมกำลังพล 43 สหภาพ ซึ่งตำแหน่งนี้เป็นของ "สมศักดิ์" มายาวนาน จนกระทั่งลูกพี่ใหญ่ต้องมาเป็น 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ เก้าอี้นี้จึงสืบทอดตกไปเป็นของ "สาวิทย์" ในเวลาต่อมา
"ศิริชัย ไม้งาม" เจ้าหน้าที่ด้านการเดินเครื่อง โรงไฟฟ้าบางปะกง ชลบุรี ครองเก้าอี้ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สร.กฟผ.) มาแล้ว ติดต่อเป็นสมัยที่ 2 จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องกำลังพล
"ศิริชัย" มีจุดแข็งโป๊ก คือหัวใจที่เด็ดเดี่ยว พิสูจน์มาแล้วจากการเป็นผู้นำการชุมนุมต่อต้านการแปรรูป กฟผ.เมื่อหลายปีก่อน สามารถลากม็อบอยู่ได้เกือบปี ต่อสู้กับกระแสข่าวลือที่มุ่งทำลาย จากทั้งผู้นำม็อบด้วยกันเองและจากรัฐบาล จนในที่สุดสามารถหยุดยั้งนโยบายขายน้ำขายไฟของรัฐบาลทักษิณได้สำเร็จ
แม้ "ศิริชัย" จะดูเหมือนมาในไลน์ของ "สมศักดิ์" แต่จริงๆ แล้วเขาให้ความเคารพยำเกรง "พิภพ ธงไชย" มากกว่า และเป็น "พิภพ" เองที่ดึง "ศิริชัย" เข้ามาร่วมวงศ์ไพบูลย์กับเอ็นจีโอและร่วมเวทีพันธมิตรฯ ตั้งแต่ต้น
"สำราญ รอดเพชร" โฆษกพันธมิตรฯ เลือดสะตอ นครศรีธรรมราช ขวัญใจแม่ยก เป็นนักข่าว นักวิเคราะห์ประเภท "ฟันธง" ผู้ผ่านประสบการณ์อันโชกโชน กระทั่งมาร่วมอุดมการณ์กับ "สนธิ ลิ้มทองกุล" ในเครือผู้จัดการ ผันตัวเป็นแกนนำม็อบมาตั้งแต่นั้น
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก