ทางด่วนขูดเพิ่มอีก 5 บาท จาก 40 บาท เป็น 45 บาท เริ่ม 1 กันยายน
นายมณฑียร กุลธำรง รองผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า ตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 1 กันยายน 2551 หรือเที่ยงคืนวันอาทิตย์นี้เป็นต้นไป กทพ. จะปรับขึ้นค่าผ่านทางทางด่วน 1 และ 2 เนื่องจากตามสัญญาสัมปทาน โครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ระหว่าง กทพ. กับบริษัททางด่วนกรุงเทพ จำกัด กำหนดให้มีการพิจารณาปรับค่าผ่านทางทุกๆ 5 ปี ครบกำหนดปีนี้ การดำเนินการในครั้งนี้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม โดย กทพ.เจรจากับบริษัททางด่วนกรุงเทพ ถึงอัตราค่าผ่านทางที่จะปรับขึ้นใหม่ ด้วยการคำนวณจากดัชนีราคาผู้บริโภค จนได้อัตราค่าผ่านทางที่เหมาะสม จึงนำเสนอนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เห็นชอบและลงนามในประกาศกำหนดค่าผ่านทางใหม่ และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย ตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไป
สำหรับอัตราค่าผ่านทางทางด่วน 1 และ 2 ใหม่ มีดังนี้ ทางด่วนขั้นที่ 1, ทางด่วนขั้นที่ 2 โครงข่ายในเมือง รถ 4 ล้อ เก็บ 45 บาท จากเดิม 40 บาท รถ 6 - 10 ล้อ เก็บ 70 บาท จากเดิม 60 บาท และรถมากกว่า 10 ล้อ เก็บ 100 บาท จากเดิม 85 บาท ส่วนทางด่วนขั้นที่ 2 โครงข่ายนอกเมือง ช่วงประชาชื่น งามวงศ์วาน แจ้งวัฒนะ ปรับเฉพาะรถมากกว่า 10 ล้อ จากเดิม 30 เป็น 35 บาท ขณะที่โครงข่ายนอกเมือง ช่วงพระราม 9 รามคำแหง ศรีนครินทร์ ปรับเฉพาะรถ 6 - 10 ล้อ และมากกว่า 10 ล้อ จากเดิม 45 - 60 บาท เป็น 50 - 70 บาทตามลำดับ
นายมณเฑียรกล่าวว่า นอกจากนี้ กทพ.จะปรับขึ้นค่าผ่านทางด่วนสายบูรพาวิถี หรือบางนา-ชลบุรี และทางด่วนอุดรรัถยา หรือบางปะอิน - ปากเกร็ด ด้วย เนื่องจากทางด่วนทั้ง 2 สาย เปิดให้บริการกว่า 10 ปีแล้ว และยังไม่ได้มีการปรับค่าผ่านทาง ทางด่วนสายบางนา - ชลบุรี จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 กันยายนนี้เช่นกัน โดยรถ 4 ล้อ คิด 20 กม. แรก 20 บาท (เดิม 20 บาท) กม.ต่อไปคิด กม.ละ 1.20 บาท (เดิม กม.ละ 1.00 บาท) หากใช้ตลอดสาย 55 กิโลเมตร จะเก็บค่าผ่านทางรวม 65 บาท จากเดิม 55 บาท ส่วนรถ 6 - 10 ล้อ หากใช้ตลอดสายเก็บ 130 บาท และรถมากกว่า 10 ล้อ เก็บ 200 บาท ส่วนทางด่วนสายบางปะอิน - ปากเกร็ด จะเริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 1 พฤศจิกายน 2551
รองผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า การปรับค่าผ่านทางด่วนครั้งนี้ กทพ.ปฏิบัติตามสัญญา หากมีประชาชนคัดค้านหรือไม่เห็นด้วย กทพ.จะชี้แจงให้ทราบถึงเหตุผลความจำเป็น โดยมีการอบรมพนักงานจัดเก็บ เพื่อเตรียมตอบข้อซักถามที่จะเกิดขึ้นไว้แล้ว ส่วนการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้ทางรับทราบนั้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการติดตั้งแบรนด์เนอร์ โปสเตอร์ และแจกแผ่นพับให้ผู้ใช้ทางได้ทราบแล้ว อย่างไรก็ตาม กทพ.ยอมรับว่าการประชาสัมพันธ์ ในครั้งนี้อาจจะกระชั้นเกินไปเมื่อเทียบกับครั้งก่อนๆ กองประชาสัมพันธ์ กทพ.แจ้งว่า สำหรับผู้ใช้บริการที่มีคูปองค่าผ่านทางด่วนอัตราเก่า ยังใช้ได้ตามปกติ แต่จะต้องเพิ่มเงินสดให้เท่ากับค่าผ่านทางอัตราใหม่ รวมถึงผู้ที่ใช้บัตรทางด่วน หรือ TAG เป็นระบบเก็บเงินอัตโนมัติที่ระบบจะหักเงินอัตโนมัติจากบัตรตามอัตราค่าผ่านทางด่วนใหม่เช่นกัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
