ฝนถล่มจมแล้วหลายจังหวัด ลพบุรีท่วมบ้านเรือนนับพันหลัง พืชผลทางการเกษตรเสียหายหลายหมื่นไร่ ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมจนรถผ่านไปมาไม่ได้ ส่วนกรุงเก่าหวั่นจมโบราณสถานหลายแห่ง โดยเฉพาะบริเวณวัดกุฎีดาว ขณะเดียวกันเขื่อนพระราม 6 กั้นแม่น้ำป่าสัก ต้องระบายน้ำลงท้ายเขื่อน ขณะที่สระบุรี ริมตลิ่งแม่น้ำป่าสักพังเป็นทางยาว ที่ปราจีนบุรีฝูงวัว 15 ตัวของชาวบ้านถูกกระแสน้ำพัดหายไป ที่โคราชมีผู้สูญหายแล้ว 1 ราย
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่มีฝนตกลงมาติดต่อกันตลอดคืนที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน โดย อ.เมือง จ.ลพบุรี น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตหมู่ 4 ต.เขาสามยอด มีบ้านเรือนปลูกอาศัยอยู่กันกว่า 1,000 ครัวเรือน ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร
นายธวัชชัย โสตเนียม นอภ.เมือง, นายธีระศักดิ์ ทรัพย์ศิริ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลพบุรี, น.ส.สายใจ เลิศวิริยะประภา นายกเทศมนตรีเมืองเขาสามยอด นำกำลังเจ้าหน้าที่ อส. และ อปพร. ออกให้ความช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของภายในบ้านขึ้นไปอยู่ในที่สูง พร้อมกันนี้ พ.ต.อ.ศุภโยชก์ ธารีไทย ผกก.สภ.เมืองลพบุรี จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ไปอำนวยความสะดวกในเรื่องของการจราจรที่ติดขัดบนถนนพหลโยธินเป็นทางยาวหลายกิโลเมตร
ส่วนที่ ต.ท่าศาลา อ.เมือง น้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตหมู่ 5, 6, 7 ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนนับพันครัวเรือน นางนิตยา เธียรวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลท่าศาลา พร้อมคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่และกำลังทหารจาก ร.ร.สงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ นำกำลังช่วยประชาชนขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำ พร้อมนำทรายบรรจุถุงปุ๋ยไปแจกจ่ายชาวบ้าน เพื่อปิดกั้นไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมในบ้าน
ส่วนที่ ต.โคกตูม อ.เมืองน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยส้มไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และตลาดโคกตูม ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนกันทั่วหน้า นายอุดม อิ่มอรชร นายกเทศมนตรีตำบลโคกตูม นำกำลังเจ้าหน้าที่ อปพร.ออกช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่ โดยนอกจากบ้านเรือนประชาชนจะถูกน้ำท่วมจำนวนมากแล้ว พืชผลทางการเกษตรซึ่งชาวบ้านปลูกก็ได้รับความเสียหายหลายหมื่นไร่
สำหรับที่ อ.โคกสำโรงน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลตำบลโคกสำโรง ระดับน้ำสูง 60-80 ซ.ม. นอกจากนี้ต้นมะขามยักษ์อายุหลายร้อยปีก็โค่นลงมากีดขวางทางจราจร นายบุญเลิศ วรปัญญา นายกเทศมนตรีตำบลโคกสำโรง พร้อมคณะผู้บริหาร นำเจ้าหน้าที่ อปพร. ออกช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ถนนหลายสายก็ถูกน้ำท่วมจนรถผ่านไปมาไม่ได้หลายสายด้วยกัน
ส่วนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมขังในเขตโบราณสถานหลายแห่ง โดยเฉพาะบริเวณวัดกุฎีดาว ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา โบราณสถานเก่าแก่สร้างก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยา ขณะเดียวกันเขื่อนพระราม 6 ที่กั้นแม่น้ำป่าสักในเขต อ.ท่าเรือ เปิดประตูระบายน้ำลงท้ายเขื่อนครบทั้ง 6 บาน ในระดับความสูงบานชัก 2.20 เมตร ส่งผลให้ระบายน้ำลงท้ายเขื่อน 412 ลบ.ม./วินาที ถือเป็นการระบายน้ำสูงสุดในรอบปี 51 ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักท้ายเขื่อนสูงขึ้นทุกขณะ และใกล้ล้นตลิ่งในบางจุดที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ
นายสุริยะพล นุชอนงค์ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำเขื่อนพระราม 6 กล่าวว่า หากในอีก 2-3 วันนี้ ยังมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ จ.สระบุรี และ จ.ลพบุรี เขื่อนต้องเร่งระบายน้ำเช่นนี้ อาจทำให้ชุมชนสองฝั่งแม่น้ำป่าสักด้านท้ายเขื่อนเขต อ.ท่าเรือ อ.นครหลวง และ อ.พระนครศรีอยุธยา รับผลกระทบจากภาวะน้ำล้นตลิ่งได้เช่นกัน
นายปรีชา กมลบุตร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้ออกประกาศเตือนชุมชนสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก ในเขต อ.ท่าเรือ, อ.นครหลวง และอ.พระนครศรีอยุธยา ให้เตรียมรับมือหากเกิดภาวะน้ำล้นตลิ่ง หากเขื่อนพระราม 6 จำเป็นต้องเร่งระบายน้ำเช่นนี้อีกหลายวัน ส่วนในแม่น้ำเจ้าพระยายังไม่ได้รับผลกระทบ เพราะระดับน้ำยังไม่สูงเท่าใดนัก แต่เพื่อเป็นการไม่ประมาท เพราะฝนตกหนักในเขตภาคเหนือ จึงให้อปท. และหน่วยงานระดับจังหวัด และอำเภอเฝ้าสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหนองบัว ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สระบุรี หลังเกิดฝนตกหนักทำให้ริมตลิ่งของแม่น้ำป่าสักหลังวัดหนองบัว หมู่ที่ 7 ต.ตลิ่งชัน พังลงมาเป็นทางยาว นายธีรภัทร วงษ์เหล็ก ผญบ. หมู่ 7 ต.ตลิ่งชัน กล่าวว่า จากเหตุดังกล่าวมีบ้านเรือนชาวบ้านเดือดร้อน 14 หลังคาเรือน ที่สำคัญคือวัดหนองบัว หากไม่รีบหาทางช่วยเหลือ เกรงว่าศาลาการเปรียญเก่าแก่โบราณสองชั้นจะพังทลาย
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ช่วงดึกที่ผ่านมามีน้ำป่าไหลมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนจำนวน 3 หมู่บ้าน อาทิ หมู่ 3 บ้านบุพราหมณ์ใน หมู่ 10 บ้านทับลานใน และหมู่ 9 บ้านกระเดียง ส่งผลทำให้พื้นที่การเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหายหลายพันไร่ และฝูงวัวจำนวน 15 ตัวของนายชิระ พันธ์สุวรรณ ถูกกระแสน้ำพัดหายไปกับน้ำ ส่วนถนนทางเข้าหมู่บ้านหลายสายถูกน้ำท่วมตัดขาดระดับน้ำสูงถึง 1 เมตร รถยนต์ไม่สามารถวิ่งเข้าออกได้
ต่อมานางพรรณี แก่นสุวรรณ ผวจ.ปราจีนบุรี พร้อมสภากาชาดไทยนำถุงยังชีพ 500 ชุด มาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม และได้รับความเดือดร้อน บริเวณศาลาประชาคมบ้านทับลานใน ส่วนทางด้านศูนย์ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เขต 3 ปราจีนบุรี นำเรือท้องแบน 4 ลำ คอยช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมแล้ว
สำหรับ จ.นครนายก ที่บริเวณเชิงสะพานอุทยานวังตะไคร้ ม.1 ต.สาริกา อ.เมือง มีน้ำป่าไหลลงมาจนล้นตลิ่งทำให้พ่อค้า และแม่ค้าที่ขายของให้กับนักท่องเที่ยวต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยสว่างอริยะธรรมนครนายก มาช่วยกันขนข้าวของหนีน้ำ ส่วนที่น้ำตกนางรอง ม.3 ต.หินตั้ง อ.เมือง น้ำป่าสีแดงขุ่นเหมือนกับสีของโคลนไหลบ่าลงมาอย่างรวดเร็วจ นท่วมสะพานข้ามด้านนอกของน้ำตกนางรองที่จะข้ามไปยังอีกฟากหนึ่งจนมิด ทำให้ชาวบ้านที่อยู่อีกฟากหนึ่ง รวมทั้งยานพาหนะไม่สามารถข้ามมาได้ และระดับน้ำในลำน้ำก็ยังคงสูงขึ้นมาเรื่อยๆ
นายไพรัตน์ สกลพันธุ์ ผวจ.นครนายก กล่าวว่า หลังจากที่รับรายงานว่า มีน้ำป่าไหลบ่าลงมาท่วมที่บริเวณน้ำตกนางรอง จึงสั่งให้มีการเตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัย เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวในวันหยุด จากนั้นก็สั่งการให้นางกิจสุดา จันทรสนธิ นอภ.เมือง และนางจรัส ใยเยื่อ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครนายก ลงพื้นที่ไปตรวจสอบว่ามีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างไรบ้าง และปริมาณน้ำป่าที่ไหลหลากลงมานั้นมากน้อยขนาดไหน และจะเกิดอันตรายกับชาวบ้านหรือไม่ และให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำคอยระวังน้ำท่วมอย่างฉับพลันด้วย
ส่วนที่ อบต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันบรรจุทรายใส่ถุงนำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมอย่างหนักใน 3 หมู่บ้าน คือ บ้านหนองบัวศาลา หมู่ที่ 2, 8 และ 10 เพราะมีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องพากันขนสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมกับนำถุงทรายมากั้นน้ำไม่ให้เข้าบ้าน ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาทุกวัน
นายจำเริญ เปล้ากระโทก นายกอบต.หนองบัวศาลา กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุด ที่ ต.หนองบัวศาลา ประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่าร้อยหลังคาเรือน ทั้งนี้ทางอบต.หนองบัวศาลา ทำได้เพียงแจกจ่ายถุงทราย และถุงยังชีพให้กับประชาชนเพื่อบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น
ขณะที่ นายสุธี มากบุญ ผวจ.นครราชสีมา พร้อมป้องกันภัยจังหวัด ออกตรวจสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่โดยถนนมิตรภาพ สายใหม่ บริเวณ ทางเลี่ยงเมืองปากช่อง ก.ม.17-18 บ้านบ่อทอง ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง ระดับน้ำยังทรงตัวสูงกว่า 50 ซ.ม. รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงระดมกำลังอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยให้เบี่ยงไปใช้เส้นทางถนนมิตรภาพสายเก่า ผ่านเข้าตัวเมืองปากช่อง และไปออกสะพานต่างระดับเขาใหญ่ เพื่อเข้าสู่กรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นทางภาคกลาง
ล่าสุดมีรายงานผู้สูญหายจากปัญหาน้ำท่วมแล้ว 1 ราย คือ นายวินัย มีสุข อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโครงการบ้านจัดสรร ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ถูกน้ำพัดหายไปบริเวณฝายน้ำล้น ขณะเดินทางมาทำงาน
ส่วนในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เกิดน้ำป่าจากลำห้วยผาลาดไหลเข้าท่วมพื้นที่ ต.แม่กุ ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายนับ 100 หลังคาเรือน และยังทำให้กำแพงโรงเรียนและกำแพงวัดบ้านผาลาดถูกกระแสน้ำพัดขาด ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหายหลายร้อยไร่
ขณะเดียวกันนายวิม อินทราแสง ปลัดฝ่ายป้องกัน อ.แม่สอด นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนรวมทั้งตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 อ.แม่สอด เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านอย่างรีบด่วนแล้ว นอกจากนี้ยังนำถุงยังชีพเข้าไปแจกให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจำนวน 40 ชุด เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น
เมื่อเวลา 17.30 น. วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัยว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง จะเคลื่อนตัวตามแนวร่องความกดอากาศต่ำเข้าสู่ประเทศพม่าอย่างช้าๆ และ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ เช่นบริเวณ จ.ตาก พิจิตร สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา สระบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา กรุงเทพมหานคร นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรีและตราด
ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
