วานนี้ (27 กันยายน) เวลา 09.30 น. ที่ จ.นครราชสีมา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบทุนการศึกษาและรางวัลการประกวดโครงงานนักเรียนระดับภาคตะวันนออกเฉียงเหนือ ประจำปี 2551 ของมูลนิธิเปรมติณสูลานนท์ ณ หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา โดยมี พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพน้อยที่ 2 พล.ต.ท. วราสิทธิ์ พรเลิศ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 นายสุธี มากบุญ ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ 19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ข้าราชการ นักเรียนพ่อค้าประชาชน ให้การต้อนรับและร่วมพิธีกว่า 500 คน
โดย พล.อ.เปรม ได้กล่าวให้โอวาทกับคณะบุคคลต่างๆ และเด็กนักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ ที่ได้รับทุนการศึกษาตอนหนึ่งว่า เด็ก เป็นหน้าที่โดยตรงของพวกเราทุกคนที่จะต้องดูแล และสั่งสอนเด็ก เพื่อให้เด็กฉลาดรู้จักแยกแยะความดีกับความชั่วออกจากกันได้ และรู้จักว่าหน้าที่ของตนเองที่มีต่อตนเอง ต่อพ่อแม่ ต่อวงศ์ตระกูล และต่อชาติบ้านเมืองว่าคืออะไร
"แต่สิ่งหนึ่ง คำปฏิญาณเหมือนกันทุกปี แต่ว่าเหมือนหรือไม่ผมเองก็จำไม่ได้ แต่ว่าคนเราลองปฏิญาณตนว่าจะทำอะไร จะต้องทำตามคำปฏิญาณนั้น ถ้าไม่ทำตามนั้นพวกเธอจะไม่ประสบกับความเจริญกับความสุข เพราะว่าพวกเธอพูดเท็จ ซึ่งพระสยามเทวาธิราชมีจริง และจะคอยดูพวกเราทำหน้าที่ให้ชาติบ้านเมือง ถ้าใครที่ทำไม่ดีท่านก็จะไม่ชอบ แต่ถ้าใครทำดีท่านก็จะยกย่องชมเชยส่งเสริมให้มีความก้าวหน้าในชีวิต เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องรักษาคำปฏิญาณ และต้องปฏิบัติโดยสม่ำเสมอตลอดชีวิต" พล.อ.เปรมกล่าว
พล.อ.เปรมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังเสร็จสิ้นพิธีมอบทุนการศึกษา โดยปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าจะฝากอะไรถึงรัฐบาลชุดใหม่หรือไม่ โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า คนเราที่พูดอะไร ปฏิญาณอะไรก็ต้องทำตามนั้น เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า คำปฏิญาณที่พูดจะต้องให้สัมฤทธิ ผลด้วยหรือไม่ พล.อ.เปรมกล่าวสั้นๆว่า ต้องสัมฤทธิผลด้วย ก็ใช่ เมื่อถามว่า หากนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะไปพบท่านมีอะไรจะแนะนำเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.เปรมตอบว่า มันไม่เกี่ยวกับการมอบทุนการศึกษา แต่ยังไม่ได้ไป
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
