ผู้สมัครชิงผู้ว่า ภพศักดิ์ เบอร์ 11 ทะเลาะลั่นตำรวจกลางทางด่วน
เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายภพศักดิ์ ปานสีทอง ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เบอร์ 11 เกิดมีปากเสียงกระทบกระทั่งกับ ส.ต.อ.สมคิด เขียวจันทร์ ผบ.หมู่งานจร. สน.คู่ขนานลอยฟ้า เนื่องจากขณะที่ ส.ต.อ.สมคิด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อีก 6 นาย กำลังตั้งด่านกวดขันการจราจรบริเวณจุดทางร่วมพระราม 8 ตัดปิ่นเกล้า ทางยกระดับคู่ขนานลอยฟ้า แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย ระหว่างนั้นมีรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ณว 9625 กรุงเทพมหานคร ด้านข้างรถติดสติ๊กเกอร์หาเสียงของนายภพศักดิ์ บริเวณกระบะหลังรถคันดังกล่าว นายภพศักดิ์และทีมงานหาเสียง กว่า 10 คน ได้ยืนพูดหาเสียงผ่านเครื่องขยายเสียงและโทรโข่ง ส่งเสียงดัง เจ้าหน้าที่จึงเรียกรถคันดังกล่าวให้หยุด เพื่อตักเตือนและขอดูใบอนุญาตขับขี่
เมื่อรถคันดังกล่าวจอดบริเวณข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงเรียกขอดูใบอนุญาตขับขี่ แต่คนขับรถซึ่งเป็นผู้หญิงอ้างว่าไม่ได้นำติดตัวมาด้วย ขณะนั้นนายภพศักดิ์ลงมาจากกระบะหลังรถ เดินตรงมาหาเจ้าหน้าที่ ก่อนยื่นธนบัตรใบละ 100 บาทให้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับ จากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายได้โต้เถียงกัน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอดูใบขับขี่ แต่นายภพศักดิ์บอกให้เขียนใบสั่งลอยมาเลย เจ้าหน้าที่จึงยืนยันต้องการชื่อและนามสกุลของผู้ขับขี่ไว้เป็นหลักฐาน ทำให้นายภพศักดิ์ไม่พอใจ ชี้หน้าต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งหยิบโทรโข่งจากในรถออกมาจ่อปาก เดินออกไปบริเวณกลางถนนตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ โดยมีทีมงานหาเสียงช่วยกันตะโกนเสริม โดยนายภพศักดิ์กล่าวว่า "ถ้าตำรวจอยากดังขอให้ไปทำอย่างอื่นดีกว่า อย่ามาทำแบบนี้" ระหว่างนั้นทีมงานของนายภพศักดิ์คนหนึ่ง ได้หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทำให้ผู้ใช้รถสัญจรผ่านไปมาบริเวณดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนจากการจราจรติดขัดอย่างมาก
หลังจากผ่านไปประมาณ 5 นาที ส.ต.อ.สมคิด ได้เดินเข้าไปห้ามปรามนายภพศักดิ์ พยายามจะพาตัวเข้ามาที่ข้างทาง แต่นายภพศักดิ์ใช้มือจับคอและผลัก ส.ต.อ.สมคิด ออกไป พร้อมทั้งพูดว่าให้รักษาดาวบนบ่าไว้ให้ดี ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ใกล้เคียงผ่านมาเห็นเหตุการณ์ จึงเข้าห้ามปรามและเชิญนายภพศักดิ์เข้ามาข้างทาง แต่ก็ถูกนายภพศักดิ์ต่อว่าเช่นกัน กระทั่งเวลาผ่านไปได้พักหนึ่ง นายภพศักดิ์ได้เดินกลับมาที่รถและขึ้นรถออกไปทันที
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้กล้องโทรศัพท์มือถือบันทึกภาพเหตุการณ์ทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อนายภพศักดิ์เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยนายภพศักดิ์ชี้แจงว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณ 19.00 น. วันที่ 26 กันยายน ตนพร้อมทีมงานเพิ่งเสร็จจากการออกหาเสียงกำลังจะกลับที่พัก เมื่อรถปิกอัพของตนขึ้นบริเวณทางยกระดับคู่ขนานลอยฟ้า ถ.บรมราชชนนี ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจยศนายสิบของ สน.คู่ขนานลอยฟ้า โผล่ออกมาขวางรถของตน บอกว่าทำผิดกฎหมาย ตนจึงถามว่าทำผิดข้อหาอะไร เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวก็ไม่พูด ถามชื่อก็ไม่ยอมตอบ บอกเพียงแค่ว่าตนมีความผิดซึ่งหน้า ตนก็ไม่เข้าใจ แต่ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ออกใบสั่งมาเพื่อจะนำไปจ่ายค่าปรับ เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวก็แสดงท่าทียึกยัก และไม่ยอมออกใบสั่งให้ ตนจึงขอพบกับร้อยเวรที่ดูแลการตั้งด่าน เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวบอกว่าไม่มี
นายภพศักดิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากยื้อกันอยู่ประมาณ 1 นาที ทางร้อยเวรได้เดินเข้ามาหาตน พร้อมสั่งให้นายสิบคนดังกล่าวออกใบสั่งให้ตน ตนจึงถามอีกครั้งว่ากระทำผิดข้อหาอะไร ขอให้ออกใบสั่งมา จะได้รีบเดินทางกลับเพราะเสียเวลามามากแล้ว ปรากฏว่าตำรวจยศนายสิบคนเดิม ออกอาการโกรธพร้อมทั้งหันมาพูดกับตนว่า "ทำอย่างนี้ระวังตัวให้ดี เดี๋ยวจะตาย" โดยพูดต่อหน้าทีมงานหาเสียงของตนซึ่งอยู่ด้วยกันประมาณ 10 คน
นายภพศักดิ์ ยังกล่าวว่า ไม่คิดเลยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะน่ากลัวมากขนาดนี้ ถึงขั้นขู่ฆ่าตนต่อหน้าคนจำนวนมาก ตนเลยพูดกลับไปว่าจะเอากันถึงขนาดนั้นเลยใช่ไหม จะได้แจ้งความกลับข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากนั้นทางร้อยเวรพร้อมจ่าอีกนายหนึ่งจึงเดินเข้ามาขอโทษ ตนจึงยอมเพราะไม่อยากมีเรื่องด้วย
"การที่เจ้าหน้าที่พูดขู่ฆ่าประชาชน ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ขนาดผมเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ถ้าเป็นประชาชนธรรมดาจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะคนขับก็เป็นผู้หญิง ควรพูดจากันดีกว่านี้ ผมเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคงเครียด อารมณ์ขึ้น ก็เลยพูดแบบนี้ออกมา แต่เมื่อทางร้อยเวรเข้ามาขอโทษขอโพยกันแล้วก็ให้แล้วกันไป" นายภพศักดิ์ กล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
