สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก rs.co.th
หลังจากมีกระแสข่าวว่ามีคลิปของนักร้องคนอื่นๆ อย่าง เกิร์ลลี่ เบอร์รี่ (Girly Berry) และ เจมส์-เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ หลุดออกมา ทำให้กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์นั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี (ผบก.ปดส.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้ข่าวมาเหมือนกัน รู้ว่ามีจริง แต่ไม่มีหลักฐาน และรู้แค่ว่าชั้นล่างเหมือนกัน
นอกจากนั้น พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าคดีแอบถ่ายคลิปวิดีโอนักร้องสาววัยรุ่น โฟร์-สกลรัตน์ วรอุไร และ มด-คุณัชญา ชัยรัตน์ สังกัดบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ว่า หลังจากได้ลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่นสอบปากคำพยาน และเมื่อนำมาประมวลกับคำให้การของ นายวิชาญ ปะกิระนันท์ หรือ โด้ พ่อครัวโรงแรม, นายธีระชัย มูลรัตน์ หรือ อู๊ด เจ้าของโทรศัพท์มือถือโนเกีย รุ่น N72 และนายรุ่งโรจน์ ตันศิริ หรือ ตี๋ รปภ.โรงแรม ที่เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนนั้นปรากฏว่า ประเด็นที่นายวิชาญอ้างว่าเห็นนายปิยะนัสกำลังถ่ายมือถือ จึงขึ้นไปเบียดดูกับนายปิยะนัส หลังจากถ่ายเสร็จก็นำคลิปไปให้นายธีระชัย นายรุ่งโรจน์ และนายสุพจน์ ภู่ถาวร อายุ 42 ปี พนักงานโรงแรมดูคลิปที่นอกโรงแรม
ผบก.ปดส.กล่าวต่อว่า ประเด็นต่อมาจากคำให้การของนายธีระชัย ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือนั้น นายธีระชัยไม่มีหลักฐานยืนยันว่าใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นโนเกีย N72 ที่สำคัญนายธีระชัยให้การอ้างว่าโทรศัพท์มือถือยี่ห้อรุ่นนี้ถูกผู้หญิงที่พามานอนด้วยขโมยไป แต่กลับไปแจ้งความลงประจำวันแค่ว่าซิมหาย ส่วนนายรุ่งโรจน์ อ้างว่าเป็น รปภ.โรงแรม ให้การว่าเห็นนายปิยะนัสแอบถ่ายอยู่คนเดียว ซึ่งขัดกับคำให้การของนายวิชาญที่อ้างว่าไปแอบดูพร้อมกับนายปิยะนัส แสดงว่ามีสองคน แต่นายรุ่งโรจน์กลับให้การว่าเห็นนายปิยะนัสอยู่คนเดียว
ผบก.ปดส. กล่าวอีกว่า ได้สอบปากคำนางอารีย์ ญาติห่างๆ ของนายปิยะนัส ซึ่งเป็นแม่ครัวอยู่ในโรงแรม โดยนางอารีย์ยืนยันว่านายปิยะนัสเป็นคนดี ไม่เคยมีแฟนสาวอยู่ในจังหวัดขอนแก่น และไม่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีมากมายอะไร อีกทั้งยังใช้โทรศัพท์รุ่นเก่ามองหน้าปัดแทบไม่เห็น หลังเกิดเรื่องนายเนมได้โทรติดต่อหาพ่อแม่ร้องไห้ทั้งน้ำตาบอกไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือถึงต้นสังกัดของนายปิยะนัสแล้วว่าจะไปสอบปากคำในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ หลังจากสอบปากคำพยานปากนี้เสร็จแล้ว ก็จะมีพยานหลักฐานพอที่จะไปอนุมัติหมายจับพนักงานโรงแรมทั้ง 3 คนที่มาสมอ้างว่าเป็นผู้ร่วมแอบถ่ายคลิปฐานให้การอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน
"กระแสข่าวเบื้องลึกทราบมาว่า ผู้ต้องหาที่แท้จริงหรือผู้บงการอยากมอบตัวใจจะขาด แต่มีนักจัดฉาก นักสร้างบ้านทรายทองว่าอย่าไปมอบตัว เดี๋ยวพังกันหมด ตอนนี้ตำรวจล่อหลุมไว้ 8 หลุม 3 คนลงไปแล้ว 2 หลุมน้ำท่วมคอจะถึงจมูกอยู่แล้ว ทั้งหมดเป็นเรื่องจริงที่ปรากฏจากการสอบสวนว่า พยานแต่ละปากให้การขัดกันไปขัดกันมา แต่หนึ่งในสามมีส่วนร่วมด้วยช่วยกัน แอบดูด้วยเท่านั้น ส่วนผู้หญิงที่อ้างว่าเป็นเจ้าของโน้ตบุ๊กนั้นเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมา จริงๆ แล้วโน้ตบุ๊กเป็นของไอ้โม่งที่เป็นคนทำลงโน้ตบุ๊ก แล้วเอาไปแจกในโรงแรม ในผับ ไม่ใช่ไม่รู้ ผู้การรู้อยู่แล้วว่าใครทำ" ผบก.ปดส. กล่าว
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ยังระบุด้วยว่า สาเหตุที่ต้องสืบสวนสอบสวนคดีนี้ไม่ใช่เพราะอยากดัง แต่ที่ทำคดีนี้เพราะอยากให้ประชาชนรู้ความจริงถึงขบวนการต่างๆ ซึ่งเอาความเดือดร้อนของโฟร์-มดมาสร้างภาพ สำหรับตนถ้าจะเด่นดังขอให้มาจากผลงาน และไม่ใช่มาจากความทุกข์ของคนอื่น เพราะตนได้บอกกับต้นสังกัดไปก่อนหน้านี้แล้วว่าให้ปฏิเสธไปว่าไม่ใช่คลิปของผู้เสียหาย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
