ดูหนัง อีติ๋มตายแน่ หนัง อีติ๋มตายแน่

กำหนดฉาย : 9 ตุลาคม 2551
นำแสดง : อุดม แต้พานิช, ASUKA, คริส หอวัง, เก่ง - ชาติชาย งามสรรพ์, เหมี่ยว - ปวันรัตน์ นาคสุริยะ, บอมบ์และ บอย สินเจริญบราเธอร์ส
กำกับ : ยุทธเลิศ สิปปภาค
บทภาพยนตร์ : อุดม แต้พานิช

          สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล กอดคอ โอบเอว มหาการพิคเจอร์ส เต็มใจเสนอ อีติ๋มตายแน่ ผลงานกำกับภาพยนตร์ลำดับที่ 9 ของ ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค ภาพยนตร์โรแมนติคปนขำในแบบฉบับโน้ส อุดม แต้พานิช กับงานเขียนบทภาพยนตร์ครั้งแรกในชีวิตพร้อมประกบ 2 นางเอก จาก 2ประเทศ ASUKA นางแบบสาวอาโนเนะจากแดนปลาดิบ คริส หอวัง ดีเจ นางแบบสาวจากแดนขวานทอง"อีติ๋มตายแน่" มาแน่ๆ 9 ตุลาคม ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

เรื่องย่อ

          ตึ๋ง นักมวยชกโชว์พัทยา                อยากจะเป็นฮีโร่ขึ้นมาอย่างใครเขา
          เห็นสะท้านฟ้าเท่ห์เลียนแบบเอา      หวังเป็นเป้านำทางสู่ดารา
          วันหนึ่งได้พบนางในฝัน                  อิเตมิ คนนั้นที่ใฝ่หา
          จู่ๆ เธอก็เดินหลงเข้ามา                อยากรู้ว่านี่จริงหรือฝันไป
          ฝันหวานไม่นานก็จบ                      เมื่อเธอพบกับคนที่เด่นกว่า
          คนๆ นั้นคือฮีโร่ที่ศรัทธา                  สะท้านฟ้าสะท้านใจทำไงดี
          มะขิ่น คนดีอยู่ใกล้ๆ                      กลับมองข้ามหัวไปได้เสียนี่
          กว่าจะรู้ว่าตนมีของดี                       อาจจะถึงวันที่สายเกินไป

                                                                                                    โดย อุดม แต้พานิช

บุคลิกตัวละคร "อีติ๋มตายแน่"

ตึ๋ง ฟ้าสะท้าน ส.สะพานปลา รับบทโดย อุดม แต้พานิช

          ชายไทยวัย 30 เศษๆ ใช้ชีวิตปักหลักอยู่พัทยา มีปมลึกๆ ในใจว่า เป็นคนที่ไม่มีใครเอา หวาดระแวงกับความรัก เคยมีแฟนแต่ถูกทิ้ง จึงต้องเป็นฝ่ายชิงบอกเลิกก่อนทุกครั้ง เลยไม่กล้ารักใครอีก จีบเล่นๆ หยอดไปเรื่อย แต่เอาจริงก็ปอด ชีวิตไม่เคยทำอะไรจริงจัง ต่อยมวยหลอก สู้จระเข้ก็หลอก ทำจริงอยู่อย่างเดียวคือให้ข้าวหมาจรจัด ใช้ชีวิตเลียนแบบฮีโร่ ยึดสะท้านฟ้า ส. อัศวินดำเป็นต้นแบบ ทั้งชื่อ เสื้อผ้า ยานพาหนะ ด้วยความเชื่อลึกๆ ว่ามันจะทำให้เขาดูเก่ง ดูประสบความสำเร็จ และได้รับการยอมรับเช่นกัน

ประวัติอุดม แต้พานิช (โน้ส)

          พิธีกร,นักคิด,นักเขียน,ศิลปิน,นักแสดงมากฝีมือ ผู้มีบุคลิกเฉพาะตัวอันโดดเด่นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง "อารมณ์ขันอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร" ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกถ่ายทอดผ่านการมองโลกในแง่ดี ของเขามักประสบความสำเร็จเป็นที่ชื่นชอบและชื่นชมจากแฟนๆ มาตลอดกว่า 2 ทศวรรษที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทใด

          ทั้งในฐานะนักเขียนที่มี "ครั้งหนึ่งในชีวิตแตงโมปั่น" เป็นผลงานเขียนครั้งแรกปรากฎอยู่ในนิตยสารไปยาลใหญ่ที่มีศุ บุญเลี้ยงเป็นบรรณาธิการ ก่อนที่จะฝากตัวเองในฐานะฝ่ายศิลป์ของสำนักพิมพ์ศิษย์สะดือและรับผิดชอบคอลัมน์ต่างๆ โดยใช้นามปากกาว่า "โน้สหน้ามึน หลานเจ๊นี้ขายผลไม้" ใครจะไปคิดว่าหลังจากนั้นอีกหลายปีต่อมาโน้สอุดมจะเป็นเจ้าของผลงานเขียนที่ตีพิมพ์มาแล้วถึง20 เล่ม นับตั้งแต่งานเขียนเล่มแรกอย่าง "โทษฐานที่รู้จักกัน" มาจนถึง "Domcumentary"

          จึงไม่แน่แปลกใจที่ผลงานเขียนส่วนใหญ่ของเขามักติดอันดับฺ BEST SELLER หนังสือขายดี แทบทั้งสิ้น ในขณะที่บางเล่มมียอดพิมพ์สูงสุดถึง33 ครั้ง และมีการตีพิมพ์เป็นภาษาต่างประเทศอาทิ หนังสือโป๊ และ GU 123 หรือในฐานะพิธีกรอารมณ์ทะเล้น "เสนาโน้ส" จากรายการ "ยุทธการขยับเหงือก" ที่ทำให้ชื่อของโน้สอุดมเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ ด้วยความสามารถอันหลากหลายและไอเดียอันมากล้น ความเป็น โน้ส อุดม ยังถูกนำเสนอผ่านงานแสดงศิลปะที่เจ้าตัวเรียกว่า "การบำบัด" ซึ่งผ่านการพรั่งพรู และหลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี2542 นับตั้งแต่ "ยาระบาย" ซึ่งจัดขึ้นที่ อะเบาท์ คาเฟ่ กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกต่อเนื่องมาจนถึง ปี 2550 กับ Myspace ในงาน FAT FESTIVEL#7 ซึ่งจัดที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2-3 เมืองทองธานี และบางปีได้มีการเดินทางไปบำบัดถึงเชียงใหม่ และข้ามน้ำทะเลไปจนถึงประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว

          แต่ที่ประสบความสำเร็จสร้างชื่อเสียงอย่างขีดสุดให้กับ อุดม แต้พานิช นั่นคือผลงานการแสดง Stand Up Comedy ที่รู้จักกันในชื่อของ "เดี่ยวไมโครโฟน" สร้างปรากฎการณ์ความสำเร็จอย่างมหาศาล และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันมาแล้วถึง 7.5 ครั้ง ทำการเปิดการแสดงมาแล้วไม่ต่ำกว่า180 รอบ นับตั้งแต่การแสดงเดี่ยวครั้งแรกในปี 2538

          ในส่วนของการแสดง อุดม แต้พานิช ผ่านทั้งงานละครเวที โดยเริ่มจาก "ความรักของมาลัยในห้องไอซียู" ตามด้วย "บริษัทกำจัดฝันจำกัด", "สัตว์เลี้ยงลูกด้วยเงิน", "บ่งหนามออกแล้วบอกรัก" และ "ชายกลาง โศกนาฏกรรมในจังหวะแทงโก้" ในขณะที่ผลงานทางด้านภาพยนตร์เริ่มต้นจากบทสมทบใน "ขอชื่อสุธีสามสี่ชาติ", "โตแล้วต้องโต๋" และรับบทนำอย่างเต็มตัวใน "กล่อง" จากผลงานการกำกับของ "มจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล" ตามด้วย "โคตรรักเอ็งเลย" ของผู้กำกับ "พิง ลำพระเพลิง" ที่ทำให้สามารถคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม คมชัดลึกอวอร์ด และ "เมล์นรก หมวยยกล้อ" มาจนถึง "อีติ๋มตายแน่" แฟนๆ จะได้พบกับ ความสามารถอีกด้านหนึ่งนอกเหนือจากงานแสดงที่ อุดม แต้พานิช ตั้งใจถ่ายทอดลงในผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุด นั่นคือการลงมือเขียนบทภาพยนตร์เป็นครั้งแรกอีกด้วย

อิเตมิ (อีติ๋ม) รับบท โดย ASUKA นางแบบสาวคลื่นลูกใหม่ชาวญี่ปุ่น

สาวญี่ปุ่นวัยก่อนเบญจเพส จากโอซาก้าที่มาหลงเสน่ห์เมืองไทย ไปเที่ยวกรุงเทพมา ไปเที่ยวเชียงใหม่มาก็แล้ว ก็ยังไม่พบอะไร แต่ที่พัทยาเธอคิดว่าเธอพอจะได้คำตอบแล้ว เพียงแต่เธอยังเลือกไม่ได้ว่าจะกาข้อ ก. ข้อ ข. หรือจะถูกทุกข้อ ชอบทะเล ชอบนักมวยไทย ชอบอาหารไทยรสจัด ตื่นเต้นกับวัฒนธรรมการจับแพะชนแกะของไทย อาทิ เอาขวดโค้กมาใส่น้ำปลา เอาแผ่นซีดีมาไล่แมลงวัน

มะขิ่น รับบทโดย คริส หอวัง

สาวกะเหรี่ยงกลายพันธุ์จากแม่ฮ่องสอน ลงมาเรียนราชภัฏเชียงใหม่ ดร็อปเรียน 1 ปี มาหาค่าเทอมที่พัทยา ด้วยการขายของที่ระลึกฝีมือชาวไทยภูเขา จริงบ้าง ปลอมบ้าง และของใช้จิปาถะปนๆ กันไป อาทิ กบไม้ ยาดมพม่า สร้อยกำไลลูกปัด ย่ามใส่มือถือ อะไรได้เงินเอาหมด แม้จะถ่ายรูปด้วยก็ยังคิด 20 บาท ชอบกินทุเรียน ถือเป็นการให้รางวัลแก่ชีวิต แอบชอบตึ๋ง ถูกใจเพราะเป็นคนทะลึ่งตึงตัง ชอบพูดกระเซ้า หยอกนั่น อำนี่ให้เธอได้หัวเราะ แต่ลึกๆ ก็เจียมใจ ไม่คิดว่าคนไทยจะมารักกะเหรี่ยงอย่างเธอได้ ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ยังมีใครซักคนในพัทยาให้เธอได้คิดถึง

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก