ช่วงนี้เด็กๆหลายโรงเรียนได้เวลาปิดเทอมกันแล้ว เวลาว่างอย่างนี้บางคนไปเรียนกวดวิชา แต่ว่าหลายคนเท่ากับมีเวลาเล่นเกมคอมพิวเตอร์มากขึ้น
เรื่องของเกมคอมพิวเตอร์นั้น มีสถานที่เล่นได้ทั้งที่ร้านเกมทั่วไปและในบ้านเอง ข้อมูลจากกลุ่มงานเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ระบุว่า เด็กและเยาวชนใช้เวลาโดยเฉลี่ยวันละ 2 ชั่วโมงไปกับการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ และ ร้อยละ 80 ของเด็กที่ติดเกมเลือกเล่นเกมแนวต่อสู้
คุณหมอวินัดดา ปิยะศิลป์ แห่งสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ผู้ให้ความสนใจเรื่องเด็กกับเกม บอกกับ "ต้นคิด" เดือนกันยายน 2551 จดหมายข่าวรายเดือนสำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ ว่าการช่วยเหลือเด็กติดเกมเป็นความจำเป็นเร่งด่วนระดับประเทศ
ผู้ปกครองควรสังเกตว่าเด็กมีพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่ หากมีพฤติกรรมเข้าข่ายก็ชี้ได้เลยว่า "เด็กติดเกม" ลองมาดูกัน
- เด็กใช้เวลาเล่นเกมเกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน
- การเล่นนั้นรบกวนหน้าที่ การเรียน ขาดทักษะสังคม ขาดความสัมพันธ์ในบ้าน และกับเพื่อนนอกบ้าน
- เล่นเกมอย่างหมกมุ่นจริงจัง ขาดไม่ได้ จะมีอาการรุนแรง อารมณ์เสีย
- บุคลิกภาพผิดไปจากเดิม
- ใช้เงินมาก แอบทำ โกหก ขโมยเงินไป
คุณหมอวินัดดา ปิยะศิลป์ แห่งสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ยังแนะนำวิธีแก้เกมเด็กติด ให้แก่ผู้ปกครองว่า
1. ผู้ปกครองต้องตกลงกติกาให้ชัดเจน พยายามให้ลดหรือเลิก ถ้าลดให้จัดเวลากันใหม่ เช่น จากเดิมเล่นทุกวัน วันละ 3 ชั่วโมงให้ลดลงสัปดาห์แรกเหลือวันละ 2 ชม. สัปดาห์ที่ 2 ให้เล่นวันละ 1 ชม. สัปดาห์ที่ 3 ให้เล่นเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ ไม่เกินวันละ 1 ชม.
2. ผู้ปกครองต้องเอาจริงกับข้อตกลง ด้วยสีหน้า ท่าทาง
3. ตกลงทดลองปฏิบัติเป็นเวลาที่แน่นอน เช่น ทดลอง 1 เดือนแล้วกลับมาประเมินผลร่วมกัน
4. กำหนดทางปฏิบัติเมื่อเกิดปัญหา เช่น ถ้าลูกไม่ทำตาม แม่จะทำอะไร จะให้ช่วยอย่างไร
5. บันทึกผลการช่วยเหลือและนำมาพูดคุยกันเป็นระยะๆ ชมในเรื่องที่ทำไปแล้วได้ผลดี ข้อใดยังทำไม่ได้ ให้กลับมาติดตามงาน
6. ประเมินผลเมื่อครบเวลาที่ตกลงกันไว้
7. ปรับกติกากันใหม่ถ้ามีปัญหาความร่วมมือ หรือทำไม่ได้
8. จูงใจให้อยากเลิกด้วยตนเอง
9. สร้างความสามารถในการควบคุม เสริมทักษะการควบคุมตนเอง
10. จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ ไม่มีสิ่งกระตุ้นเรื่องเกม
11. จัดกิจกรรมให้ใช้เวลาที่เคยเล่นเกม เป็นกิจกรรมที่สนุกอย่างอื่น อย่าปล่อยให้ว่าง
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก