x close

ด.ต.วิชัย - ตาสงัด ได้รับยกย่องเป็นอัศวินโลกร้อน

ด.ต.วิชัย สุริยุทธ



สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทีวีบูรพา, หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

          เรื่องภาวะโลกร้อนยังคงเป็นประเด็นฮอตฮิตไม่เสื่อมคลาย เพราะแต่ละประเทศก็ได้เริ่มตื่นตัวหันมาหามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา ได้มีกลุ่มบุคคลหนึ่งที่เห็นความสำคัญของปัญหาโลกร้อน และเริ่มรณรงค์ยุทธวิธีต่างๆ ที่จะยุติภาวะโลกร้อน ทำให้กลุ่มบุคคลเหล่านี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็น "อัศวินโลกร้อน"

          สอดคล้องกับนิตยสารไทม์ (Time) ฉบับวันที่ 6 ตุลาคม 2008 ที่ได้จัดทำนิตยสารฉบับพิเศษ "Heroes of The Environment" เพื่อยกย่อง "วีรบุรุษสภาพแวดล้อม" ทั้ง 32 คนทั่วโลก วันนี้เราจึงนำ 6 อัศวินโลกร้อน จากหลากหลายอาชีพ มาแนะนำให้ได้รู้จักกัน

1. ด.ต.วิชัย สุริยุทธ

          หลายคนคงรู้จักชื่อ "ดาบวิชัย" ผู้สร้างป่า ตลอดเวลา 20 ปี ด.ต.วิชัย สุริยุทธ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.อ.ปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ปลูกต้นไม้มาแล้วกว่า 2 ล้านต้น ในพื้นที่ต่างๆ โดยเขาได้แนวคิดนี้มาหลังจากการได้เข้าร่วมอบรมโครงการแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง เมื่อปี 2530 ที่เน้นเรื่องความสงบสุขของชาวบ้าน และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่สำคัญคือมีการเชิดชูคนดีที่เสียสละเวลาเพื่อส่วนรวม โดยสามารถเริ่มได้ง่ายๆ จากตนเอง ตั้งแต่นั้นเขา ดาบวิชัยก็ได้ลงมือปลูกต้นไม้ต้นแรก เมื่อปี 2530

2. ตาสงัด อินมะตูม 


ตาสงัด อินมะตูม



          ด้วยวัย 88 ปี ก็ไม่ทำให้คุณตาย่อท้อต่อการอุทิศตัวเพื่อช่วยโลก ตาสงัดเป็นที่รู้จักกันในฐานะ "คนปลูกต้นไม้แห่งพรหมพิราม"  หลังจากได้ออกรายการ "ฅนค้นคน" เมื่อปี 2548 โดยปลูกต้นไม้ในพื้นที่วัดทั้งหมด 5 วัด เป็นพื้นที่กว่า 45 ไร่ ตั้งแต่ปี 2524 เป็นต้นมา ทำให้บริเวณวัด 5 แห่ง เป็นป่าเขียวขจีอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้และสัตว์นานาชนิด ทั้งที่ตาสงัดเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้ร่ำรวย ไม่ได้มีความรู้เรื่องภาวะโลกร้อนอะไรนัก แต่ตาสงัดก็เลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างพอเพียง และการปลูกต้นไม้นี้ก็เพื่อทำบุญถวายในหลวงและพระราชินีพ่อและแม่ของแผ่นดิน

3. อัล กอร์ 

นายอัล กอร์



          อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักเขา เพราะหลังจากพลาดการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อ 4 ปีก่อน อัล กอร์ ก็สวมบทบาทนักวิชาการ เผยแพร่ความรู้เรื่องโลกร้อนผ่านทางหนังสือและสารคดีวิทยาศาสตร์ An Inconvenient Truth ว่ากันว่าสารคดีชื่อดังชุดนี้ ทำให้เกิดการตื่นตัวและฉุกคิดถึงความรุนแรงของปัญหาโลกร้อนกันในหลายพื้นที่ทั่วโลก ความพยายามของอัล กอร์ เกี่ยวกับเรื่องภาวะโลกร้อน ทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพประจำปี 2007

4. มิคาอิล กอร์บาชอฟ 

มิคาอิล กอร์บาชอฟ



          อดีตประธานาธิบดีสหภาพโซเวียต (เดิม) ก่อนการล่มสลายของสหภาพโซเวียต แม้เขาจะไม่เป็นที่รู้จักในบทบาทเกี่ยวกับเรื่องโลกร้อน เหมือนกับอัล กอร์ แต่กอร์บาชอฟก็มีผลงานด้านสิ่งแวดล้อมอยู่หลายชิ้น โดยเมื่อปี 1993 กอร์บาชอฟ ได้ตั้ง องค์กรระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ชื่อ Green Cross International มีสมาชิก 31 ประเทศเข้าร่วม และได้ก่อตั้งGreen Cross National Organization ขึ้นมา เป็นสาขาของแต่ละประเทศ ซึ่งองค์กรนี้ได้มีบทบาทอย่างเป็นรูปธรรมในการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้งเรื่องโลกร้อนด้วย

5. เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน 


 เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน



          นักธุรกิจชาวอังกฤษ เจ้าของเครือข่ายบริษัท Virgin ด้วยธุรกิจมากมายของเขาทำให้เขาได้รับการจัดอันดับเป็นมหาเศรษฐีลำดับที่ 245 ของโลก เมื่อปี 2008 จากการสำรวจของนิตยสาร Forbes ก่อนนั้นเซอร์ ริชาร์ด แบรนสันไม่เชื่อว่าภาวะโลกร้อนมีต้นเหตุจากฝีมือมนุษย์ แต่เมื่อได้เจอและแลกเปลี่ยนความเห็นกับ อัล กอร์ ทำให้เขาเปลี่ยนความคิด และหันมาให้การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาโลกร้อนได้ โดยนำผลกำไรของธุรกิจประมาณ 3,000 ล้านเหรียญ สนับสนุนโครงการพัฒนาเชื้อเพลิงที่จะใช้กับเครื่องบิน และอื่นๆ แทนเชื้อเพลิงฟอสซิล ต้นเหตุใหญ่ของภาวะโลกร้อน นอกจากนั้นในปี 2007 เขายังตั้งรางวัล The Virgin Earth Challenge (การท้าทายโลกเวอร์จิน) ให้สำหรับผู้ที่สามารถออกแบบระบบที่ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าสู่บรรยากาศได้ โดยมีเงินรางวัลสูงถึง 25 ล้านเหรียญสหรัฐ

6. ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ 

ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ

          หลายคนรู้จัก ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ จากภาพยนตร์ยอดฮิต "ไททานิค" แต่อีกบทบาทของเขาก็คือผู้หนึ่งที่อุทิศตนรณรงค์เรื่องโลกร้อน เริ่มจากการเดินทาง ลีโอนาร์โดจะเลือกเดินทางโดยเครื่องบินพาณิชย์ แทนการนั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ซึ่งจะสูญเสียน้ำมันมากกว่า และลีโอนาร์โดได้เลือกขับรถยนต์ประเภทไฮบริด ที่จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าสู่บรรยากาศน้อยกว่ารถยนต์ขับเคลื่อนด้วยเบนซินอย่างเดียว ไม่เพียงเท่านั้นลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ยังสร้างภาพยนตร์สารคดีวิทยาศาสตร์เรื่อง The 11th Hour ที่คล้ายกับสารคดี An Inconvenient Truth เพื่อเตือนภัยสภาวะโลกร้อนที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ และสะท้อนให้เห็นผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงตามชื่อภาพยนตร์ที่หมายถึง "ชั่วโมงสุดท้ายก่อนตาย" (ตามลำดับการนับ 1 ถึง 12) โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เขาเป็นทั้งผู้อำนวยการผลิต นักแสดง และให้เสียงบรรยาย อีกทั้งยังมีผู้มีชื่อเสียงกว่า 50 คนมาร่วมแสดง ไม่ว่าจะเป็นมิคาอิล กอร์บาชอฟ หรือ สตีเฟน ฮอว์คิง

          ได้รู้จัก 6 อัศวินกู้โลกร้อนกันไปแล้ว จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ในซีกโลกไหน ก็สามารถช่วยโลกของเราได้ แล้วคุณล่ะคะ วันนี้ได้ทำอะไรเพื่อปลดปล่อยโลกของเราให้หลุดพ้นจากพันธนาการโลกร้อนแล้วหรือยังเอ่ย?



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ด.ต.วิชัย - ตาสงัด ได้รับยกย่องเป็นอัศวินโลกร้อน อัปเดตล่าสุด 12 พฤศจิกายน 2551 เวลา 07:15:18 11,776 อ่าน
TOP