ตรวจเข้มลอยกระทง ป้องกันล่วงละเมิดเพศ เล่นดอกไม้ไฟอันตราย
หลายหน่วยงานพร้อมใจประกาศมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนในเทศกาลลอยกระทงคืนวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 12 พ.ย. อย่างเข้มงวด โดยเมื่อช่วงสายของวันที่ 11 พ.ย. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายอุดมเดช รัตนเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แถลงข่าว "ลอยกระทงสุขใจ ปลอดภัยทั้งครอบครัว" ว่า พม.ได้ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงมหาดไทย สั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัด ร่วมกันสอดส่องดูแลพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของวัยรุ่นในช่วงเทศกาลดังกล่าว รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการหอพักให้ ตรวจตราอย่างสม่ำเสมอและเพิ่มแสงสว่างบริเวณพื้นที่ที่เป็นมุมอับ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนใช้พื้นที่กระทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม หากผู้ใดพบเห็นเด็กและเยาวชนที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายสามารถโทร.แจ้งได้ที่ศูนย์ ประชาบดี หมายเลข 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า สตช.มีการเตรียมพร้อมดูแลทุกข์สุขของประชาชนในช่วงประเพณีลอยกระทงอย่างเต็มที่ ทั้งการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเล่นดอกไม้เพลิง การก่อความรำคาญและเมาไม่ขับเป็นต้น โดยระดมกำลังในการดูแลทุกสถานที่ที่จัดงาน รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปกวดขันตรวจตราดูแลในพื้นที่เสี่ยง อาทิ สถานบริการ ร้านเกม หอพักและสวนสาธารณะ ซึ่งเด็กและเยาวชนอาจใช้เป็นพื้นที่ในการกระทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมโดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์
ส่วนนายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวถึงความเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ ของเยาวชนในช่วงเทศกาลลอยกระทงว่า การมีเพศสัมพันธ์ของเยาวชนเป็นปัญหาระดับประเทศที่เกิดขึ้นทุกวัน แต่ผู้ใหญ่หรือผู้เกี่ยวข้องมักจะให้ความสำคัญและตื่นตัวในการรณรงค์ เป็นช่วงๆ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล รวมถึงการทำโพลวิจัยก็มักจะทำตามกระแสเฉพาะช่วงวันลอยกระทง-วันวาเลนไทน์ จึงอยากเรียกร้องให้สังคมตื่นตัวและให้ความสำคัญในการรณรงค์ยุติการล่วงละเมิดทางเพศ การกระทำความรุนแรงต่อสตรีอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านทัศนคติและโครงสร้างให้กลายเป็นบรรทัดฐานว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ผิด รวมถึงการใช้สื่อก็ควรจะเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์ เพราะเวลานี้ละครทางทีวีมักจะแพร่ภาพสนับสนุนให้ผู้หญิงถูกกระทำความรุนแรงมากขึ้น
ที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อเวลา 14.30 น. วันเดียวกัน นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อมอบหมายและกำชับให้นายทะเบียนท้องที่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตราร้านค้าหรือแหล่งผลิตดอกไม้เพลิง หากพบว่าไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการทางกฎหมายได้ทันที และให้พิจารณาการทำ การสั่งการนำเข้า หรือการค้าดอกไม้เพลิงอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ยังประสานขอความร่วมมือเจ้าพนักงานท้องถิ่นซึ่งมีอำนาจออกคำสั่งระงับและป้องกันเหตุเดือดร้อนรำคาญ โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พิจารณากำหนดพื้นที่ที่ไม่สมควรให้มีการเล่นดอกไม้เพลิง เนื่องจากจะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ทันที
ด้านนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า ขอให้ประชาชนยึดถือระเบียบกฎเกณฑ์ ในการเล่นดอกไม้เพลิง และไม่ควรแก้ไข ดัดแปลงให้เกิดเสียงดังสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น เพราะจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และหากเกิดอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินก็จะมีความผิดทั้งทางแพ่ง และอาญา สำหรับร้านค้าขอให้ปฏิบัติตามแนวทางที่ปฏิบัติเกี่ยวกับดอกไม้เพลิงตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธ อย่างเคร่งครัด หากพบว่าร้านค้ารายใดไม่ปฏิบัติตาม นายทะเบียนท้องที่จะพิจารณาเกี่ยวกับการขอต่อใบอนุญาตปีต่อไป
ส่วนนายวราวุธ ศิลปอาชา รมช.คมนาคม กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย ในช่วงเทศกาลลอยกระทงโดยเฉพาะบริเวณท่าเรือต่างๆ ว่า อุบัติเหตุโป๊ะเรือล่มไม่น่าจะเกิดขึ้นแล้ว เพราะปัจจุบันโครงสร้างของโป๊ะมีความแข็งแรงแต่ก็ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าในการรักษาความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุโดยการควบคุมจำนวนคนลงโป๊ะเรือ เช่น นักท่องเที่ยวหรือคนที่มาลอยกระทงพลัดตกแม่น้ำ ขณะเดียวกันกรมการขนส่งทางน้ำจะนำเรือตรวจการณ์ 12 ลำ ออกวิ่งตรวจภายในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจะแบ่งออกเป็น 5 โซนกระจายระวังเหตุในแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดคืนวันที่ 12 พ.ย. โดยตนจะร่วมลงเรือตรวจการณ์ไปกับเจ้าหน้าที่ด้วย ทั้งนี้ ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ระมัดระวัง อย่าประมาทในการร่วมในเทศกาลลอยกระทง โดยไม่ดื่มจนมึนเมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ แต่ถ้าประชาชนประสบอุบัติเหตุ ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่สายด่วนทางน้ำได้ที่หมายเลข 1199 ได้ทันที
เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง น.ส.วีรินทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.รับทราบแผนปฏิบัติการรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทงตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดให้บริการและอำนวยความสะดวกกับประชาชนอย่างพอเพียง และไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางน้ำในเทศกาลลอยกระทง โดยแบ่งออกเป็น 3 แผนงาน ได้แก่ ...
1. แผนงานการให้บริการและอำนวยความสะดวก อาทิ การเปิดโทรศัพท์สายด่วน 1356 แก้ไขปัญหาการเดินทางให้แก่ประชาชน
2. แผนงานด้านความมั่นคง โดยกรมทางหลวงชนบทจะจัดเจ้าหน้าที่ประจำบนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเฝ้าระวัง ตรวจสอบค้นวัตถุต้องสงสัยและบุคคลต้องสงสัย นอกจากนี้ยังมีการเฝ้าระวังผ่านโทรทัศน์วงจรปิดในหลายจุด อาทิ สะพานพระราม 9 สะพานวงแหวนอุต-สาหกรรมที่ใช้ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จ.สมุทรปราการ และ ถนนวงแหวน จ.เชียงใหม่ ด้วย
3. แผนงานด้านความปลอดภัย อาทิ การจัดเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงดูแลความปลอดภัย 1,200 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอีก 2,000 คนเป็นต้น
ทางด้านนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทงว่า อยากจะให้ประชาชนหลีกเลี่ยงบริเวณสถานที่ที่มีการชุมนุมประท้วง การเล่นสนุกที่อยู่ในขอบเขตของความปลอดภัย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
